ชาจากเกสรบัว
รายงานวิจัยระบุว่า ต้นบัวแทบทุกส่วนมีสรรพคุณทางยาในการรักษาโรค เช่น ส่วนเมล็ดบัว บำรุงประสาท, ดีบัว ขยายหลอดเลือดหัวใจ ดอก บำรุงหัวใจ คนโบราณจึงนิยมนำส่วนต่างๆ ของบัวไปรับประทานกันในรูปแบบต่างๆ ทั้งสดและแห้ง
นายภูรินทร์ อัครกุลธร นักวิจัย มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี นำภูมิปัญญาพื้นบ้านของไทยในการใช้ประโยชน์จากดอกบัวมาต่อยอดในเชิงธุรกิจเพื่อให้ผู้ที่สนใจนำไปทำเป็นการค้าได้ โดยนำส่วนของเกสรบัวและกลีบดอกบัวสายพันธุ์ที่มีกลิ่นหอม เช่น บัวผัน บัวหลวง บัวสายพันธุ์ต่างประเทศ ทุกระยะการเจริญเติบโตมาศึกษา และทดลองแปรรูปชงเป็นชาพร้อมดื่ม พบว่าดอกบัวผันมีศักยภาพที่จะนำมาชงชาได้ดีที่สุด เพราะบัวดังกล่าวเป็นบัวไทยมีอยู่นับร้อยสายพันธุ์
ทีมวิจัยเน้นนำดอกบัวผันที่เริ่มโรยแล้ว มาเด็ดส่วนเกสรและกลีบดอกให้เป็นชิ้นๆ แล้วอบด้วยลมร้อนพลังงานแสงอาทิตย์ที่อุณหภูมิ 60 ถึง 70 องศาเซลเซียส ซึ่งจะทำให้กลีบดอก และ เกสรบัว ยังคงสรรพคุณทางยาอยู่ครบถ้วน โดยอบจนเกสรและกลีบดอกบัวแห้ง จึงนำไปบรรจุใส่ซองชา แล้วชงดื่ม จะได้น้ำชาสีน้ำตาลอ่อน มีกลิ่นหอมของดอกบัว และมีรสชาติหวานชุ่มคอ โดยไม่ต้องปรุงแต่งรสเพิ่มเติม