In addition to categorizing by type

In addition to categorizing by type of offering, most products intended for consumer use can be further categorized by how frequently and where they are purchased.

Convenience Products – These are products that appeal to a very large market segment. They are generally consumed regularly and purchased frequently. Examples include most household items such as food, cleaning products, and personal care products. Because of the high purchase volume, pricing per item tends to be relatively low and consumers often see little value in shopping around since additional effort yields minimal savings. From the marketer’s perspective the low price of convenience products means that profit per unit sold is very low. In order to make high profits marketers must sell in large volume. Consequently, marketers attempt to distribute these products in mass through as many retail outlets as possible.
Shopping Products – These are products consumers purchase and consume on a less frequent schedule compared to convenience products. Consumers are willing to spend more time locating these products since they are relatively more expensive than convenience products and because these may possess additional psychological benefits for the purchaser, such as raising their perceived status level within their social group. Examples include many clothing products, personal services, electronic products, and household furnishings. Because consumers are purchasing less frequently and are willing to shop to locate these products, the target market is much smaller than that of convenience goods. Consequently, marketers often are more selective when choosing distribution outlets to sell their products.
Specialty Products – These are products that tend to carry a high price tag relative to convenience and shopping products. Consumption may occur at about the same rate as shopping products but consumers are much more selective. In fact, in many cases consumers know in advance which product they prefer and will not shop to compare products. But they may shop at retailers that provide the best value. Examples include high-end luxury automobiles, expensive champagne, and celebrity hair care experts. The target markets are generally very small and outlets selling the products are very limited to the point of being exclusive.
In addition to the three main categories above, products are classified in at least two additional ways:

Emergency Products – These are products a customer seeks due to sudden events and for which pre-purchase planning is not considered. Often the decision is one of convenience (e.g., whatever works to fix a problem) or personal fulfillment (e.g., perceived to improve purchaser’s image).
Unsought Products – These are products whose purchase is unplanned by the consumer but occur as a result of marketer’s actions. Such purchase decisions are made when the customer is exposed to promotional activity, such as a salesperson’s persuasion or purchase incentives like special discounts offered to certain online shoppers. These promotional activities often lead customers to engage in Impulse Purchasing.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

นอกจากการจัดประเภทตามชนิดของเสนอ ผลิตภัณฑ์มากที่สุดสำหรับผู้บริโภคใช้สามารถเพิ่มเติมแบ่งประเภท โดยวิธีบ่อย และที่พวกเขาจะซื้อผลิตภัณฑ์สะดวก – เหล่านี้เป็นสินค้าที่ดึงดูดตลาดมีขนาดใหญ่มาก นอกจากนี้พวกเขาโดยทั่วไปจะใช้เป็นประจำ และซื้อบ่อย ตัวอย่างเช่นสินค้าในครัวเรือนส่วนใหญ่เช่นอาหาร การทำความสะอาดผลิตภัณฑ์ และผลิตภัณฑ์ดูแลส่วนบุคคล เนื่องจากปริมาณการซื้อสูง ราคาต่อสินค้ามีแนวโน้มที่จะค่อนข้างต่ำ และผู้บริโภคมักจะดูค่าน้อยเงียบรอบเนื่องจากความพยายามเพิ่มเติมทำให้ประหยัดน้อย จากมุมมองของตลาด ราคาสินค้าผ่อนต่ำหมายความ ว่า กำไรต่อหน่วยขายต่ำมาก เพื่อให้ผลกำไรสูง นักการตลาดต้องขายในปริมาณมาก ดังนั้น นักการตลาดพยายามที่จะกระจายผลิตภัณฑ์เหล่านี้ในมวลผ่านร้านค้าปลีกมากที่สุดช้อปปิ้งผลิตภัณฑ์ – เหล่านี้เป็นผลิตภัณฑ์ที่ผู้บริโภคซื้อ และใช้ตามกำหนดการพบได้น้อยเมื่อเทียบกับผลิตภัณฑ์มาใช้บริการ ผู้บริโภคยินดีที่จะใช้เวลาค้นหาผลิตภัณฑ์เหล่านี้จะค่อนข้างแพงกว่าสินค้าสะดวก และเนื่อง จากเหล่านี้อาจมีประโยชน์เพิ่มเติมทางจิตใจสำหรับผู้ซื้อ เช่นยกระดับการรับรู้สถานะภายในกลุ่มสังคมของพวกเขา ตัวอย่างเช่นในผลิตภัณฑ์เสื้อผ้า ส่วนบุคคล ผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์ และบริการเฟอร์นิเจอร์ในครัวเรือน เนื่องจากผู้บริโภคซื้อไม่บ่อยนัก และยินดีซื้อหาผลิตภัณฑ์เหล่านี้ ตลาดเป้าหมายมีขนาดเล็กกว่าที่มาใช้บริการสินค้า ดัง นักการตลาดมักจะได้งานมากขึ้นเมื่อเลือกร้านจำหน่ายขายผลิตภัณฑ์ของตนผลิตภัณฑ์พิเศษ – เหล่านี้เป็นผลิตภัณฑ์ที่มักจะมีแท็กราคาสูงเมื่อเทียบกับความสะดวกสบาย และซื้อผลิตภัณฑ์ ปริมาณการใช้อาจเกิดขึ้นที่เกี่ยวกับอัตราเดียวเป็นช้อปปิ้งผลิตภัณฑ์ แต่ผู้บริโภคจะเลือกมากขึ้น ในความเป็นจริง ในหลายกรณี ผู้บริโภคทราบล่วงหน้าผลิตภัณฑ์ที่พวกเขาต้องการ และจะไม่ซื้อผลิตภัณฑ์เปรียบเทียบ แต่พวกเขาอาจซื้อที่ร้านค้าปลีกที่มีค่าสุด ตัวอย่างเช่นรถยนต์หรูระดับ high-end แชมเปญราคาแพง และเซเลบริตี้ผมดูแลผู้เชี่ยวชาญ ตลาดเป้าหมายมีขนาดเล็กมากโดยทั่วไป และร้านขายผลิตภัณฑ์จะถูกจำกัดไปยังจุดที่พิเศษมากนอกจากสามประเภทหลักข้างต้น ผลิตภัณฑ์ประเภทเพิ่มเติมอย่างน้อยสองวิธี:ผลิตภัณฑ์ฉุกเฉิน – เหล่านี้เป็นผลิตภัณฑ์ที่ลูกค้าหา จากเหตุการณ์ฉับพลัน และไม่ถือเป็นการวางแผนซื้อล่วงหน้า มักจะตัดสินใจเป็นหนึ่ง (เช่น เพียงทำงานเพื่อแก้ไขปัญหา) ความสะดวกหรือตอบสนองส่วนบุคคล (เช่น มองเห็นภาพของผู้ซื้อการปรับปรุง)ผลิตภัณฑ์ unsought – เหล่านี้เป็นสินค้าซื้อจะไม่ได้วางแผน โดยผู้บริโภค แต่เกิดขึ้นจากการดำเนินการของตลาด ตัดสินใจซื้อเช่นจะเมื่อลูกค้าสัมผัสกับกิจกรรมส่งเสริมการขาย เช่นการจูงใจของพนักงานขาย หรือซื้อสิ่งจูงใจเช่นส่วนลดพิเศษแก่บางนักช็อปออนไลน์ กิจกรรมส่งเสริมการขายเหล่านี้มักจะนำลูกค้าในการซื้อกระแส

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

นอกจากนี้ในการจัดหมวดหมู่ตามประเภทของการเสนอขายผลิตภัณฑ์ส่วนใหญ่ที่มีไว้สำหรับการใช้งานของผู้บริโภคสามารถแบ่งต่อไปโดยความถี่และสถานที่ที่พวกเขาจะซื้อ. ผลิตภัณฑ์สะดวก - เหล่านี้เป็นผลิตภัณฑ์ที่ดึงดูดกลุ่มตลาดที่มีขนาดใหญ่มาก พวกเขามีการบริโภคโดยทั่วไปอย่างสม่ำเสมอและซื้อบ่อย ตัวอย่าง ได้แก่ สินค้าในครัวเรือนมากที่สุดเช่นอาหาร, ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดและผลิตภัณฑ์ดูแลส่วนบุคคล เนื่องจากปริมาณการซื้อสูงราคาต่อรายการมีแนวโน้มที่จะค่อนข้างต่ำและผู้บริโภคมักจะเห็นค่าน้อยในการช้อปปิ้งรอบตั้งแต่ความพยายามเพิ่มเติมอัตราผลตอบแทนเงินฝากออมทรัพย์น้อยที่สุด จากมุมมองของนักการตลาดที่ราคาต่ำของผลิตภัณฑ์ความสะดวกสบายหมายความว่ากำไรต่อหน่วยที่ขายอยู่ในระดับต่ำมาก เพื่อที่จะทำให้ผลกำไรสูงนักการตลาดจะต้องขายในปริมาณมาก ดังนั้นนักการตลาดพยายามที่จะจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เหล่านี้ในมวลผ่านร้านค้าปลีกมากที่สุดเท่าที่เป็นไปได้. สินค้าช้อปปิ้ง - เหล่านี้เป็นผู้บริโภคซื้อสินค้าและใช้ในเวลาบ่อยน้อยเมื่อเทียบกับผลิตภัณฑ์ความสะดวกสบาย ผู้บริโภคยินดีที่จะใช้เวลามากขึ้นตำแหน่งผลิตภัณฑ์เหล่านี้เนื่องจากพวกเขาจะค่อนข้างมีราคาแพงกว่าสินค้าที่สะดวกสบายและเนื่องจากเหล่านี้อาจมีผลประโยชน์ทางด้านจิตใจเพิ่มเติมสำหรับผู้ซื้อเช่นการยกระดับสถานะของพวกเขารับรู้ในกลุ่มสังคมของพวกเขา ตัวอย่างเช่นผลิตภัณฑ์เสื้อผ้าหลายบริการส่วนบุคคล, ผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์และการตกแต่งของใช้ในครัวเรือน เพราะผู้บริโภคจะซื้อไม่บ่อยและยินดีที่จะซื้อสินค้าที่จะหาผลิตภัณฑ์เหล่านี้ตลาดเป้าหมายมีขนาดเล็กกว่าที่ของสินค้าความสะดวกสบาย ดังนั้นนักการตลาดมักจะเลือกมากขึ้นเมื่อมีการเลือกร้านจำหน่ายขายผลิตภัณฑ์ของตน. ผลิตภัณฑ์พิเศษ - เหล่านี้เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีแนวโน้มที่จะดำเนินการกับป้ายราคาที่สูงเมื่อเทียบกับความสะดวกสบายและผลิตภัณฑ์การช้อปปิ้ง การบริโภคที่อาจเกิดขึ้นเกี่ยวกับอัตราเดียวกับการช้อปปิ้งสินค้า แต่ผู้บริโภคมีมากเลือกมากขึ้น ในความเป็นจริงในหลายกรณีผู้บริโภคทราบล่วงหน้าผลิตภัณฑ์ที่พวกเขาชอบและจะไม่ซื้อสินค้าที่จะเปรียบเทียบ แต่พวกเขาอาจจะซื้อสินค้าที่ร้านค้าปลีกที่ให้ค่าที่ดีที่สุด ตัวอย่างเช่นรถยนต์หรูระดับไฮเอนด์แชมเปญราคาแพงและผู้เชี่ยวชาญด้านการดูแลเส้นผมที่มีชื่อเสียง ตลาดเป้าหมายโดยทั่วไปจะมีขนาดเล็กมากและร้านขายสินค้าที่มี จำกัด มากไปยังจุดของการเป็นพิเศษ. นอกจากนี้ยังมีสามประเภทหลักข้างต้นผลิตภัณฑ์ที่มีการจัดอย่างน้อยสองวิธีการเพิ่มเติม: ผลิตภัณฑ์ฉุกเฉิน - เหล่านี้เป็นผลิตภัณฑ์ที่ลูกค้าพยายาม เนื่องจากเหตุการณ์ฉับพลันและที่วางแผนก่อนการซื้อจะไม่ถือว่าเป็น บ่อยครั้งที่การตัดสินใจที่เป็นหนึ่งของความสะดวกสบาย (เช่นสิ่งที่เหมาะในการแก้ไขปัญหา) หรือการปฏิบัติตามส่วนบุคคล (เช่นการรับรู้ในการปรับปรุงภาพของผู้ซื้อ). ไม่ได้ขอผลิตภัณฑ์ - เหล่านี้เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีการซื้อคือไม่ได้วางแผนโดยผู้บริโภค แต่เกิดขึ้นเป็นผลมาจากการตลาดของ การกระทำ การตัดสินใจซื้อดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อลูกค้าจะได้สัมผัสกับกิจกรรมส่งเสริมการขายเช่นการชักชวนพนักงานขายหรือซื้อสิ่งจูงใจเช่นส่วนลดพิเศษเสนอขายให้กับนักช้อปออนไลน์บางอย่าง กิจกรรมส่งเสริมการขายเหล่านี้มักจะนำไปสู่ลูกค้าที่จะมีส่วนร่วมในการจัดซื้อแรงกระตุ้น

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

นอกจากจัดหมวดหมู่ตามประเภทของการเสนอขายผลิตภัณฑ์ส่วนใหญ่ไว้เพื่อใช้ ผู้บริโภคสามารถเพิ่มเติมแบ่งตามวิธีการที่พบบ่อยและที่พวกเขาจะซื้อ

สะดวกผลิตภัณฑ์–เหล่านี้เป็นผลิตภัณฑ์ที่อุทธรณ์ไปยังกลุ่มตลาดที่มีขนาดใหญ่มาก พวกเขามักจะบริโภคเป็นประจำ และซื้อบ่อย ตัวอย่างรวมมากที่สุดรายการของใช้ในครัวเรือนเช่นอาหาร , ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดและผลิตภัณฑ์ดูแลส่วนบุคคล เนื่องจากปริมาณการซื้อสูง ราคาต่อรายการมีแนวโน้มที่จะค่อนข้างต่ำและผู้บริโภคมักจะเห็นค่าเล็กน้อยในการช้อปปิ้งรอบตั้งแต่ความพยายามเพิ่มเติมอัตราการออมน้อยที่สุด จากมุมมองของนักการตลาดในราคาต่ำ ผลิตภัณฑ์สะดวกซื้อหมายความว่ากำไรต่อหน่วยขายต่ำมาก เพื่อที่จะทำให้ผลกำไรสูง นักการตลาดต้องขายปริมาณมากดังนั้น นักการตลาดพยายามที่จะกระจายผลิตภัณฑ์เหล่านี้ในมวลผ่านเป็นร้านค้าปลีกมากที่สุด .
ผลิตภัณฑ์ช้อปปิ้ง–เหล่านี้เป็นผลิตภัณฑ์ที่ผู้บริโภคซื้อและบริโภคบนบ่อยน้อยลงตารางเทียบกับผลิตภัณฑ์ที่สะดวกผู้บริโภคเต็มใจที่จะใช้เวลามากขึ้นค้นหาผลิตภัณฑ์เหล่านี้ตั้งแต่พวกเขามีราคาแพงค่อนข้างมากกว่าผลิตภัณฑ์สะดวกซื้อ และเนื่องจากเหล่านี้อาจมีประโยชน์ทางจิตวิทยาเพิ่มเติมสำหรับผู้ซื้อ เช่น การเลี้ยงตนเองการรับรู้ภาวะระดับภายในกลุ่มของพวกเขา ตัวอย่าง ได้แก่ เสื้อผ้ามากมาย ผลิตภัณฑ์ส่วนบุคคล บริการ ผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์ และเครื่องตกแต่งบ้านเรือนเนื่องจากผู้บริโภคจะซื้อน้อยลง และเต็มใจที่จะซื้อเพื่อค้นหาผลิตภัณฑ์เหล่านี้ ตลาดเป้าหมายมีขนาดเล็กกว่าที่สินค้าสะดวกซื้อ ดังนั้น นักการตลาดมักจะเลือกเมื่อเลือกการกระจายร้านที่จะขายผลิตภัณฑ์ของตน .
ผลิตภัณฑ์พิเศษ–เหล่านี้เป็นผลิตภัณฑ์ที่มักจะมีแท็กราคาสูงเมื่อเทียบกับความสะดวกสบายและผลิตภัณฑ์ที่ช้อปปิ้งการบริโภคที่อาจเกิดขึ้นที่เกี่ยวกับอัตราเดียวกับการซื้อสินค้าของผู้บริโภคมีมาก แต่การเลือกมากขึ้น ในความเป็นจริงในหลายกรณีผู้บริโภคทราบล่วงหน้าซึ่งสินค้าที่พวกเขาต้องการและจะไม่ซื้อเพื่อเปรียบเทียบผลิตภัณฑ์ แต่พวกเขาอาจร้านที่ร้านค้าปลีกที่ให้คุณค่าที่ดีที่สุด ตัวอย่าง ได้แก่ รถยนต์หรูระดับไฮเอนด์ราคาแพง แชมเปญ ผู้มีชื่อเสียง และผู้เชี่ยวชาญด้านการดูแลเส้นผมตลาดเป้าหมายโดยทั่วไปจะมีขนาดเล็กมากและร้านค้าที่ขายผลิตภัณฑ์ที่มี จำกัด มากถึงจุดของการเป็นพิเศษ
นอกจากหลักสามประเภทข้างต้น ผลิตภัณฑ์แบ่งออกเป็นอย่างน้อยอีก 2 วิธี :

ด่วนผลิตภัณฑ์–เหล่านี้เป็นผลิตภัณฑ์ที่ลูกค้าต้องการ เนื่องจากเหตุการณ์กะทันหันและที่วางแผนก่อนซื้อ ไม่ได้มีการพิจารณาบ่อยครั้งที่การตัดสินใจหนึ่งของความสะดวกสบาย เช่น ไม่ว่าทำงานแก้ไขปัญหา ) หรือหนี้สินส่วนบุคคล ( เช่น การรับรู้ เพื่อปรับปรุงภาพลักษณ์ของผู้ซื้อ )
ผลิตภัณฑ์ unsought –เหล่านี้เป็นสินค้าที่ซื้อโดยผู้บริโภค แต่ไม่ได้เกิดขึ้นจากการกระทำของนักการตลาดของ การตัดสินใจซื้อ เช่นจะทำเมื่อลูกค้าจะได้สัมผัสกับกิจกรรมส่งเสริมการขายเช่นการชักชวนของพนักงานขาย หรือซื้อสิ่งจูงใจเช่นส่วนลดพิเศษให้นักช้อปออนไลน์ที่แน่นอน กิจกรรมส่งเสริมการขายเหล่านี้มักจะพาลูกค้าเข้าไปซื้อแรงกระตุ้น