READING COMPREHENSION AND CALCULATI

READING COMPREHENSION AND CALCULATION AS
PREDICTORS OF MATH WORD PROBLEM SOLVING
Marina Stibric
Department of Education, Faculty of Psychology, University of Bergen, Norway
Department of Psychology, University of Zagreb, Croatia

Solving mathematical word problems includes comprehending the text, constructing a mental model of a problem situation, choosing appropriate problem solving strategy, performing the calculation and interpreting the solution (Reusser, 1990). Dependence on reading comprehension is what differentiates word problems from computational tasks expressed with mathematical symbols, and what can mediate their difficulty compared to computational tasks at different educational stages. Since mathematical word problem solving includes reading comprehension and calculation, it is important to determine what the relationship between these skills is. This correlational study included 185 pupils (n=97 female; age: M=125.3, SD=3.85 months) attending fourth grade of primary school. Pupils solved mathematical word problems, computational and reading comprehension tasks. Measure of reading comprehension included reading a paragraph from a children’s novel followed by open-ended questions about the text. Computational tasks were constructed in line with the fourth grade curriculum and comprised four arithmetical operations. Mathematical word problems included three types of word problems (i.e., combine, change and compare problems), according to Riley and Greeno (1988). Mathematical word problem solving was correlated to calculation (r= .39; p< .001) and reading comprehension (r= .43; p< .001), while the correlation between calculation and reading comprehension was r= .35 (p< .001). Regression analysis revealed that these calculation and reading comprehension explained 25% of the variance of word problem solving with reading comprehension being the strongest predictor. Results showed that reading comprehension can be more important for word problem solving than computational skill. This goes in line with theories of mathematical word problem solving that emphasize understanding the relations in the text of the word problem. These findings can be used in developing teaching practices that enhance word problem solving. A follow up study that is currently being conducted is exploring do these relations change depending on participants’ age, culture and area of mathematics.
References
Riley, M. S., & Greeno, J. G. (1988). Developmental analysis of understanding language about quantities and of solving problems. Cognition and Instruction, 5, 49-101. Reusser, K. (1990). Understanding word arithmetic problems. Linguistic and situational factors. Paper presented at the Annual Meeting of the American Educational Research Association (Boston, MA, April 16-20, 1990)
2013. In Lindmeier, A. M. & Heinze, A. (Eds.). Proceedings of the 37th Conference of the Inter national Group for the Psychology of Mathematics Education, Vol. 5, p. 175. Kiel, Germany: PME

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การอ่านจับใจความและการคำนวณ AS
พยากรณ์ MATH คำแก้ปัญหา
Marina Stibric
กรมสามัญศึกษาคณะจิตวิทยามหาวิทยาลัยเบอร์เกน,
นอร์เวย์ภาควิชาจิตวิทยามหาวิทยาลัยซาเกร็บ, โครเอเชียแก้ปัญหาคำคณิตศาสตร์รวมถึงการทำความเข้าใจข้อความที่สร้างจิตแบบของ สถานการณ์ปัญหาการเลือกที่เหมาะสมในการแก้ปัญหากลยุทธ์ที่มีประสิทธิภาพการคำนวณและการแปลความหมายของการแก้ปัญหา (Reusser, 1990) การพึ่งพาเข้าใจในการอ่านเป็นสิ่งที่แตกต่างจากปัญหาคำการคำนวณงานแสดงที่มีสัญลักษณ์ทางคณิตศาสตร์และสิ่งที่สามารถเป็นสื่อกลางในความยากลำบากของพวกเขาเมื่อเทียบกับงานคำนวณในขั้นตอนการศึกษาที่แตกต่างกัน เนื่องจากการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์รวมถึงคำว่าเข้าใจในการอ่านและการคำนวณเป็นสิ่งสำคัญในการตรวจสอบสิ่งที่ความสัมพันธ์ระหว่างทักษะเหล่านี้เป็น การศึกษาหาความสัมพันธ์รวม 185 นักเรียน (n = 97 หญิงอายุ: M = 125.3, SD = 3.85 เดือน) เข้าร่วมชั้นประถมศึกษาปีที่สี่ของโรงเรียนประถมศึกษา นักเรียนแก้ปัญหาคำคณิตศาสตร์การคำนวณและการอ่านงานเข้าใจ ตัวชี้วัดความเข้าใจในการอ่านรวมถึงการอ่านวรรคจากนวนิยายสำหรับเด็กตามมาด้วยคำถามปลายเปิดเกี่ยวกับข้อความที่ งานคอมพิวเตอร์ที่ถูกสร้างขึ้นในทิศทางเดียวกับการเรียนการสอนชั้นประถมศึกษาปีที่สี่และสี่ประกอบด้วยการดำเนินงานเกี่ยวกับคณิตศาสตร์ ปัญหาคำคณิตศาสตร์รวมถึงสามประเภทของปัญหาคำ (เช่นรวมการเปลี่ยนแปลงและเปรียบเทียบปัญหา) ตามไรลีย์และ Greeno (1988) การแก้ปัญหาคำคณิตศาสตร์มีความสัมพันธ์กับการคำนวณ (r = 0.39; p <0.001) และเข้าใจในการอ่าน (r = 0.43; p <0.001) ในขณะที่ความสัมพันธ์ระหว่างการคำนวณและการอ่านจับใจความเป็น r = 0.35 (p < 0.001) การวิเคราะห์การถดถอยเหล่านี้แสดงให้เห็นว่าการคำนวณและการเข้าใจในการอ่านอธิบาย 25% ของความแปรปรวนของปัญหาคำว่าแก้ด้วยเข้าใจในการอ่านเป็นปัจจัยบ่งชี้ที่แข็งแกร่ง ผลการศึกษาพบว่าการอ่านจับใจความสามารถมีความสำคัญมากขึ้นสำหรับการแก้ปัญหาคำกว่าทักษะการคำนวณ นี้ไปในทิศทางเดียวกับทฤษฎีของการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ที่คำเน้นการทำความเข้าใจความสัมพันธ์ในข้อความของปัญหาคำว่า การค้นพบนี้สามารถนำมาใช้ในการพัฒนาวิธีปฏิบัติที่การเรียนการสอนที่ช่วยเพิ่มการแก้ปัญหาคำ ติดตามการศึกษาที่ดำเนินการในขณะนี้คือการสำรวจทำสิ่งเหล่านี้เปลี่ยนแปลงความสัมพันธ์ขึ้นอยู่กับอายุของผู้เข้าร่วมวัฒนธรรมและพื้นที่ของคณิตศาสตร์. อ้างอิงไรลีย์, MS, และ Greeno, JG (1988) การวิเคราะห์พัฒนาการของภาษาความเข้าใจเกี่ยวกับปริมาณและการแก้ปัญหา ความรู้ความเข้าใจและการเรียนการสอน, 5, 49-101 Reusser พ (1990) การทำความเข้าใจปัญหาทางคณิตศาสตร์คำ ปัจจัยทางภาษาและสถานการณ์ กระดาษที่นำเสนอในการประชุมประจำปีของชาวอเมริกันสมาคมวิจัยการศึกษา (บอสตัน, MA, 16-20 เมษายน 1990) 2013 ใน Lindmeier, AM และไฮน์เซ่, A. (บรรณาธิการ). การประชุมวิชาการครั้งที่ 37 ของกลุ่ม บริษัท อินเตอร์ระดับชาติสำหรับจิตวิทยาการศึกษาคณิตศาสตร์ฉบับ 5 พี 175 คีลเยอรมนี: PME

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การอ่านและการคำนวณเป็นปัจจัยการแก้โจทย์ปัญหาคณิตศาสตร์

มารีน่า stibric
ภาควิชาการศึกษา คณะ จิตวิทยา มหาวิทยาลัยเบอร์เกน นอร์เวย์
ภาควิชาจิตวิทยา มหาวิทยาลัยซาเกร็บ , โครเอเชีย

แก้โจทย์ปัญหาคณิตศาสตร์ รวมถึงทำความเข้าใจข้อความ , การสร้างรูปแบบทางจิตของสถานการณ์ปัญหาการเลือกกลยุทธ์ที่เหมาะสมการแก้ปัญหา ,แสดงการคำนวณและแปลความหมายของสารละลาย ( reusser , 2533 ) พึ่งพาการอ่านเป็นสิ่งที่แตกต่างจากโจทย์ปัญหาคำนวณงานแสดงด้วยสัญลักษณ์ทางคณิตศาสตร์ และสามารถไกล่เกลี่ยปัญหาของพวกเขาเมื่อเทียบกับงานคอมพิวเตอร์ระดับการศึกษาที่แตกต่างกันเนื่องจากทางคณิตศาสตร์การแก้โจทย์ปัญหา รวมถึงการอ่านและการคำนวณ มันเป็นสิ่งสำคัญที่จะตรวจสอบสิ่งที่ความสัมพันธ์ระหว่างทักษะเหล่านี้เป็น การศึกษาเชิงสหสัมพันธ์นี้รวม 185 คน ( n = 97 หญิง ; อายุ : M = 125.3 , SD = 3.85 เดือน ) เรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ของโรงเรียน นักเรียนแก้โจทย์ปัญหาคณิตศาสตร์ การคำนวณ และการอ่านงาน ความเข้าใจวัดความเข้าใจในการอ่านรวมการอ่านย่อหน้าจากเด็กนวนิยายตามด้วยคำถามปลายเปิดเกี่ยวกับข้อความ งานคอมพิวเตอร์ถูกสร้างขึ้นในสอดคล้องกับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 และ 4 หลักสูตร ประกอบด้วย คณิตศาสตร์ 2554 โจทย์ปัญหาคณิตศาสตร์ รวมสามประเภทของโจทย์ปัญหา ( เช่น , รวม , การเปลี่ยนแปลงและเปรียบเทียบปัญหา )ไรลี่ย์ และ ตาม greeno ( 1988 ) การแก้โจทย์ปัญหาคณิตศาสตร์เพื่อคำนวณมีความสัมพันธ์ทางบวก ( r = . 39 ; p < . 001 ) และการอ่าน ( R = . 43 ; p < . 001 ) ในขณะที่ความสัมพันธ์ระหว่างการคำนวณและการอ่านเพื่อความเข้าใจ คือ r = . 35 ( P < . 001 )การวิเคราะห์การถดถอยพบว่า การคำนวณเหล่านี้ และการอ่านเพื่อความเข้าใจอธิบาย 25 % ของความแปรปรวนของโจทย์ปัญหากับการอ่านเป็นพฤติกรรมที่แข็งแกร่งที่สุด ผลการวิจัยพบว่า ความเข้าใจในการอ่านสามารถที่สำคัญสำหรับการแก้โจทย์ปัญหาคณิตศาสตร์มากกว่าทักษะการคำนวณนี้จะสอดคล้องกับทฤษฎีทางคณิตศาสตร์ การแก้โจทย์ปัญหาที่เน้นความเข้าใจ ความสัมพันธ์ในข้อความของคำว่าปัญหา ข้อมูลเหล่านี้สามารถใช้ในการพัฒนาการปฏิบัติการสอนที่ส่งเสริมการแก้โจทย์ปัญหาคณิตศาสตร์ . การติดตามผลที่กำลังดำเนินการคือ การทำประชาสัมพันธ์ การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ขึ้นอยู่กับอายุของผู้เข้าร่วม วัฒนธรรม และพื้นที่ของคณิตศาสตร์
อ้างอิง
ไรลีย์ เอ็ม เอส & greeno , J . g . ( 1988 ) การวิเคราะห์พัฒนาการของความเข้าใจภาษาเกี่ยวกับปริมาณและการแก้ไขปัญหา ความเข้าใจและการสอน , 5 , 49-101 . reusser K ( 1990 ) เข้าใจปัญหาคณิตศาสตร์ word ภาษาศาสตร์และการวิเคราะห์ปัจจัย เอกสารนำเสนอในการประชุมประจำปีของอเมริกันสมาคมวิจัยการศึกษา ( Boston , MA วันที่ 16-20 , 1990 )
2013 . ใน lindmeier , อ. ม. &ไฮน์ส , A . ( แผนที่ ) รายงานการประชุมทางวิชาการ ครั้งที่ 37 ประชุมแห่งชาติระหว่างกลุ่มจิตวิทยาการศึกษา คณิตศาสตร์ เล่ม 5 , หน้า 175 . คีล , เยอรมนี : PME