The nictitating membrane as it cove

The nictitating membrane as it covers the eye of aMasked Lapwing
The nervous system is large relative to the bird's size.[51] The most developed part of the brain is the one that controls the flight-related functions, while the cerebellum coordinates movement and the cerebrum controls behaviour patterns, navigation, mating and nest building. Most birds have a poor sense of smell with notable exceptions including kiwis,[71] New World vultures[72] and tubenoses.[73] The avianvisual system is usually highly developed. Water birds have special flexible lenses, allowing accommodation for vision in air and water.[51]Some species also have dual fovea. Birds are tetrachromatic, possessing ultraviolet (UV) sensitive cone cells in the eye as well as green, red and blue ones.[74] This allows them to perceive ultraviolet light, which is involved in courtship. Many birds show plumage patterns in ultraviolet that are invisible to the human eye; some birds whose sexes appear similar to the naked eye are distinguished by the presence of ultraviolet reflective patches on their feathers. Male Blue Tits have an ultraviolet reflective crown patch which is displayed in courtship by posturing and raising of their nape feathers.[75] Ultraviolet light is also used in foraging—kestrels have been shown to search for prey by detecting the UV reflective urine trail marks left on the ground by rodents.[76] The eyelids of a bird are not used in blinking. Instead the eye is lubricated by the nictitating membrane, a third eyelid that moves horizontally.[77] The nictitating membrane also covers the eye and acts as a contact lens in many aquatic birds.[51] The bird retina has a fan shaped blood supply system called thepecten.[51] Most birds cannot move their eyes, although there are exceptions, such as the Great Cormorant.[78] Birds with eyes on the sides of their heads have a wide visual field, while birds with eyes on the front of their heads, such as owls, have binocular vision and can estimate the depth of field.[79] The avian ear lacks external pinnae but is covered by feathers, although in some birds, such as the Asio, Bubo and Otus owls, these feathers form tufts which resemble ears. The inner ear has a cochlea, but it is not spiral as in mammals.[80]
A few species are able to use chemical defenses against predators; some Procellariiformes can eject an unpleasant oil against an aggressor,[81] and some species of pitohuis from New Guineahave a powerful neurotoxin in their skin and feathers.[82]

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เยื่อ nictitating เป็นมันครอบคลุมสายตาของกระแต amasked
ระบบประสาทเป็นญาติที่มีขนาดใหญ่กับขนาดของนก. [51] ส่วนหนึ่งที่พัฒนามากที่สุดของสมองเป็นสิ่งหนึ่งที่ควบคุมการทำงานเที่ยวบินที่เกี่ยวข้องกับในขณะที่สมองพิกัดการเคลื่อนไหวและการ มันสมองควบคุมรูปแบบพฤติกรรม navigation, ผสมพันธุ์และสร้างรังนกส่วนใหญ่จะมีความรู้สึกที่ดีของกลิ่นมีข้อยกเว้นที่โดดเด่นรวมทั้งกีวี, [71] โลกใหม่แร้ง [72] tubenoses และ. [73] ระบบ avianvisual มักจะการพัฒนาอย่างมาก นกน้ำมีเลนส์ที่มีความยืดหยุ่นพิเศษที่พักเพื่อให้สามารถมองเห็นในอากาศและน้ำ. [51] บางชนิดยังมีคู่ fovea นก tetrachromatic,ที่มีรังสีอัลตราไวโอเลต (UV) เซลล์รูปกรวยที่ไวต่อตาเช่นเดียวกับสีเขียว, สีแดงและสีฟ้า. [74] นี้ช่วยให้พวกเขาในการรับรู้แสงอัลตราไวโอเลตซึ่งมีส่วนร่วมในการเกี้ยวพาราสี นกจำนวนมากแสดงรูปแบบขนนกในรังสีอัลตราไวโอเลตที่มองไม่เห็นได้ด้วยตามนุษย์นกบางที่เพศปรากฏคล้ายกับตาเปล่ามีความโดดเด่นจากการปรากฏตัวของแพทช์สะท้อนแสงอัลตราไวโอเลตบนขนของพวกเขา หัวนมสีฟ้าชายมีแพทช์มงกุฎอัลตราไวโอเลตสะท้อนแสงซึ่งจะปรากฏในการเกี้ยวพาราสีโดย posturing และยกขนคอของพวกเขา[75] แสงอัลตราไวโอเลตยังใช้ในการตรวจค้น-เหยี่ยวเคสเตรได้รับการแสดงเพื่อค้นหาเหยื่อโดยการตรวจทางปัสสาวะยูวีสะท้อนเครื่องหมายทิ้งไว้บนพื้นดินโดยสัตว์. [76] เปลือกตาของนกจะไม่ได้ใช้ในการกระพริบ แทนตาที่มีการหล่อลื่นโดยเยื่อ nictitating, เปลือกตาที่สามที่ย้ายแนวนอน[77] เยื่อ nictitating ยังครอบคลุมถึงตาและทำหน้าที่เป็นคอนแทคเลนส์นกน้ำจำนวนมาก. [51] จอประสาทตานกมีแฟนเลือดระบบรูปอุปทานที่เรียกว่า thepecten. [51] มากที่สุดนกไม่สามารถย้ายสายตาของพวกเขาแม้ว่าจะมี ข้อยกเว้นเช่นนกอ้ายงั่วที่ดี. [78] นกด้วยสายตาที่ด้านข้างของศีรษะของพวกเขามีภาพสนามกว้างในขณะที่นกด้วยดวงตาที่ด้านหน้าของศีรษะของพวกเขา,เช่นนกฮูกมีวิสัยทัศน์และสามารถที่จะประเมินความลึกของฟิลด์. [79] หูนกขาด pinnae ภายนอก แต่ถูกปกคลุมด้วยขนนกแม้ว่าในบางอย่างเช่น ASIO, มะม่วงและนกฮูก otus ขนเหล่านี้ในรูปแบบกระจุกที่ มีลักษณะคล้ายกับหู หูชั้นในมีเคีย แต่มันไม่ได้เป็นเกลียวในขณะที่เลี้ยงลูกด้วยนม [80]
ไม่กี่สายพันธุ์สามารถที่จะใช้ป้องกันสารเคมีกับสัตว์.Procellariiformes บางคนสามารถออกน้ำมันที่ไม่พึงประสงค์กับผู้รุกราน, [81] และบางชนิดจาก pitohuis ใหม่ guineahave neurotoxin มีประสิทธิภาพในการบำรุงผิวและขนของพวกเขา. [82]

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เมมเบรน nictitating ที่ครอบตา aMasked Lapwing
ระบบประสาทมีขนาดใหญ่เมื่อเทียบกับขนาดของนก[51] หนึ่งสมองพัฒนามากที่สุดคือที่ควบคุมฟังก์ชันที่เกี่ยวข้องกับเที่ยวบิน ในขณะซีรีเบลลัมประสานการเคลื่อนไหว และการ cerebrum ควบคุมรูปแบบพฤติกรรม นำทาง ผสมพันธุ์ และสร้างรัง นกส่วนใหญ่มีความรู้สึกที่ไม่ดีของกลิ่น มีข้อยกเว้นที่โดดเด่นได้แก่ kiwis, vultures โลกใหม่ [71] [72] และ tubenoses[73] ระบบ avianvisual สูงมักจะได้รับการพัฒนา นกน้ำมีเลนส์แบบยืดหยุ่นพิเศษ ให้สถานที่พักสำหรับวิสัยทัศน์ในอากาศและน้ำ[51]บางสายพันธุ์ยังมีสอง fovea นกมี tetrachromatic มีรังสีอัลตราไวโอเลต (UV) เซลล์รูปกรวยที่ไวต่อในตาสีเขียว สีแดง และสีน้ำเงินอยู่[74] ซึ่งช่วยให้พวกเขาสังเกตรังสีอัลตราไวโอเลต ที่เกี่ยวข้องใน courtship นกจำนวนมากแสดงรูปแบบ plumage อัลตราไวโอเลตที่สามารถมองเห็นดวงตา นกบางเพศปรากฏคล้ายกับตาเปล่าจะโดดเด่น ด้วยของแพทช์ที่สะท้อนรังสีอัลตราไวโอเลตบนชั้นผิวของพวกเขา หัวนมสีฟ้าชายได้ปรับปรุงคราวน์สะท้อนแสงเป็นรังสีอัลตราไวโอเลตซึ่งแสดงใน courtship posturing และยกของขนของ nape[75] แสงอัลตราไวโอเลตใช้พวกตัว kestrels ได้รับการแสดงเพื่อหาเหยื่อ โดยการตรวจหาเครื่องหมายทางปัสสาวะสะท้อนแสง UV ที่ซ้ายบนพื้นดิน โดยงาน[76] ไม่ใช้เปลือกของนกในการกะพริบ แทน ตา lubricated โดยเยื่อ nictitating หนังตาที่สามที่เลื่อนในแนวนอน[77] เมมเบรน nictitating ยังครอบคลุมตา และทำหน้าที่เป็นเลนส์ในนกน้ำมากมาย[51] จอตานกมีแฟนรูประบบการจัดหาเลือดที่เรียกว่า thepecten[51] นกส่วนใหญ่ไม่สามารถย้ายตา แม้ว่าจะมีข้อยกเว้น เช่นนกกาน้ำใหญ่[78] นกกับตาบนด้านข้างของศีรษะของพวกเขามีทั้ง visual เขต ในขณะที่นกด้วยตาที่ด้านหน้าของศีรษะของพวกเขา เช่นนกฮูก มีวิสัยทัศน์ส่องทางไกล และสามารถประเมินความลึกของฟิลด์[79] หูนกขาด pinnae ภายนอก แต่ปกคลุม ด้วยขนนก แม้ว่าในบางนก เช่น Asio นกฮูก Bubo และ Otus ทัฟส์ฟอร์มเหล่านี้ขนซึ่งคล้ายกับหู ภายในหูมี cochlea เป็น แต่มันไม่ได้หมุนวนในการเลี้ยงลูกด้วยนม[80]
ไม่กี่ชนิดสามารถใช้ป้องกันสารเคมีกับล่า Procellariiformes บางอย่างสามารถเอาน้ำมันมีไม่พอกับผู้รุกรานที่, [81] และ pitohuis จาก Guineahave ใหม่ neurotoxin มีประสิทธิภาพในผิวหนังและขนบางพันธุ์[82]

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ที่ nictitating เยื่อที่ครอบคลุมที่ตาของ amasked กระประหม่า
ซึ่งจะช่วยให้ระบบมีขนาดใหญ่เมื่อเทียบกับที่นกของขนาด.[ 51 ]ได้มากที่สุดเป็นส่วนหนึ่งของที่สมองได้ที่หนึ่งที่ควบคุมการบินที่เกี่ยวข้องกับการใช้งานในขณะที่ cerebellum ค่าพิกัดและการเคลื่อนไหวที่ cerebrum ควบคุมพฤติกรรมรูปแบบ,การนาวิเกต,อุปกรณ์เสริมความสุขทางเพศเครื่องประดับและรังอาคาร.นกส่วนมากมีความรู้สึกไม่ดีที่มีกลิ่นเหม็นพร้อมด้วยข้อยกเว้น( Don ’ t allow exceptions )มีชื่อเสียงรวมถึงกีวี[ 71 ]โลกใหม่ลงข่าว[ 72 ]และ tubenoses .[ 73 ]ระบบ avianvisual โดยปกติจะได้พัฒนาขึ้นมา นกน้ำมีเลนส์ที่มีความยืดหยุ่นพิเศษช่วยให้ที่พักสำหรับการถ่าย ภาพ ในน้ำและอากาศ.[ 51 ]บางสายพันธุ์ยังมี fovea คู่ นก tetrachromaticผู้ใดมีแสงอัลตร้าไวโอเล็ต(ยูวี)เซลล์กรวยที่สำคัญในสายตาเป็นอย่างดีเป็นคนสีแดงและสีฟ้าสีเขียว.[ 74 ]นี้ช่วยให้ผู้ใช้สามารถรับรู้แสงอัลตร้าไวโอเล็ตที่มีส่วนร่วมในการติดผู้หญิง นกจำนวนมากแสดงถึงรูปแบบกตะขาบในแสงอัลตร้าไวโอเล็ตที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่าของมนุษย์ได้นกบางแห่งที่มีเพศจะปรากฏเหมือนกับมองด้วยตาเปล่าที่ได้รับการจำแนกโดยการมีอยู่ของโปรแกรมแก้ไขสะท้อนแสงอัลตร้าไวโอเล็ตที่ขนของมัน ตัวผู้มีสีฟ้า tits แพทช์ Crown สะท้อนแสงอัลตร้าไวโอเล็ตที่จะปรากฏขึ้นในการติดผู้หญิงโดย posturing และยกของขนก้านคอของเขา[ 75 ]แสงอัลตร้าไวโอเล็ตได้ใช้ในเดินเปะปะ - kestrels ได้รับการแสดงไว้ในการค้นหาเหยื่อโดยการตรวจจับที่สะท้อนแสงยูวีเส้นทางเดินปัสสาวะเป็นเครื่องหมายทางด้านซ้ายบนของหนู.[ 76 ]ที่ตาของนกไม่ได้ใช้ในกะพริบ ตาแทนที่จะใช้น้ำมันหล่อลื่นแต่อย่างใดโดยเยื่อ nictitating ที่เปลือกตาที่สามที่จะเคลื่อนไหวในแนวนอน[ 77 ] nictitating เยื่อตายังครอบคลุมถึงที่และทำหน้าที่เป็นผู้ติดต่อเลนส์ในสัตว์น้ำนก.[ 51 ]ที่นกจอประสาทตามีพัดลมรูปทรงเลือดระบบเรียกว่า thepecten .[ 51 ]ส่วนมากนกไม่สามารถย้ายไปที่ตา,แม้ว่าจะมีข้อยกเว้นเช่นนกอ้ายงั่วที่ดีเยี่ยม.[ 78 ]นกพร้อมด้วยสายตาที่ด้านข้างของหัวมี ภาพ ,ในขณะที่นกพร้อมด้วยสายตาที่ด้านหน้าของหัว,เช่นนกเค้าแมวมีวิสัยทัศน์กล้องส่องทางไกลและสามารถประมาณการความลึกของฟิลด์.[ 79 ]หูโรคไข้หวัดนกที่ขาด pinnae ภายนอก แต่ได้รับการคุ้มครอง ภายใต้ ขนนกและแม้ว่าในบางส่วนเช่น asio ฝีมะม่วงเค้าคู่นกเค้าแมวและขนนกเหล่านี้รูปแบบ Tufts ซึ่งคล้ายกับหูของคุณ หูฟังด้านในที่มี cochlea แต่มันไม่ได้เป็นแบบเกลียวในสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม.[ 80 ]
สายพันธุ์ไม่กี่คนที่มีความสามารถในการใช้สารเคมีป้องกันกับนักล่าprocellariiformes บางอย่างสามารถนำน้ำมันที่ไม่พึงประสงค์ออกกับผู้รุกราน[ 81 ]และบางสายพันธุ์ของ pitohuis จาก guineahave neurotoxin ทรงพลังในขนและผิวของพวกเขา.[ 82 ]