This study focused to find the effe

This study focused to find the effect of cooperative learning and traditional learning on the reading skill of the students of 8th class. It was an experimental and its sample size was 128 students. Sixty-four students were included in each of the experimental and control group. Pre-test, post-test equivalent group design was used. Treatment of planned cooperative learning (STAD) was provided to experimental group while control group was taught by using traditional method. At the end of treatment, a teacher made post-test was administered to measure the achievement of the students. To determine the effect of cooperative learning on the reading comprehension the significance of difference between the scores of groups at 0.05 level was tested by applying t-test and analysis of variance. Data analysis reveals that cooperative learning was more effective instructional paradigm for English as compared to the traditional method of teaching.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

การศึกษานี้เน้นหาผลของการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วมและเรียนรู้แบบดั้งเดิมในทักษะการอ่านของนักเรียนระดับ 8 มีการทดลอง และขนาดตัวอย่างเป็นนักเรียน 128 หกสี่นักเรียนรวมอยู่ในแต่ละการทดลอง และกลุ่มควบคุม ใช้ออกแบบก่อนทดสอบ ทดสอบหลังกลุ่มเทียบเท่า รักษาของสหกรณ์แผนการเรียนรู้ (สแตด) ได้รับการทดลองในขณะที่กลุ่มควบคุมถูกสอนด้วยวิธีแบบดั้งเดิม เมื่อสิ้นสุดการรักษา ครูทำการทดสอบหลังถูกจัดการเพื่อวัดความสำเร็จของนักเรียน การกำหนดผลของการเรียนรู้ในการอ่านทำความเข้าใจถึงความสำคัญของความแตกต่างระหว่างคะแนนของกลุ่มที่ 0.05 สหกรณ์ ระดับถูกทดสอบ โดยใช้การทดสอบทีและการวิเคราะห์ผลต่างของ วิเคราะห์ข้อมูลพบว่า การเรียนรู้สหกรณ์คือ เพิ่มประสิทธิภาพสอนกระบวนทัศน์ในอังกฤษเมื่อเทียบกับวิธีการสอนแบบดั้งเดิม

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การศึกษาครั้งนี้มุ่งเน้นที่จะหาผลของการเรียนแบบร่วมมือและการเรียนรู้แบบดั้งเดิมบนทักษะการอ่านของนักเรียนของชั้น 8 มันเป็นทดลองและขนาดของกลุ่มตัวอย่างอยู่ที่ 128 นักเรียน หกสิบสี่นักเรียนถูกรวมอยู่ในแต่ละทดลองและกลุ่มควบคุม Pre-ทดสอบหลังการทดสอบการออกแบบกลุ่มเทียบเท่าถูกนำมาใช้ การรักษาของการวางแผนการเรียนแบบร่วมมือ (เมือง) ที่ถูกให้กับกลุ่มทดลองและกลุ่มควบคุมได้รับการสอนโดยใช้วิธีการแบบดั้งเดิม ในตอนท้ายของการรักษาครูที่ทำหลังการทดสอบเป็นยาในการวัดความสำเร็จของนักเรียน การตรวจสอบผลของการเรียนแบบร่วมมือในการอ่านจับใจความสำคัญของความแตกต่างระหว่างคะแนนของกลุ่มที่ระดับ 0.05 ได้รับการทดสอบโดยใช้ t-test และการวิเคราะห์ความแปรปรวน การวิเคราะห์ข้อมูลแสดงให้เห็นว่าการเรียนแบบร่วมมือเป็นมีประสิทธิภาพมากขึ้นกระบวนทัศน์การเรียนการสอนภาษาอังกฤษเป็นเมื่อเทียบกับวิธีการแบบดั้งเดิมของการเรียนการสอน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การศึกษานี้มุ่งเน้นเพื่อหาผลของการเรียนแบบร่วมมือ และการเรียนรู้แบบดั้งเดิมในทักษะการอ่านของนักเรียนจาก 8 ชั้น มันเป็นการทดลอง และขนาดตัวอย่างของมันคือ 128 คน หกสิบสี่คนรวมอยู่ในแต่ละกลุ่มทดลอง และกลุ่มควบคุม แบบทดสอบก่อนเรียน หลังทดสอบ Equivalent Group Design เครื่องมือ .การรักษาแผนการเรียนรู้แบบร่วมมือ ( STAD ) ให้แก่กลุ่มทดลอง กลุ่มควบคุมได้รับการสอนโดยการใช้วิธีการแบบดั้งเดิม ในตอนท้ายของการรักษา ครูทำทดสอบโพสต์มาใช้ในการวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน เพื่อศึกษาผลของการเรียนแบบร่วมมือในการอ่านจับใจความสำคัญของความแตกต่างระหว่างคะแนนของกลุ่มที่ 005 ทดสอบโดยใช้ t-test และการวิเคราะห์ความแปรปรวน การวิเคราะห์ข้อมูลพบว่า การเรียนแบบร่วมมือ มีประสิทธิภาพการสอนกระบวนทัศน์ภาษาอังกฤษเมื่อเทียบกับวิธีการแบบดั้งเดิมของการสอน .