For over 50 years of his reign, His

For over 50 years of his reign, His Majesty King Bhumibol has always kept his promise to Thai People - the promise that he would reign with righteousness for the benefit and happiness of the Siamese people. From the year 1950 until present he has done so much for the betterment of the country and the people. As of 1998, there were 2,159 royal development projects initiated by His Majesty and implemented throughout the country. Most of the projects are aimed at improving the living conditions of his subjects, particularly those in the remote rural areas.

His Majesty has become not only the most traveled monarch in Thai history but also the best informed about a wide range of rural difficulties. His Majesty learns first-hand, from the people themselves, of the local conditions and problems. After having put them at their ease, he converses with the local inhabitants and learns from them the problems with which they are faced as they themselves perceived the situation. After consulting further with the officials concerned, His Majesty makes his own conclusions about the problems, including the causes and the possible methods to redress them. Upon his return to Bangkok, or sometimes even on the spot, he will share what he has learned with the members of the Government, requesting them to assist and give support to the people wherever feasible. Sometimes he has used his own funds in the early stages to help a project get off the ground. In 1988, he established the Chaipattana Foundation to fund and help in accelerating rural development projects that are beneficial to the people and the country as a whole.

These projects are later known as "Royal Development Projects", which are divided into many categories and carried out in every region of the country.

One of the best-known development theories suggested by His Majesty is "the New Theory". Introduced many years ago, the New Theory involves land management and the development of water sources for agricultural purpose. Its formula is 30-30-30-10. Under the New Theory, a plot of land is divided into four portions, namely 30 percent for a water source, 30 percent for a rice field, 30 percent for mixed crops such as fruit trees and vegetables and 10 percent for residence, animal farms and rice barns

The New Theory has several advantages. It is uncomplicated, easily implemented, and does not involve costly technology. It has been tried and tested, and has produced satisfactory results. Farmers who have followed this theory have become self-sufficient and self-reliant.

All Thais come to understand the word "self-sufficient" after His Majesty the king suggested a self-sufficient economy as a way to pull Thailand out of the economic crisis that erupted in 1997. The important idea of a self-sufficient economy is that the Thais should live a life that leaves them enough to eat, while they rely on their own economy. With rich and fertile land suitable for food crops, Thailand should conduct research and development on soil and crop improvement. People should produce enough for their own consumption first. His Majesty the King has suggested Government spend part of its budget on land development for people to establish self-sufficient farms. People are encouraged to apply the New Theory on land management and development of water sources for agricultural purposes. When there is a surplus in productivity, more exports will be seen, and a higher economic growth will return.

His Majesty the King's suggestion on the self-sufficient economy aims to encourage people to help themselves and strengthen communities through public participation. The idea places emphasis on basic economic development to be carried out step by step. People will greatly benefit from the development process, which is set to respond to their immediate economic demands and enable them to get through the crisis. This new development trend is beginning to lay down firm foundations for all of Thailand.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

50 ปีของรัชกาล พระบาทสมเด็จพระได้เสมอเก็บสัญญาของเขากับคนไทย - คำมั่นสัญญาว่า เขาจะครอบครอง ด้วยความชอบธรรมเพื่อประโยชน์สุขที่สยาม จากปี 1950 จนถึงปัจจุบัน เขาได้ทำมากสำหรับการดีขึ้นของประเทศและประชาชน ณ ปี 1998 มีโครงการพัฒนา 2,159 พระผู้เริ่มต้น และดำเนินการทั่วประเทศ ส่วนใหญ่ของโครงการมีเป้าหมายในการปรับปรุงสภาพความเป็นอยู่ของวิชาของเขา โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่อยู่ในพื้นที่ชนบทห่างไกลพระกลายเป็นไม่ เฉพาะพระมหากษัตริย์ในการเดินมากที่สุดในประวัติศาสตร์ไทย แต่ดีสุดเกี่ยวกับปัญหาชนบทหลากหลาย พระเรียนรู้มือแรก จากประชาชน สภาพของท้องถิ่นและปัญหา หลังจากที่มีทำให้พวกเขาสบายใจของพวกเขา เขาพูดคุยกับชาวท้องถิ่น และเรียนรู้จากพวกเขาที่พวกเขากำลังเผชิญเป็นพวกเขาเองมองว่าสถานการณ์ปัญหา หลังจากปรึกษาเพิ่มเติมกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง พระทำให้ข้อสรุปของเขาเองเกี่ยวกับปัญหา รวมทั้งสาเหตุและวิธีการเป็นไปได้ให้กลับมาพวกเขา เมื่อเขากลับไปกรุงเทพฯ หรือบางครั้งแม้ในจุด เขาจะแบ่งปันสิ่งที่เขาได้เรียนรู้กับสมาชิกของรัฐบาล การร้องขอการช่วยเหลือ และให้การสนับสนุนคนไปได้ทุก บางครั้งเขาได้ใช้เงินของตัวเองในระยะแรก ๆ เพื่อช่วยโครงการภาคพื้น ในปี 1988 เขาก่อตั้งมูลนิธิชัยพัฒนาเพื่อกองทุนและช่วยในการเร่งพัฒนาชนบทโครงการที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชนและประเทศ โดยรวม โครงการเหล่านี้ในภายหลังเรียกว่า "รอยัลพัฒนาโครงการ" ซึ่งแบ่งออกเป็นหลายประเภท และมีดำเนินการในทุกภาคของประเทศ ทฤษฎีการพัฒนารู้จักกันดีที่แนะนำ โดยพระอย่างใดอย่างหนึ่งคือ "ทฤษฎีใหม่" แนะนำหลายปี ทฤษฎีใหม่เกี่ยวข้องกับการจัดการที่ดินและการพัฒนาแหล่งน้ำเพื่อการเกษตร สูตรของมันคือ 30-30-30-10 ภายใต้ทฤษฎีใหม่ ที่ดินแบ่งออกเป็น 4 ส่วน ได้แก่ 30 เปอร์เซ็นต์สำหรับแหล่งน้ำ 30 เปอร์เซ็นต์สำหรับทุ่งนาข้าว 30 เปอร์เซ็นต์สำหรับพืชผสมเช่นผักและผลไม้ และ 10 เปอร์เซ็นต์สำหรับเรสซิเดนซ์ ฟาร์มสัตว์ และลลาทฤษฎีใหม่มีข้อดีหลายประการ มันเป็นนำมาใช้ได้ง่าย ไม่ยุ่งยาก และไม่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีราคาแพง มีการพยายาม และ ทดสอบ และสร้างผลลัพธ์ เกษตรกรที่ได้ปฏิบัติตามทฤษฎีนี้ได้กลายเป็นพอเพียง และพึ่งตนเองคนไทยทุกคนมาเข้าใจคำว่า "พอเพียง" หลังจากที่พระบาทสมเด็จแนะนำเศรษฐกิจพอเพียงที่เป็นวิธีที่จะดึงประเทศไทยออกจากวิกฤตเศรษฐกิจที่ปะทุขึ้นในปี 1997 ความคิดที่สำคัญของเศรษฐกิจพอเพียงที่คนไทยควรมีชีวิตที่ปล่อยออกพอกิน ในขณะที่พวกเขาพึ่งพาเศรษฐกิจของตนเองได้ มีหลากหลาย และอุดมสมบูรณ์ดินเหมาะสำหรับพืชอาหาร ประเทศไทยควรดำเนินการวิจัยและพัฒนาในดิน และพืชปรับปรุง ท่านควรผลิตเพียงพอสำหรับการบริโภคของตนเองครั้งแรก พระบาทสมเด็จได้แนะนำรัฐบาลใช้เป็นส่วนหนึ่งของงบประมาณในการพัฒนาที่ดินสำหรับคนที่จะสร้างฟาร์มพอเพียง ท่านได้รับการสนับสนุนการใช้ทฤษฎีใหม่การจัดการที่ดินและการพัฒนาแหล่งน้ำการเกษตร เมื่อมีส่วนเกินในการผลิต จะเห็นส่งออกมากขึ้น และการเติบโตทางเศรษฐกิจสูงจะกลับ พระแนะนำคิงส์เศรษฐกิจพอเพียงมีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนให้ผู้คนช่วยเหลือตัวเอง และเสริมสร้างชุมชนที่ประชาชนมีส่วนร่วม ความคิดสถานเน้นพัฒนาเศรษฐกิจพื้นฐานจะทำทีละขั้นตอน ท่านจะได้รับประโยชน์อย่างมากจากกระบวนการพัฒนา ซึ่งมีการตั้งค่าเพื่อตอบความต้องการทางเศรษฐกิจของพวกเขาทันที และทำให้ผ่านวิกฤต แนวโน้มการพัฒนาใหม่นี้กำลังเริ่มลงรากฐานบริษัทของไทยทั้งหมด

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

มานานกว่า 50 ปีของการครองราชย์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลได้เก็บไว้เสมอเขาสัญญาว่าจะคนไทย - สัญญาว่าเขาจะครองแผ่นดินโดยธรรมเพื่อประโยชน์และความสุขของคนสยาม จากปี 1950 จนถึงปัจจุบันเขาได้ทำมากสำหรับการที่ดีขึ้นของประเทศและประชาชน ในฐานะที่เป็นของปี 1998 มีจำนวน 2,159 โครงการพระราชดำริริเริ่มโดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและดำเนินการทั่วประเทศ ส่วนใหญ่ของโครงการที่มีจุดมุ่งหมายเพื่อการปรับปรุงสภาพความเป็นอยู่ของอาสาสมัครโดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่อยู่ในพื้นที่ชนบทห่างไกล.

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้กลายเป็นไม่เพียง แต่พระมหากษัตริย์ที่เดินทางมากที่สุดในประวัติศาสตร์ไทย แต่ยังทราบดีที่สุดเกี่ยวกับความหลากหลายของความยากลำบากในชนบท พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้เรียนรู้มือแรกจากคนที่ตัวเองของสภาพท้องถิ่นและปัญหา หลังจากที่มีการทำให้พวกเขาสบายใจเขาพูดคุยกับประชาชนในท้องถิ่นและเรียนรู้จากพวกเขามีปัญหากับการที่พวกเขาจะต้องเผชิญเป็นพวกเขาเองที่รับรู้สถานการณ์ หลังจากปรึกษาเพิ่มเติมกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทำให้ข้อสรุปของเขาเองเกี่ยวกับปัญหาที่เกิดขึ้นรวมทั้งสาเหตุและวิธีการที่เป็นไปได้ที่จะแก้ไขพวกเขา เมื่อเขากลับไปกรุงเทพฯหรือบางครั้งแม้ในจุดที่เขาจะแบ่งปันสิ่งที่เขาได้เรียนรู้กับสมาชิกของรัฐบาลที่ขอให้พวกเขาให้ความช่วยเหลือและให้การสนับสนุนให้กับผู้ใดก็ตามที่เป็นไปได้ บางครั้งเขาได้ใช้เงินของตัวเองในขั้นเริ่มต้นที่จะช่วยให้โครงการที่ได้รับออกจากพื้นดิน ในปี 1988 เขาได้ก่อตั้งมูลนิธิชัยพัฒนากองทุนเพื่อการฟื้นฟูและช่วยในการเร่งโครงการพัฒนาชนบทที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชนและประเทศโดยรวม.

โครงการเหล่านี้เป็นที่รู้จักกันในภายหลังว่า "โครงการพระราชดำริ" ซึ่งจะแบ่งออกเป็นหลายประเภทและดำเนินการ ออกในภูมิภาคของประเทศทุก.

หนึ่งในทฤษฎีการพัฒนาที่ดีที่สุดที่รู้จักกันแนะนำโดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวคือ "ทฤษฎีใหม่" แนะนำหลายปีที่ผ่านมาทฤษฎีใหม่ที่เกี่ยวข้องกับการจัดการที่ดินและการพัฒนาแหล่งน้ำเพื่อทำการเกษตร สูตรของมันคือ 30-30-30-10 ภายใต้ทฤษฎีใหม่, ที่ดินแบ่งออกเป็นสี่ส่วนคือร้อยละ 30 สำหรับแหล่งน้ำร้อยละ 30 สำหรับนาข้าวร้อยละ 30 สำหรับพืชผสมเช่นผลไม้และผักและร้อยละ 10 สำหรับการอยู่อาศัย, ฟาร์มเลี้ยงสัตว์และ ยุ้งข้าว

ทฤษฎีใหม่มีข้อดีหลายประการ มันจะไม่ซับซ้อนดำเนินการได้อย่างง่ายดายและไม่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีที่มีราคาแพง มันได้รับการทดลองและทดสอบและมีการผลิตผลลัพธ์ที่น่าพอใจ เกษตรกรที่ได้ปฏิบัติตามทฤษฎีนี้ได้กลายเป็นแบบพอเพียงและพึ่งตนเอง.

ทั้งหมดคนไทยมาทำความเข้าใจคำว่า "พอเพียง" หลังจากที่พระบาทสมเด็จพระแนะนำเศรษฐกิจพอเพียงเป็นวิธีที่จะดึงประเทศไทยออกจากวิกฤตเศรษฐกิจ ที่ปะทุขึ้นในปี 1997 ความคิดที่สำคัญของเศรษฐกิจพอเพียงคือการที่คนไทยควรจะมีชีวิตที่จะทำให้พวกเขามากพอที่จะกินในขณะที่พวกเขาพึ่งพาเศรษฐกิจของตัวเอง พร้อมที่ดินอุดมสมบูรณ์เหมาะสำหรับพืชอาหารไทยควรดำเนินการวิจัยและพัฒนาในการปรับปรุงดินและพืช ทุกคนควรจะผลิตมากพอสำหรับการบริโภคของตัวเองเป็นครั้งแรก พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้แนะนำรัฐบาลใช้จ่ายส่วนหนึ่งของงบประมาณในการพัฒนาที่ดินสำหรับคนที่จะสร้างฟาร์มพอเพียง คนที่มีการส่งเสริมให้ใช้ทฤษฎีใหม่เกี่ยวกับการจัดการที่ดินและการพัฒนาแหล่งน้ำเพื่อการเกษตร เมื่อมีการเกินดุลในการผลิตการส่งออกมากขึ้นจะเห็นและการเติบโตทางเศรษฐกิจที่สูงขึ้นจะกลับมา.

ข้อเสนอแนะของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เมื่อวันที่เศรษฐกิจพอเพียงมีจุดมุ่งหมายที่จะส่งเสริมให้คนที่จะช่วยตัวเองและสร้างความเข้มแข็งของชุมชนในการมีส่วนร่วมของประชาชน เน้นสถานที่ความคิดในการพัฒนาพื้นฐานทางเศรษฐกิจที่จะดำเนินการตามขั้นตอน คนมากจะได้ประโยชน์จากการพัฒนาซึ่งเป็นชุดที่จะตอบสนองความต้องการทางเศรษฐกิจของพวกเขาทันทีและช่วยให้พวกเขาที่จะได้รับผ่านวิกฤติ แนวโน้มการพัฒนาใหม่นี้เป็นจุดเริ่มต้นที่จะวางรากฐานที่มั่นคงสำหรับทุกภาคของประเทศไทย

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

กว่า 50 ปีของรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้เก็บไว้เสมอสัญญาของเขาเพื่อคนไทย - สัญญาที่พระองค์จะทรงครองแผ่นดินโดยธรรมเพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม . จากปี 1950 จนถึงปัจจุบัน เขาได้ทำสำหรับ betterment ของประเทศชาติและประชาชนมาก เมื่อปี 1998 มีหลวง 2159 โครงการริเริ่มโดยฝ่าบาทและดำเนินการทั่วประเทศ ส่วนใหญ่ของโครงการจะมุ่งเป้าไปที่การปรับปรุงสภาพความเป็นอยู่ของประชาชน โดยเฉพาะในชนบทที่ห่างไกลพื้นที่ฝ่าบาทได้กลายเป็นไม่เพียง แต่ส่วนใหญ่เดินทางพระมหากษัตริย์ในประวัติศาสตร์ของไทย แต่ยังทราบดีที่สุดเกี่ยวกับหลากหลายปัญหาในชนบท ฝ่าบาททรงทราบล่วงหน้า จาก คน เอง สภาพท้องถิ่นและปัญหา หลังจากที่ทำให้พวกเขารู้สึกผ่อนคลาย เขาได้สนทนากับชาวท้องถิ่น และเรียนรู้จากพวกเขา ปัญหาที่พวกเขาต้องเผชิญเมื่อพวกเขารับรู้สถานการณ์ หลังจากปรึกษาเพิ่มเติมกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ฝ่าบาทให้ข้อสรุปเกี่ยวกับปัญหาของเขาเอง รวมถึงสาเหตุและวิธีการที่เป็นไปได้ที่จะแก้ไขมัน เมื่อเขากลับไปยังกรุงเทพฯ หรือบางครั้งแม้ในจุดที่เขาจะแบ่งปันสิ่งที่เขาได้เรียนรู้กับสมาชิกของรัฐบาล เรียกร้องให้ช่วยเหลือและให้การสนับสนุนประชาชน ที่ใดก็ตามที่เป็นไปได้ บางครั้งเขาใช้เงินของเขาเองในช่วงแรกเพื่อช่วยให้โครงการได้รับออกจากพื้นดิน ในปี 1988 เขาก่อตั้งมูลนิธิเพื่อกองทุนฯ และช่วยในการเร่งโครงการพัฒนาชนบทที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชนและประเทศชาติโดยรวมโครงการนี้ต่อมาเรียกว่า " โครงการ " การพัฒนาอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ซึ่งจะแบ่งออกเป็นหลายประเภท และดำเนินการในทุกภูมิภาคของประเทศหนึ่งของการพัฒนาที่รู้จักกันดี ทฤษฎีที่เสนอโดยฝ่าบาท " ทฤษฎีใหม่ " เปิดตัวเมื่อหลายปีก่อน ทฤษฎีใหม่ที่เกี่ยวข้องกับการจัดการที่ดินและการพัฒนาแหล่งน้ำเพื่อการเกษตร สูตรของมัน 30-30-30-10 . ภายใต้ทฤษฎีใหม่ ที่ดินแบ่งออกเป็น 4 ส่วน คือ ร้อยละ 30 เป็นแหล่งน้ำ ร้อยละ 30 สำหรับนาข้าว ร้อยละ 30 สำหรับพืชผสม เช่น ต้นไม้ ผลไม้ และผัก และร้อยละ 10 สำหรับอยู่อาศัย ฟาร์มสัตว์ อาทิ ข้าวทฤษฏีใหม่ มีข้อดีหลายประการ มันไม่ซับซ้อน ใช้งานได้อย่างง่ายดาย และไม่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีราคาแพง มันได้รับการพยายามและทดสอบและมีการผลิตผลลัพธ์ที่น่าพอใจ เกษตรกรที่ได้ตามทฤษฎีนี้ได้กลายเป็นแบบพอเพียงและพึ่งตนเอง .คนไทยทุกคนเข้าใจคำว่า " พอเพียง " หลังจากที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้เสนอแนวคิดเรื่องเศรษฐกิจพอเพียงเป็นวิธีที่จะดึงประเทศไทยออกจากวิกฤตเศรษฐกิจที่ปะทุขึ้นในปี 1997 ความคิดที่สำคัญของเศรษฐกิจพอเพียงเป็นเรื่องที่คนไทยควรใช้ชีวิตที่ใบพวกเขาพอที่จะกินขณะที่พวกเขาพึ่งพาเศรษฐกิจของตัวเอง กับที่อุดมไปด้วยและที่ดินที่อุดมสมบูรณ์เหมาะสำหรับปลูกพืชอาหาร ประเทศไทยควรดำเนินการวิจัยและพัฒนาในการปรับปรุงดินและพืช ประชาชนควรผลิตเพียงพอต่อการบริโภคของตนเองก่อน ในหลวงทรงแนะรัฐบาลใช้จ่ายส่วนหนึ่งของงบประมาณในการพัฒนาที่ดินเพื่อประชาชนเพื่อสร้างพอเพียงฟาร์ม คนสนับสนุนให้ใช้ทฤษฎีใหม่ในการจัดการที่ดินและพัฒนาแหล่งน้ำเพื่อการเกษตร เมื่อมีการเกินดุลในการผลิต , การส่งออกมากขึ้นจะเห็น และสูงกว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจจะกลับคืนมาฝ่าบาทพระราชาแนะนำในเศรษฐกิจพอเพียง มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนช่วยเหลือตัวเองและสร้างความเข้มแข็งให้ชุมชน โดยการมีส่วนร่วมของประชาชน ความคิดที่เน้นการพัฒนาเศรษฐกิจ เบื้องต้นจะดำเนินการตามขั้นตอน ประชาชนจะได้รับประโยชน์อย่างมากจากการพัฒนาซึ่งเป็นชุดเพื่อตอบสนองความต้องการของพวกเขาทันทีและเศรษฐกิจให้ผ่านพ้นวิกฤต แนวโน้มการพัฒนาใหม่นี้จะเริ่มวางฐานราก บริษัท สำหรับประเทศไทย