การวิจัย “การสำรวจความคิดเห็นของนักเรียนต่อวิธีการแก้ไขปัญหาการขาดระเบียบวินัยภายในห้องเรียน” นี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อประมาณร้อยละของนักเรียนที่มีความคิดเห็นต่อการขาดระเบียบวินัยด้านต่างๆ 2) เพื่อประมาณร้อยละของนักเรียนที่มีความคิดเห็นต่อสาเหตุของการขาดระเบียบวินัย 3) เพื่อประมาณร้อยละของนักเรียนที่มีความคิดเห็นต่อวิธีการแก้ไขปัญหาการขาดระเบียบวินัย ประชากรที่ใช้ในการศึกษาคือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ปีการศึกษา 2557 จำนวน 472 คน ของโรงเรียนธัญรัตน์ ทำการสุ่มตัวอย่างด้วยวิธีการสุ่มอย่างง่ายแบบไม่แทนที่ (Simple random sampling without replacement) ขนาดตัวอย่างเท่ากับ 24 คน
ผลการวิจัย พบว่าลักษณะของด้านที่ขาดระเบียบวินัยมากที่สุด พบว่าผู้ตอบแบบสอบถามเลือกเป็นอันดับแรกคือ ด้านมารยาท จำนวน 7 คน คิดเป็นร้อยละ 29.2 ด้านความรับผิดชอบ จำนวน 7 คน คิดเป็นร้อยละ 29.2 อันดับที่สองคือ ด้านการแต่งกาย จำนวน 8 คน คิดเป็นร้อยละ 33.3 และอันดับที่สามคือ ด้านความสะอาด จำนวน 8 คน คิดเป็นร้อยละ 33.3 โดยสาเหตุการเกิดปัญหาการขาดระเบียบวินัยในด้านต่างๆที่นักเรียนให้คะแนนระดับความสำคัญสูงสุด คือ ด้านความสะอาด คือ ความขี้เกียจ ร้อยละ 41.7 รองลงมาคือ ความมักง่าย ร้อยละ 37.5 ด้านการเรียนคือ ไม่ใช่วิชาที่ชอบ ร้อยละ 33.3 รองลงมาคือ อาจารย์สอนไม่น่าสนใจ ร้อยละ 29.2 ด้านมารยาทคือ การขาดวินัยในตนเอง ร้อยละ 50 รองลงมาคือ ทานอาหารเช้าที่บ้านไม่ทันทำให้ต้องมาทานในห้องและเพื่อนชวนคุยระหว่างการเรียนการสอนในสัดส่วนที่เท่ากัน ร้อยละ 33.3 ด้านการแต่งกายคือ แต่งตามกระแส ร้อยละ 66.7 รองลงมาคือ พื้นฐานครอบครัวไม่ดีและมีแหล่งขายของผิดระเบียบใกล้โรงเรียนในสัดส่วนที่เท่ากัน ร้อยละ 25 ด้านความรับผิดชอบคือ ไม่สนใจเวลาอาจารย์สอนทำให้ทำงานไม่ได้ ร้อยละ 41.7 รองลงมาคือ แบ่งเวลาไม่ถูก อาจารย์ไม่เข้มงวดเวลาตรวจงานและไม่เข้าใจเนื้อหางานที่ได้รับมอบหมายในสัดส่วนที่เท่ากัน ร้อยละ 33.3 ด้านความสามัคคีคือ มีการสื่อสารกันแค่เฉพาะในกลุ่มตัวเอง ร้อยละ 50 รองลงมาคือ ความเห็นแก่ตัว ร้อยละ 41.7 และวิธีที่สามารถแก้ไขปัญหาการขาดระเบียบวินัยภายในห้องเรียนที่นักเรียนให้คะแนนระดับความสำคัญสูงสุด คือ โรงเรียนควรมีการจัดตารางเรียนวิชาหนักเบาให้เหมาะสมตามสมควรและนักเรียนควรให้เกียรติอาจารย์ผู้สอนขณะทำการสอนในคาบเรียนทุกครั้ง ร้อยละ 45.8 รองลงมาคือ อาจารย์ควรมีการปรับการสอนให้ดูน่าสนใจมากขึ้นและอาจารย์ควรมีการส่งเสริมให้มีการจัดกิจกรรมร่วมกันระหว่างนักเรียน ร้อยละ 41.7 อาจารย์ควรทำโทษทุกครั้งที่นักเรียนทำผิด อาจารย์ควรเอาใจใส่นักเรียนอย่างทั่วถึง เป็นกลาง ไม่ลำเอียงและโรงเรียนควรมีช่วงพักเบรคระหว่างการเรียนช่วงเช้าและช่วงบ่าย ร้อยละ 37.5