The Berne Convention29th April 1963

The Berne Convention
29th April 1963

Thirteen years after its foundation the ICPR was given a status under international law. On 29 April 1963, the envoys of the German, French, Luxembourgian, Dutch and Swiss government signed the „Convention on the international Commission for the Protection of the Rhine against Pollution“ in Berne.

They shared “the concern to keep the Rhine clean, to avoid further contamination and to improve its present state and were convinced of the urgency of this task.“

The Berne Convention of 1963 (only in German, French and Dutch) detailed the tasks of the ICPR. In future, it should:

- investigate into the state of the Rhine,

- propose restoration measures,

- prepare international conventions and

- work on mandates given by Ministers' Conferences.

This was a successful step towards making international water protection legally binding. But it did still take some time before the contracting parties managed to agree on specific measures aimed at Rhine protection.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

นว่าการวันที่ 29 1963 เมษายนสิบสามปีหลังจาก ICPR การของมูลนิธิได้รับสถานะตามกฎหมายระหว่างประเทศ บน 29 1963 เมษายน ทูตของเยอรมัน ฝรั่งเศส Luxembourgian ดัตช์ และสวิสรัฐบาลลงนาม "อนุสัญญาว่าด้วยคณะกรรมการนานาชาติเพื่อปกป้องแม่น้ำไรน์กับ Pollution" ในแบร์น พวกเขาร่วมกัน "ความกังวลเพื่อให้แม่น้ำไรน์ สะอาด เพื่อหลีกเลี่ยงการปนเปื้อน และ การปรับปรุงสถานะปัจจุบัน และเชื่อว่าความเร่งด่วนของงานนี้ได้"นว่าของ 1963 (เฉพาะในเยอรมัน ฝรั่งเศส และดัตช์) รายละเอียดงานของ ICPR ในอนาคต มันควรจะ:-ตรวจสอบในรัฐไรน์-เสนอมาตรการฟื้นฟู-เตรียมการประชุมนานาชาติ และ-ทำงานบนเอกสารที่ได้รับจากการประชุมรัฐมนตรีขั้นตอนประสบความสำเร็จต่อการทำให้ป้องกันน้ำระหว่างประเทศที่ผูกพันตามกฎหมายได้ แต่มันก็ยังคงใช้เวลาก่อนที่คู่สัญญาฝ่ายจัดการเพื่อตกลงในมาตรการเฉพาะที่คุ้มครองแม่น้ำไรน์

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เบิร์นน์อนุสัญญา
29 เมษายน 1963

สิบสามปีหลังจากที่มูลนิธิของ ICPR ได้รับสถานะตามกฎหมายต่างประเทศ วันที่ 29 เมษายน 1963 ทูตของเยอรมัน, ฝรั่งเศส, ลักเซมเบิร์กที่รัฐบาลเนเธอร์แลนด์และสวิสลงนามใน "อนุสัญญาว่าด้วยคณะกรรมการระหว่างประเทศเพื่อการคุ้มครองของแม่น้ำไรน์กับมลพิษ" ในเบิร์น.

พวกเขาร่วมกัน "ความกังวลที่จะทำให้แม่น้ำไรน์สะอาด เพื่อหลีกเลี่ยงการปนเปื้อนเพิ่มเติมและเพื่อปรับปรุงสภาพปัจจุบันและความเชื่อมั่นของความเร่งด่วนของงานนี้. "

อนุสัญญาเบิร์น 1963 (เฉพาะในเยอรมัน, ฝรั่งเศสและเนเธอร์แลนด์) รายละเอียดของงาน ICPR ในอนาคตก็ควรจะ:

- ตรวจสอบการเข้าสู่สภาวะของแม่น้ำไรน์

- เสนอมาตรการฟื้นฟู

- เตรียมความพร้อมการประชุมนานาชาติและ

. - การทำงานเกี่ยวกับเอกสารที่ได้รับจากการประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวง

นี้เป็นขั้นตอนที่ประสบความสำเร็จต่อการทำป้องกันน้ำระหว่างประเทศที่มีผลผูกพันตามกฎหมาย แต่มันก็ยังคงใช้เวลาก่อนที่คู่สัญญามีการจัดการที่จะเห็นด้วยกับมาตรการที่เฉพาะเจาะจงมุ่งเป้าไปที่การป้องกันแม่น้ำไรน์

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

อนุสัญญากรุงเบิร์น29 เมษายน 1963สิบสามปีหลังจากที่มูลนิธิของ icpr ได้รับสถานะตามกฎหมายระหว่างประเทศ เมื่อวันที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2506 , ทูตของเยอรมัน ฝรั่งเศส ลักเซมเบิร์ก ดัตช์ และ สวิส„รัฐบาลลงนามในอนุสัญญาว่าด้วยคณะกรรมาธิการระหว่างประเทศเพื่อคุ้มครองไรน์กับมลพิษใน Berne .พวกเขาร่วมกัน " ความกังวลให้ไรน์ที่สะอาดเพื่อหลีกเลี่ยงการปนเปื้อนเพิ่มเติมและปรับปรุงสถานะปัจจุบัน และมีความเชื่อมั่นของความเร่งด่วนของงานนี้ " .และอนุสัญญากรุงเบิร์นของ 1963 ( เฉพาะในเยอรมัน , ฝรั่งเศสและดัตช์ ) รายละเอียดงานของ icpr . ในอนาคต มันควรจะ :- ตรวจสอบในสถานะของไรน์ ,- เสนอมาตรการฟื้นฟู- เตรียมการจัดประชุมนานาชาติ และ- ทำเอกสารให้ โดยการประชุมคณะรัฐมนตรี "นี่เป็นก้าวสู่การคุ้มครองน้ำระหว่างประเทศผูกพันตามกฎหมาย แต่มันก็ยังคงใช้เวลาก่อนที่คู่สัญญาสามารถตกลงเกี่ยวกับมาตรการเฉพาะมุ่งคุ้มครองไรน์ .