technologies such as tidal barrages

technologies such as tidal barrages, tidal turbines, wave energy, OTEC and salinity gradients in Malaysia. These results were as expected by the authors, as the development of marine renewable energy is still at an early stage.

Hence, it is reasonable that the majority of the respondents were unaware of the existence of this new technology.

Of the respondents, 82.8% agreed that marine renewable energy
technology should be implemented in Malaysia.

This might be because the majority of the respondents tend to welcome environmentally friendly technology which promotes sustainable development.

Even if they might not be familiar with marine renewable energy, the concept of renewable energy does give people the impression of being clean, green and having low negative environmental impacts.

Therefore, the respondents were prone to accept marine renewable energy as an alternative energy source.

Furthermore, the high acceptance level among the respondents towards marine renewable energy implementation in Malaysia might be attributed to governmental efforts to promote the renewable energy market.

The five-fuel policy was introduced in 2000, putting renewable energy as the fifth energy to be utilised besides oil, gas, coal and hydropower.

The share of renewable energy in the total energy mix is expected to hit 5.5% by 2015 and 11% by 2020. As a result, the respondents were generally supportive towards implementation of new technology.


The acceptance level of marine renewable energy implementation varied in different age groups. Surprisingly, the acceptance level decreased with the increasing age of the respondents, as shown in Fig. 7.

The highest acceptance level was from the respondents aged below 25 years, followed by the 25–34-years-old group.

These age groups recorded 32.8% and 28% of the total respondents, respectively; 8%, 7.2% and 6.8% of respondents aged 35–44, 45–54 and 55 years and above, respectively, accepted the implementation of.

This result disagreed with the previous studies which showed that younger people marine renewable energy were more likely to oppose renewable energy projects than older people (Vorkinn and Riese, 2001; Devine-Wright, 2005).

This may be attributed to the younger respondents’ more open-minded and sensitive attitudes towards the issues of renewable energy in Malaysia.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เทคโนโลยี barrages บ่า กังหันบ่า พลังงานคลื่น ไล่ระดับสี OTEC และเค็มในมาเลเซีย ผลลัพธ์เหล่านี้ได้ตามที่คาดไว้ โดยผู้เขียน การพัฒนาพลังงานทดแทนทางทะเลเป็นยังที่มีช่วงระยะการ

จึงสมเหตุสมผลว่า ส่วนใหญ่ของผู้ตอบถูกต่ำของการดำรงอยู่ของนี้ใหม่เทคโนโลยี

ของผู้ตอบ 828% ยอมรับพลังงานหมุนเวียนที่ทะเล
เทคโนโลยีควรนำมาใช้ในมาเลเซียได้

นี้อาจเป็น เพราะส่วนใหญ่ผู้ตอบมักต้อนรับเทคโนโลยีกับสิ่งแวดล้อมที่ส่งเสริมการพัฒนาอย่างยั่งยืนได้

แม้ว่าพวกเขาอาจไม่คุ้นเคยกับทะเลพลังงานทดแทน พลังงานทดแทนแนวคิดให้คนประทับใจความสะอาด สีเขียวและมีต่ำลบสิ่งแวดล้อมผลกระทบการ

ดังนั้น ผู้ตอบที่มีแนวโน้มที่จะยอมรับพลังงานทดแทนสัตว์น้ำเป็นแหล่งพลังงานทดแทนการได้

นอกจากนี้ ระดับสูงยอมรับในหมู่ผู้ตอบต่อการใช้พลังงานทดแทนทางทะเลในมาเลเซียอาจเกิดจากภาครัฐพยายามส่งเสริมการตลาดพลังงานทดแทนได้

นโยบายเชื้อเพลิง five ถูกนำมาใช้ในปี 2000 การใส่พลังงานทดแทนเป็นพลังงาน fifth ไปใช้นอกเหนือจากน้ำมัน ก๊าซธรรมชาติ ถ่านหิน และไฟฟ้า

ส่วนแบ่งของพลังงานทดแทนในส่วนผสมพลังงานรวมคาดว่าจะตี 5.5% โดย 2015 และ 11% โดย 2020 ดังนั้น ผู้ตอบถูกโดยทั่วไปให้การสนับสนุนต่อการนำเทคโนโลยีใหม่


มีระดับของการนำพลังงานทดแทนสัตว์น้ำที่แตกต่างกันในกลุ่มอายุต่าง ๆ จู่ ๆ มีระดับลดลงพร้อมกับอายุที่เพิ่มขึ้นของผู้ตอบ แสดงใน Fig. 7

ถูกระดับการยอมรับสูงสุดจากผู้ตอบที่อายุต่ำกว่า 25 ปี ตาม ด้วยกลุ่ม 25 – 34 ปีอายุ

วัยเหล่านี้บันทึก 32.8% และ 28% ของผู้ตอบทั้งหมด ตามลำดับ 8%, 7.2% และ 6.8% ของผู้ตอบอายุ 35-44, 45 – 54 และ ปี 55 และเหนือ ตามลำดับ ยอมรับปฏิบัติ

ผลนี้ disagreed กับก่อนหน้านี้ศึกษาซึ่งแสดงให้เห็นว่าคนที่อายุน้อยกว่าทะเลพลังงานทดแทนมีแนวโน้มที่จะต่อต้านโครงการพลังงานทดแทนมากกว่าคนสูงอายุ (Vorkinn และ Riese, 2001 ไรท์ devine, 2005)

นี้อาจเกิดจากการผู้ตอบคนที่เปิดกว้างมากขึ้น และสำคัญทัศนคติปัญหาของพลังงานทดแทนในประเทศมาเลเซีย

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เทคโนโลยีเช่นน้ำขึ้นน้ำลงเขื่อนกั้นน้ำกังหันน้ำขึ้นน้ำลงพลังงานคลื่นและความเค็มไล่สีโอเท็ก , มาเลเซีย ผลเป็นอย่างที่คาดไว้ โดยผู้เขียนเช่นการพัฒนาของพลังงานทางทะเลยังอยู่ในระยะแรก

ดังนั้นจึงสมเหตุสมผลที่ส่วนใหญ่เป็นตระหนักถึงการดำรงอยู่ของเทคโนโลยีใหม่นี้

ของผู้ตอบแบบสอบถาม , 828 % เห็นด้วยว่าเทคโนโลยีพลังงานทดแทน ควรใช้ทะเล


ในมาเลเซีย อาจเป็นเพราะส่วนใหญ่มักจะยินดีเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเทคโนโลยีที่ส่งเสริมการพัฒนาที่ยั่งยืน .

แม้ว่าพวกเขาอาจจะไม่คุ้นเคยกับพลังงานทดแทนทางทะเล แนวคิดของพลังงานทดแทน ทำให้ผู้คนประทับใจมีความสะอาด ,สีเขียวและมีต่ำเชิงลบผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

เพราะฉะนั้น ผู้ตอบแบบสอบถามมีแนวโน้มที่จะยอมรับพลังงานหมุนเวียนทางทะเลเป็นแหล่งพลังงานทางเลือก

นอกจากนี้ สูงระดับการยอมรับในหมู่ผู้ตอบแบบสอบถามที่มีต่อการนำพลังงานทดแทนทางทะเลในมาเลเซียอาจจะเกิดจากความพยายามของรัฐบาลเพื่อส่งเสริมตลาดพลังงานทดแทน .

จึงมีนโยบายใช้เชื้อเพลิงใน 2000 ให้พลังงานทดแทนเป็นพลังงานจึง fth จะใช้นอกเหนือจากน้ำมัน ก๊าซ และถ่านหิน พลังน้ำ

ในส่วนของพลังงานทดแทนในพลังงานผสมทั้งหมดคาดว่าจะตี 5.5 % ภายในปี 2015 และ 11% ในปี 2020 ทั้งนี้ ผู้ตอบแบบสอบถามโดยทั่วไปจะสนับสนุนต่อการดำเนินการของเทคโนโลยีใหม่


ระดับการยอมรับของมารีนพลังงานทดแทนการหลากหลายในกลุ่มอายุที่แตกต่างกัน จู่ ๆ ระดับการยอมรับลดลงเมื่อมีการเพิ่มอายุของผู้ตอบแบบสอบถาม ดังแสดงในรูปที่ 7

ระดับการยอมรับสูงสุดจากผู้ตอบแบบสอบถามอายุต่ำกว่า 25 ปี รองลงมาคือ กลุ่มอายุ 25 – 35 ปี

อายุเหล่านี้บันทึก 32.8 % และ 28% ของผู้ตอบแบบสอบถามทั้งหมดตามลำดับ ; 8 % , 7.2 % และ 6.8 % ของผู้ตอบแบบสอบถามอายุ 35 - 44 , 45 และ 54 และ 55 ปีขึ้นไปตามลำดับ ยอมรับการดำเนินงานของ

ผลนี้ไม่เห็นด้วยกับการศึกษาก่อนหน้านี้ที่พบว่า คนอายุน้อยทะเลพลังงานทดแทนมีแนวโน้มที่จะคัดค้านโครงการพลังงานหมุนเวียนมากกว่าคนรุ่นเก่า ( vorkinn และ รีเซ่ , 2001 ; เพียง ไรท์ , 2005 )

นี้อาจจะประกอบกับน้องสาวของกลุ่มตัวอย่างเปิดใจกว้างและทัศนคติที่มีต่อเรื่องของพลังงานทดแทนในมาเลเซีย