Summary: A behaviorist theory based

Summary: A behaviorist theory based on the fundamental idea that behaviors that are reinforced will tend to continue, while behaviors that are punished will eventually end[1].

Originators and Key Contributors: B. F. Skinner, built upon Ivan Pavlov’s theories of classical conditioning.

Keywords: response-stimulus, voluntary response, reinforcer

Classical and Operant Conditioning (B. F. Skinner)

Operant conditioning can be described as a process that attempts to modify behavior through the use of positive and negative reinforcement. Through operant conditioning, an individual makes an association between a particular behavior and a consequence[2].

Example 1: Parents rewarding a child’s excellent grades with candy or some other prize.
Example 2: A schoolteacher awards points to those students who are the most calm and well-behaved. Students eventually realize that when they voluntarily become quieter and better behaved, that they earn more points.
Example 3: A form of reinforcement (such as food) is given to an animal every time the animal (for example, a hungry lion) presses a lever[3].
The term “operant conditioning” originated by the behaviorist B. F. Skinner, who believed that one should focus on the external, observable causes of behavior (rather than try to unpack the internal thoughts and motivations)

Reinforcement comes in two forms: positive and negative. We will explain this below.


Positive and negative reinforcers

Positive reinforcers are favorable events or outcomes that are given to the individual after the desired behavior. This may come in the form of praise, rewards, etc.
Negative reinforcers typically are characterized by the removal of an undesired or unpleasant outcome after the desired behavior. A response is strengthened as something considered negative is removed.
The goal in both of these cases of reinforcement is for the behavior to increase.

Positive and negative punishment

Punishment, in contrast, is when the increase of something undesirable attempts to cause a decrease in the behavior that follows.

Positive punishment is when unfavorable events or outcomes are given in order to weaken the response that follows.
Negative punishment is characterized by when an favorable event or outcome is removed after a undesired behavior occurs.
The goal in both of these cases of punishment is for a behavior to decrease.

What is the difference between operant conditioning and classical conditioning? In operant conditioning, a voluntary response is then followed by a reinforcing stimulus. In this way, the voluntary response (e.g. studying for an exam) is more likely to be done by the individual. In contrast, classical conditioning is when a stimulus automatically triggers an involuntary response.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

สรุป: behaviorist ทฤษฎีตามแนวคิดพื้นฐานที่พฤติกรรมที่เสริมจะมีแนวโน้มต้องการ ในขณะที่พฤติกรรมที่เป็นโทษจะสิ้นสุดในที่สุด [1]ผู้ริเริ่มและผู้สนับสนุนคีย์: B. F. คือ สร้างขึ้น Ivan Pavlov ทฤษฎีของแบบดั้งเดิมคำสำคัญ: reinforcer กระตุ้นการตอบสนอง ตอบสนองความสมัครใจคลาสสิก และ Operant ปรับ (คือ F. B.)ปรับ operant สามารถอธิบายเป็นกระบวนการที่พยายามที่จะปรับเปลี่ยนลักษณะการทำงานผ่านการใช้การเสริมแรงเชิงบวก และเชิงลบ ผ่าน operant ปรับ ผู้ที่ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างลักษณะเฉพาะและผล [2]ตัวอย่างที่ 1: พ่อแม่ให้รางวัลกับลูกอมหรือรางวัลอื่น ๆ บางเกรดดีของเด็กตัวอย่างที่ 2: เป็นครูที่โรงเรียนหนึ่งรางวัลจุดเหล่านั้นนักเรียนที่มีความสงบมากที่สุด และแบ่ง นักเรียนในที่สุดก็รู้ว่าเมื่อพวกเขากลายเป็นเงียบ และ ประพฤติดีกว่า สมัครใจว่า พวกเขาได้รับคะแนนมากขึ้นตัวอย่างที่ 3: รูปแบบของการเสริมแรง (เช่นอาหาร) ให้สัตว์ทุกครั้งที่สัตว์ (เช่น สิงโตหิว) กดคันโยก [3]ระยะ "operant ปรับ" มาจาก behaviorist คือ F. B. ผู้ที่เชื่อว่าควรเน้นที่ภายนอก สังเกตได้สาเหตุของลักษณะการทำงาน (แทนที่พยายามแกะความคิดภายในและแรงจูงใจ)การเสริมแรงมาในสองรูปแบบ: บวก และลบ เราจะอธิบายด้านล่างReinforcers บวก และลบReinforcers บวกมีเหตุการณ์ดีหรือผลที่จะได้รับการตอบหลังจากการทำงานที่ต้องการ นี้อาจมาในรูปแบบของการสรรเสริญ รางวัล ฯลฯReinforcers ลบมักจะมีลักษณะ โดยการกำจัดผลไม่พึงประสงค์ หรือไม่พึงประสงค์หลังจากการทำงานที่ต้องการ การตอบสนองจะเข้มแข็งเป็นสิ่งที่ถือว่าเป็นค่าลบจะถูกเอาออกเป้าหมายในทั้งสองกรณีนี้การเสริมแรงคือลักษณะการทำงานเพื่อเพิ่มการลงโทษบวก และลบลงโทษ ตรงกันข้าม คือเมื่อพยายามที่จะทำให้ลดการทำงานที่เพิ่มขึ้นของสิ่งที่ไม่พึงปรารถนาลงโทษทางบวกคือเมื่อเหตุการณ์ไม่เอื้ออำนวยหรือผลที่ได้รับเพื่อการตอบสนองที่ลดลงลงโทษลบเป็นลักษณะเมื่อเหตุการณ์ดีหรือผลที่ได้ถูกเอาออกหลังจากเกิดพฤติกรรมไม่พึงประสงค์เป้าหมายในทั้งสองกรณีนี้การลงโทษสำหรับพฤติกรรมที่ลดนั้นความแตกต่างระหว่างปรับ operant และแบบดั้งเดิมคืออะไร ใน operant ปรับ การตอบสนองด้วยความสมัครใจแล้วตาม ด้วยการกระตุ้นเสริม ในวิธีนี้ การตอบสนองด้วยความสมัครใจ (เช่นเรียนสอบ) มีแนวโน้มที่จะต้องกระทำ โดยบุคคล ตรงกันข้าม แบบดั้งเดิมได้รับการกระตุ้นโดยอัตโนมัติก่อให้เกิดการตอบสนองโดยไม่ตั้งใจ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

สรุป : behaviorist ทฤษฎี ขึ้นอยู่กับพื้นฐานความคิดว่า พฤติกรรมที่เสริมจะมีแนวโน้มต่อ ในขณะที่พฤติกรรมที่ถูกลงโทษในที่สุดจะสิ้นสุด [ 1 ]ผู้สร้างและผู้เขียนหลัก : บี เอฟ สกินเนอร์ อิวาน พาฟลอฟ สร้างตามทฤษฎีการวางเงื่อนไขแบบคลาสสิค .คำสำคัญ : กระตุ้นการตอบสนอง reinforcer ความสมัครใจคลาสสิกและผ่าตัดปรับอากาศ ( B . F . Skinner )งบประมาณผันแปรสามารถอธิบายเป็นขั้นตอนที่พยายามที่จะปรับเปลี่ยนพฤติกรรมจากการใช้การเสริมแรงทางบวก และลบ ผ่านการเรียนรู้กลุ่มพฤติกรรมนิยม บุคคลทำให้ความสัมพันธ์ ระหว่างพฤติกรรมที่เฉพาะเจาะจงและผล [ 2 ]ตัวอย่าง 1 : พ่อแม่ของเด็กเกรดที่ยอดเยี่ยมคุ้มค่ากับลูกอมหรือบางอื่น ๆรางวัลตัวอย่าง 2 : รางวัลครูชี้ไปที่เหล่านักเรียนที่ที่สงบ และประพฤติดี นักเรียนแล้วทราบว่าเมื่อพวกเขาสมัครใจกลายเป็นเงียบและดีกว่า มี ที่พวกเขาได้รับคะแนนมากขึ้นตัวอย่าง 3 : รูปแบบของการเสริม ( เช่นอาหาร ) ให้แก่สัตว์ทุกสัตว์ ( เช่น หิวสิงโต ) กดคันโยก [ 3 ]คำว่า " ปรับอากาศ " การดำเนินการเริ่มต้นโดย behaviorist B . F . Skinner ที่เชื่อว่า ควรมุ่งเน้นไปที่ภายนอก สาเหตุของพฤติกรรมที่สังเกตได้ ( มากกว่า ลองเอาความคิดภายในและแรงจูงใจ )มาในสองรูปแบบ : การเสริมแรงทางบวกและทางลบ เราจะอธิบายด้านล่างนี้บวกและลบ reinforcersreinforcers บวกเป็นมงคล เหตุการณ์หรือผลลัพธ์ที่ให้แต่ละหลังต้องการพฤติกรรม นี้อาจจะมาในรูปแบบของการสรรเสริญ , รางวัล , ฯลฯreinforcers ลบมักจะมีลักษณะ โดยเอาผลไม่พึงประสงค์หรือไม่หลังจากพฤติกรรมที่ต้องการ . การตอบสนองมีความเข้มแข็งเป็นสิ่งที่ถือว่าเป็นค่าลบจะถูกลบออกเป้าหมายในทั้งสองกรณีของการเสริมแรงที่เป็นพฤติกรรมเพื่อเพิ่มบวกและเชิงลบ การลงโทษการลงโทษในทางตรงกันข้าม คือ เมื่อการเพิ่มขึ้นของความพยายามที่ไม่พึงประสงค์บางอย่างจะลดลง พฤติกรรมที่ตามมาการลงโทษเป็นบวกเมื่อเหตุการณ์ร้ายหรือผลที่ได้รับ เพื่อที่จะทำให้การตอบสนองที่ 1การลงโทษเชิงลบเป็นลักษณะเมื่อมีเหตุการณ์ดีหรือผลจะถูกลบออกหลังจากพฤติกรรมที่ไม่พึงปรารถนาเกิดขึ้นเป้าหมายในทั้งสองกรณีการลงโทษสำหรับพฤติกรรมการลดอะไรคือความแตกต่างระหว่างการเรียนรู้กลุ่มพฤติกรรมนิยมและปรับอากาศคลาสสิก ? ในการเรียนรู้กลุ่มพฤติกรรมนิยม , การตอบสนองโดยสมัครใจแล้วตามด้วยการกระตุ้น ในวิธีนี้การตอบสนองโดยสมัครใจ เช่น เรียนเพื่อสอบ ) มีแนวโน้มที่จะกระทำโดยบุคคล ในทางตรงกันข้าม การวางเงื่อนไขแบบคลาสสิค คือ เมื่อกระตุ้นโดยอัตโนมัติเรียกการตอบสนองโดยไม่สมัครใจ .