The injected air into the secondary

The injected air into the secondary reformer provides the nitrogen in Haber–Bosch reaction.Syngas is created when the combustion section’s exhaust stream passes through the catalytic component. The exit stream from the secondary reformer feeds to the shift reactors after cooling to an acceptable temperature in a waste heat boiler and condensing of steam in a separator. Carbon monoxide and steam react catalytically in the water–gas shift process, producing hydrogen and carbon dioxide. Presently, most ammonia plants use a combination of high and low-temperature shift reactors. The iron oxide and copper oxide–zinc oxide catalysts are used in high and low shift converters, respectively. Because CO and CO2 deactivate the iron catalyst in the ammonia converter, an absorber column and a methanator are used to lower CO and CO2 concentrations to a safe level. As a result, the low-temperature shift’s output product is cooled and fed into the absorption column [24]. The CO2 is absorbed by the commercial solvents in the absorber, and the outlet stream from the absorber is heated up and fed to the methanation reactor. In the methanator, the residual CO2 and CO are converted to methane through reverse reforming reactions at temperatures of 200–500°C. The catalytic hydrogenation of carbon dioxide and carbon monoxide to methane is thermodynamically favorable at low temperatures and high pressure. The methanator’s output stream is cooled, compressed, and dried before being sent to the ammonia converter. Attemperatures ranging from 450°C to 600°C and pressures up to 100bar, hydrogen and nitrogen react over a heterogeneous catalyst such as fused iron in the ammonia reactor, and ammonia is produced as follows

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

อากาศที่ฉีดเข้าไปในเครื่องรีฟอร์มเมอร์รองจะให้ไนโตรเจนในปฏิกิริยาของ Haber–Bosch ซินกาสจะถูกสร้างขึ้นเมื่อกระแสไอเสียของส่วนการเผาไหม้ไหลผ่านส่วนประกอบตัวเร่งปฏิกิริยา กระแสทางออกจากเครื่องปฏิรูปทุติยภูมิจะป้อนไปยังเครื่องปฏิกรณ์แบบเลื่อนหลังจากเย็นลงจนถึงอุณหภูมิที่ยอมรับได้ในหม้อต้มความร้อนเหลือทิ้งและการควบแน่นของไอน้ำในตัวแยก คาร์บอนมอนอกไซด์และไอน้ำทำปฏิกิริยาอย่างเร่งปฏิกิริยาในกระบวนการเปลี่ยนน้ำและก๊าซ ทำให้เกิดไฮโดรเจนและคาร์บอนไดออกไซด์ ในปัจจุบัน โรงงานแอมโมเนียส่วนใหญ่ใช้การผสมผสานระหว่างเครื่องปฏิกรณ์แบบเปลี่ยนอุณหภูมิสูงและต่ำ ตัวเร่งปฏิกิริยาของเหล็กออกไซด์และคอปเปอร์ออกไซด์–ซิงค์ออกไซด์ถูกใช้ในคอนเวอร์เตอร์ที่มีกะสูงและต่ำตามลำดับ เนื่องจาก CO และ CO2 ปิดใช้งานตัวเร่งปฏิกิริยาเหล็กในแอมโมเนียคอนเวอร์เตอร์ จึงมีการใช้คอลัมน์ตัวดูดซับและตัวมีเทนเพื่อลดความเข้มข้นของ CO และ CO2 ให้อยู่ในระดับที่ปลอดภัย ผลที่ได้คือผลผลิตของการเปลี่ยนอุณหภูมิต่ำจะถูกทำให้เย็นลงและป้อนเข้าสู่คอลัมน์การดูดซึม [24] CO2 จะถูกดูดซับโดยตัวทำละลายเชิงพาณิชย์ในตัวดูดซับ และกระแสทางออกจากตัวดูดซับจะถูกทำให้ร้อนขึ้นและป้อนไปยังเครื่องปฏิกรณ์มีเทน ในเครื่องผลิตก๊าซมีเทน CO2 และ CO2 ที่ตกค้างจะถูกแปลงเป็นมีเธนผ่านปฏิกิริยารีเวิร์สฟอร์มิงย้อนกลับที่อุณหภูมิ 200–500°C การเร่งปฏิกิริยาไฮโดรจิเนชันของคาร์บอนไดออกไซด์และคาร์บอนมอนอกไซด์เป็นมีเทนเป็นผลดีทางอุณหพลศาสตร์ที่อุณหภูมิต่ำและความดันสูง กระแสเอาต์พุตของเมทาเนเตอร์จะถูกทำให้เย็น บีบอัด และทำให้แห้งก่อนที่จะถูกส่งไปยังตัวแปลงแอมโมเนีย ที่อุณหภูมิตั้งแต่ 450°C ถึง 600°C และความดันสูงถึง 100 บาร์ ไฮโดรเจนและไนโตรเจนจะทำปฏิกิริยากับตัวเร่งปฏิกิริยาที่ต่างกัน เช่น เหล็กหลอมในเครื่องปฏิกรณ์แอมโมเนีย และแอมโมเนียจะผลิตได้ดังต่อไปนี้

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

อากาศที่ฉีดเข้าไปในเตาแปลงที่สองให้ไนโตรเจนในปฏิกิริยา Haber - Bosch เมื่อกระแสไอเสียของส่วนการเผาไหม้ไหลผ่านชิ้นส่วนตัวเร่งปฏิกิริยา Syngas จะถูกสร้างขึ้น หลังจากเย็นลงในหม้อต้มความร้อนเสียอุณหภูมิที่ยอมรับได้และควบแน่นไอน้ำในตัวคั่นเต้าเสียบจากเครื่องปฏิกรณ์ reformer ขั้นตอนที่สองจะไหลไปยังเครื่องปฏิกรณ์แปลง คาร์บอนมอนอกไซด์และไอน้ำทำปฏิกิริยาตัวเร่งปฏิกิริยาระหว่างกระบวนการเปลี่ยนก๊าซน้ําเพื่อผลิตไฮโดรเจนและคาร์บอนไดออกไซด์ ปัจจุบันโรงงานแอมโมเนียส่วนใหญ่ใช้เครื่องปฏิกรณ์แปลงอุณหภูมิสูงและต่ํารวมกัน ตัวเร่งปฏิกิริยาเหล็กออกไซด์และทองแดงออกไซด์ซิงค์ออกไซด์ใช้สำหรับตัวแปลงสูงและตัวแปลงต่ำตามลำดับ CO และ CO2 ลดความเข้มข้นของ CO และ CO2 ให้อยู่ในระดับที่ปลอดภัยโดยใช้หอดูดซับและเครื่องแปลงก๊าซมีเทนเนื่องจาก CO และ CO2 ทำให้ตัวเร่งปฏิกิริยาเหล็กในเครื่องแปลงแอมโมเนียไม่ทำงาน เป็นผลให้ผลผลิตที่ได้จากการแปลงอุณหภูมิต่ำจะเย็นลงและป้อนเข้าไปในหอดูดซับ [24] CO2 ถูกดูดซับโดย CO2

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

อากาศที่ถูกฉีดเข้าไปในเตาเผาที่สองจะให้ไนโตรเจนสําหรับปฏิกิริยาHaber-Bosch ก๊าซสังเคราะห์ถูกสร้างขึ้นเมื่อก๊าซไอเสียจากส่วนที่เผาไหม้ไหลผ่านส่วนตัวเร่งปฏิกิริยา หลังจากระบายความร้อนลงในหม้อไอน้ําความร้อนทิ้งจนถึงอุณหภูมิที่ยอมรับได้และควบแน่นไอน้ําในตัวแยกโลจิสติกส์การส่งออกจากreformatorทุติยภูมิจะถูกป้อนลงในเครื่องปฏิกรณ์ คาร์บอนมอนอกไซด์และไอน้ําทําปฏิกิริยาเร่งปฏิกิริยาในระหว่างการแปลงน้ําและก๊าซเพื่อผลิตไฮโดรเจนและก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ปัจจุบันโรงงานแอมโมเนียส่วนใหญ่ใช้เครื่องปฏิกรณ์ที่มีอุณหภูมิสูงและอุณหภูมิต่ํา เหล็กออกไซด์และตัวเร่งปฏิกิริยาทองแดงออกไซด์-สังกะสีออกไซด์ใช้สําหรับการแปลงสูงและตัวแปลงต่ําตามลําดับ เนื่องจากคาร์บอนมอนอกไซด์และคาร์บอนไดออกไซด์จะทําให้ตัวเร่งปฏิกิริยาเหล็กในหอสังเคราะห์แอมโมเนียไม่ทํางานความเข้มข้นของคาร์บอนมอนอกไซด์และก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จะลดลงในระดับที่ปลอดภัยโดยใช้หอดูดซับและตัวแปลงมีเทน เป็นผลให้ผลลัพธ์ของการแปลงที่อุณหภูมิต่ําจะถูกระบายความร้อนและส่งไปยังหอดูดซับ[ 24 ] co 2ถูกดูดซึมโดยตัวทําละลายเชิงพาณิชย์ในตัวดูดซับและการไหลออกจากตัวดูดซับจะถูกให้ความร้อนและให้อาหารกับเครื่องปฏิกรณ์methaneation ในตัวแปลงมีเทนคาร์บอนไดออกไซด์และคาร์บอนไดออกไซด์ที่เหลือจะถูกแปลงเป็นก๊าซมีเทนโดยปฏิกิริยาการแปลงย้อนกลับที่อุณหภูมิ200-500องศาเซลเซียส การเร่งปฏิกิริยาของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และคาร์บอนมอนอกไซด์เป็นก๊าซมีเทนเป็นอุณหพลศาสตร์ที่เอื้อต่ออุณหภูมิต่ําและความดันสูง การไหลออกของตัวแปลงมีเทนจะถูกระบายความร้อนบีบอัดและอบแห้งก่อนที่จะถูกส่งไปยังตัวแปลงแอมโมเนีย อยู่
ช่วงอุณหภูมิตั้งแต่450°Cถึง600°Cความดันสูงถึง100บาร์ไฮโดรเจนและไนโตรเจนทําปฏิกิริยาบนตัวเร่งปฏิกิริยาหลายเฟสเช่นเหล็กหลอมในเครื่องปฏิกรณ์แอมโมเนียและแอมโมเนียถูกผลิตดังนี้