Kimball White Pine and Tar Cough Sy

Kimball White Pine and Tar Cough Syrup, which contained four minims of chloroform, was marketed as an effective tonic for cold symptoms and bronchitis. Indeed, as early as 1847, chloroform was used to relieve asthma symptoms and as a general anesthetic.

But despite the drug being hailed as a good substitute for ether, cases emerged of chloroform causing fatal cardiac or respiratory arrest. Multiple patients died after breathing it in, prompting doctors to revert back to using ether. In spite of this, however, chloroform was still used in mouthwashes and ointments. Eventually, in 1976, the Federal Drug Administration prohibited the use of chloroform for human consumption after the substance was found to cause cancer in lab animals.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ไม้สนขาว Kimball และทาร์ยาแก้ไอน้ำ ที่อยู่ minims 4 ของคลอโรฟอร์ม ถูกเด็ดขาดเป็นโทนิคมีประสิทธิภาพสำหรับอาการเย็นและหลอดลมอักเสบ แน่นอน ช่วงที่ 1847 คลอโรฟอร์มใช้เพื่อบรรเทาอาการหอบหืดและ เป็นยาชาทั่วไป

แต่แม้ มียาเสพติดเป็นคำยกย่องเป็นอีเทอร์แทนดี กรณีชุมนุมของคลอโรฟอร์มที่ทำให้จับกุมหัวใจ หรือทางเดินหายใจร้ายแรง หลายผู้ป่วยเสียชีวิตหลังจากการหายใจใน ถามหมอให้กลับไปใช้อีเทอร์ แม้นี้ อย่างไรก็ตาม คลอโรฟอร์มยังใช้ mouthwashes และ ointments ในที่สุด ในปี 1976 ยากลางห้ามใช้คลอโรฟอร์มสำหรับมนุษย์บริโภคหลังจากตรวจพบสารทำให้เกิดมะเร็งในห้องปฏิบัติการสัตว์

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

คิมบอลล์ไพน์สีขาวและกลายาแก้ไอซึ่งประกอบด้วยสี่ Minims ของคลอโรฟอร์มวางตลาดเป็นยาชูกำลังที่มีประสิทธิภาพสำหรับอาการหวัดและหลอดลมอักเสบ แท้จริงเร็วที่สุดเท่าที่ 1847 คลอโรฟอร์มถูกใช้ในการบรรเทาอาการโรคหอบหืดและเป็นยาชาทั่วไปแต่แม้จะมียาเสพติดได้รับการยกย่องว่าเป็นตัวแทนที่ดีสำหรับอีเทอร์กรณีเกิดคลอโรฟอร์มก่อให้เกิดอันตรายถึงชีวิตที่หัวใจหยุดเต้นหรือระบบทางเดินหายใจ ผู้ป่วยหลายคนเสียชีวิตหลังจากการหายใจในกระตุ้นให้แพทย์ที่จะเปลี่ยนกลับไปใช้อีเธอร์ ทั้งๆที่นี้ แต่คลอโรฟอร์มยังคงใช้ในน้ำยาและขี้ผึ้ง ในที่สุดในปี 1976, การบริหารยาของรัฐบาลกลางห้ามใช้คลอโรฟอร์มสำหรับมนุษย์บริโภคหลังจากสารที่พบว่าก่อให้เกิดมะเร็งในสัตว์ทดลอง

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

คิมบอลล์สีขาวสนและน้ำมันดิน ยาแก้ไอ ซึ่งมีอยู่สี่หยดคลอโรฟอร์ม ถูกวางตลาดเป็นยาที่มีประสิทธิภาพสำหรับอาการเป็นหวัด และหลอดลมอักเสบ แน่นอน เร็ว 1847 , คลอโรฟอร์มใช้บรรเทาอาการหอบหืดและเป็นยาชาทั่วไป

แต่แม้จะถูกยกย่องว่าเป็นยาทดแทนที่ดีสำหรับอีเทอร์คลอโรฟอร์ม กรณีเกิดเหตุร้ายแรง หัวใจหยุดเต้นหรือหยุดหายใจผู้ป่วยหลายตายหลังจากการหายใจในแจ้งแพทย์เพื่อกลับมาใช้อีเทอร์ แม้ว่านี้ อย่างไรก็ตาม คลอโรฟอร์ม ยังใช้ mouthwashes และขี้ผึ้ง ในที่สุด ในปี 1976 , การบริหารยาของรัฐบาลกลางห้ามใช้คลอโรฟอร์มสำหรับการบริโภคของมนุษย์หลังจากสารพบว่าทำให้เกิดมะเร็งในสัตว์ทดลอง .