So this episode shows how this idea

So this episode shows how this idea rapidly developed. Politicians and businessmen of that era think this was not a threat and it is also a good time as well that they are reaping the benefits of business and politics. And this concept has tremendous influence then people began to live like individual, the individual come from defiance the Vietnam War. At the same time, marketers turned to new customers with lifestyle marketing and expanding the individual interminably to reflect a people lifestyle. And it was in their interest to encourage people to feel they were unique individuals and then sell them ways to express that individuality.
So for the politician and businessman, they can have profited with new idea and they can sell an individual lifestyle. Politician can know how to make people do in the same direction to make a profit. No matter what, it will be good for politician and businessman more than people. But it can be a role of broadcasting because if people do the same direction then will make government easier to control. And it is depending on individuals whether they want it or not.
But for people, it is quite not fair because they was control their mind by the politician and businessman. They have to do what politician wants them to do so. For people the broadcasting media is used to tell them the true or spread the news correctly. It’s not a thing that use for business that much but people cannot do anything and have to do what government want. Then it’s just a thing that made for government.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ดังนั้น ตอนนี้แสดงว่าความคิดนี้อย่างรวดเร็วพัฒนา นักการเมืองและนักธุรกิจของยุคนั้นคิดว่า นี้ไม่ได้เป็นภัยคุกคาม และมีความสุขเช่นที่พวกเขามี reaping ประโยชน์ของธุรกิจและการเมือง และแนวคิดนี้มีอิทธิพลอย่างมากจาก นั้นคนเริ่มอยู่เช่นบุคคล มาละจากสมัยสงครามเวียดนาม ในเวลาเดียวกัน นักการตลาดเปิดให้ใหม่ ด้วยวิถีการตลาด และการขยายแต่ละ interminably ถึงชีวิตคน และในความสนใจเพื่อกระตุ้นให้ คนรู้สึกว่า พวกเขาเฉพาะบุคคลแล้ว ขายวิธีแสดงบุคลิกลักษณะที่ ดังนั้น สำหรับนักธุรกิจและนักการเมือง พวกเขาสามารถมี profited กับความคิดใหม่ และพวกเขาสามารถขายแต่ละชีวิต นักการเมืองสามารถรู้วิธีการทำให้คนทำในทิศทางเดียวกันเพื่อทำกำไร ไม่ว่าอะไร มันจะดีสำหรับนักการเมืองและนักธุรกิจมากกว่าคน แต่สามารถมีบทบาทของการออกอากาศเนื่องจากถ้าคนทำ ทิศทางเดียวกันแล้วจะทำให้รัฐบาลสามารถควบคุม และมันจะขึ้นอยู่กับบุคคลว่า จะต้องการ หรือไม่แต่สำหรับคน ไม่ค่อนข้างดีเนื่องจากพวกเขาถูกควบคุมใจ โดยนักการเมืองและนักธุรกิจ พวกเขาต้องทำอะไรนักการเมืองต้องได้ คน มีใช้สื่อวิทยุเพื่อว่า ความจริง หรือข่าวสารได้อย่างถูกต้อง มันไม่ใช่สิ่งที่ต้องการใช้สำหรับธุรกิจมากแต่คนไม่ทำอะไร และต้องทำอะไรรัฐบาล แล้วมันเป็นเพียงสิ่งที่ทำให้รัฐบาล

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ดังนั้นครั้งนี้แสดงให้เห็นว่าความคิดนี้การพัฒนาอย่างรวดเร็ว นักการเมืองและนักธุรกิจในยุคนั้นคิดว่านี่ไม่ได้เป็นภัยคุกคามและยังเป็นช่วงเวลาที่ดีเช่นกันว่าพวกเขาจะเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ของธุรกิจและการเมือง และแนวคิดนี้มีอิทธิพลอย่างมากจากนั้นคนเริ่มที่จะใช้ชีวิตเหมือนแต่ละบุคคลที่มาจากการต่อต้านสงครามเวียดนาม ในขณะเดียวกันนักการตลาดหันมาให้กับลูกค้าใหม่ที่มีไลฟ์สไตล์การตลาดและการขยายตัวของแต่ละบุคคลที่จะจบสะท้อนให้เห็นถึงวิถีชีวิตของผู้คน และมันก็อยู่ในความสนใจของพวกเขาที่จะส่งเสริมให้คนที่จะรู้สึกว่าพวกเขาเป็นบุคคลที่ไม่ซ้ำกันและแล้วพวกเขาขายวิธีการที่จะแสดงความแตกต่างที่.
ดังนั้นสำหรับนักการเมืองและนักธุรกิจที่พวกเขาสามารถได้ประโยชน์กับความคิดใหม่และพวกเขาสามารถขายของแต่ละบุคคลการดำเนินชีวิต นักการเมืองสามารถรู้วิธีที่จะทำให้คนทำในทิศทางเดียวกันเพื่อทำกำไร ไม่ว่าสิ่งที่มันจะดีสำหรับนักการเมืองและนักธุรกิจมากขึ้นกว่าคนไม่มี แต่ก็สามารถเป็นบทบาทของการกระจายเสียงเพราะถ้าคนทำในทิศทางเดียวกันแล้วจะทำให้รัฐบาลง่ายต่อการควบคุม และมันก็ขึ้นอยู่กับประชาชนว่าพวกเขาต้องการหรือไม่.
แต่สำหรับคนมันค่อนข้างไม่ยุติธรรมเพราะพวกเขาคือการควบคุมจิตใจของพวกเขาโดยนักการเมืองและนักธุรกิจ พวกเขาจะต้องทำในสิ่งที่นักการเมืองต้องการให้พวกเขาจะทำเช่นนั้น สำหรับคนที่สื่อกระจายเสียงที่ใช้ในการบอกพวกเขาจริงหรือกระจายข่าวได้อย่างถูกต้อง มันไม่ได้เป็นสิ่งที่ใช้สำหรับธุรกิจที่มาก แต่คนที่ไม่สามารถทำอะไรและมีการทำในสิ่งที่ต้องการของรัฐบาล จากนั้นก็จะเป็นเพียงสิ่งที่ทำให้รัฐบาล

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ดังนั้น ตอน นี้แสดงให้เห็นว่าความคิดนี้พัฒนาอย่างรวดเร็ว . นักการเมืองและนักธุรกิจในยุคนั้นว่า นี่ไม่ใช่การคุกคาม และมันก็เป็นช่วงเวลาที่ดีเช่นกันที่พวกเขาจะเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ของธุรกิจและการเมือง และแนวคิดนี้มีอิทธิพลอย่างมากแล้ว ผู้คนเริ่มที่จะใช้ชีวิตเหมือนบุคคล แต่ละคนมาจากการต่อต้านสงครามเวียดนาม ใน เวลาเดียวกันนักการตลาดเปิดลูกค้าใหม่กับการตลาดไลฟ์สไตล์และการขยายแต่ละอย่างเพื่อสะท้อนให้เห็นถึงวิถีชีวิตคน มันอยู่ในความสนใจของพวกเขาเพื่อส่งเสริมให้คนรู้สึกว่าพวกเขาเป็นบุคคลพิเศษ และขายพวกเขาวิธีที่จะแสดงออกความเป็น
สำหรับนักการเมือง และนักธุรกิจ พวกเขาสามารถได้กับความคิดใหม่และพวกเขาสามารถขายวิถีชีวิตของแต่ละบุคคลนักการเมืองสามารถรู้วิธีที่จะทำให้คนอื่นทำในทิศทางเดียวกันเพื่อทำกำไร ไม่ว่ายังไง มันก็จะดีสำหรับนักการเมืองและนักธุรกิจมากกว่าคน แต่มันเป็นบทบาทของการกระจายเสียง เพราะถ้าคนเราทำทิศทางเดียวกันแล้ว จะทำให้รัฐบาล ง่ายต่อการควบคุม และมันก็ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล ไม่ว่าพวกเขาต้องการหรือไม่ .
แต่สำหรับคนมันค่อนข้างไม่เป็นธรรม เพราะพวกเขาถูกควบคุมจิตใจโดยนักการเมืองและนักธุรกิจ พวกเขาจะต้องทำในสิ่งที่นักการเมืองต้องการให้พวกเขาทำเช่นนั้น สำหรับสื่อมวลชนจะใช้เพื่อบอกพวกเขาจริง หรือกระจายข่าวให้ถูกต้อง มันก็ไม่ใช่สิ่งที่ใช้เพื่อธุรกิจมาก แต่คนไม่ทำอะไรเลย และต้องทำตามที่รัฐบาลต้องการแล้วมันก็แค่เรื่องที่ทำให้รัฐบาล