Fiona Robinson(1999) similarly argu

Fiona Robinson(1999) similarly argues that ethics should not be so) conceived as separate from the theories and practices of international relations, but should instead be seen as embedded in them. In agreement with Hutchings she argues for a phenomenology of ethical life' rather than an"abstract ethics about the application of rules' (Robinson 1999:31) On her account of a global ethics of care, however, it is necessary also to submit the background assumptions of already existing moral and political discourses to critical scrutiny. Hutchings and Robinson agree with Linklater that any critical international theory must employ a mode of immanent critique. This means that the theorist must engage critically with the background normative assumptions that structure our ethical judgements in an effort to generate a more coherent fit between modes of thought and forms of political organization, and without relying on a set of abstract ethical principles.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

Fiona Robinson(1999) ในทำนองเดียวกันแย้งว่า จริยธรรมไม่ควรนั้น) รู้สึกเป็นแยกออกจากทฤษฎีและหลักปฏิบัติของความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ แต่แทนควรเห็นเป็นที่ฝังตัวในพวกเขา ข้อตกลง Hutchings เธอ argues สำหรับทั้งปรากฏการณ์ของชีวิตจริยธรรม ' มากกว่า "นามธรรมจริยธรรมเกี่ยวกับการประยุกต์ใช้กฎของ (โรบินสัน 1999:31) ในบัญชีของเธอจริยธรรมสากลของการดูแล อย่างไรก็ตาม มันจำเป็นยังส่งสมมติฐานเบื้องหลังอยู่ discourses ศีลธรรม และการเมืองเพื่อดำเนินการอย่างสำคัญ Hutchings และโรบินสันเห็น ด้วย Linklater ว่า ทฤษฎีใด ๆ นานาชาติที่สำคัญต้องใช้โหมดของทายาทวิจารณ์ ซึ่งหมายความ ว่า ทฤษฎีที่ต้องมีส่วนร่วมอย่างยิ่งกับสมมติฐานกฎเกณฑ์เบื้องหลังโครงสร้างนั้นพอดีเราตัดสินจริยธรรมในความพยายามที่จะสร้างการเชื่อมโยงกันมากขึ้นระหว่างโหมดของความคิดและรูปแบบ ขององค์กรการเมือง และโดยไม่ ต้องพึ่งชุดของหลักการทางจริยธรรมเป็นนามธรรม

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ฟิโอน่าโรบินสัน (1999) ในทำนองเดียวกันระบุว่าจริยธรรมไม่ควรจะเป็นอย่างนั้น) คิดว่าเป็นที่แยกต่างหากจากทฤษฎีและการปฏิบัติของความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ แต่ควรจะเห็นเป็นที่ฝังอยู่ในพวกเขา ในข้อตกลงกับ Hutchings เธอระบุว่าสำหรับปรากฏการณ์ของชีวิตจริยธรรม 'มากกว่า "จริยธรรมนามธรรมเกี่ยวกับการใช้กฎระเบียบที่' A (โรบินสัน 1999: 31) ในบัญชีของจริยธรรมทั่วโลกของความดูแลของเธอ แต่มันเป็นสิ่งที่จำเป็นนอกจากนี้ยังมีการส่ง สมมติฐานพื้นหลังของวาทกรรมทางศีลธรรมและทางการเมืองที่มีอยู่แล้วในการตรวจสอบข้อเท็จจริงที่สำคัญ. Hutchings และโรบินสันเห็นด้วยกับเคร์ว่าทฤษฎีระหว่างประเทศใด ๆ ที่สำคัญต้องจ้างโหมดของการวิจารณ์ทุกหนทุกแห่ง. นี้หมายความว่าทฤษฎีจะต้องมีส่วนร่วมอย่างยิ่งกับสมมติฐานเชิงบรรทัดฐานพื้นหลังว่าโครงสร้างการตัดสินทางจริยธรรมของเรา ในความพยายามที่จะสร้างเป็นแบบเชื่อมโยงกันมากขึ้นระหว่างโหมดของความคิดและรูปแบบขององค์กรทางการเมืองและโดยไม่ต้องอาศัยชุดของหลักการทางจริยธรรมนามธรรม

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ฟิโอนา โรบินสัน ( 1999 ) ซึ่งระบุว่าจริยธรรมไม่ควรเลย ) รู้สึกเป็น แยก จากทฤษฎีและการปฏิบัติของความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ แต่ควรเห็นที่ฝังอยู่ในพวกเขา ในข้อตกลงกับฮัทชิงส์ เธอให้เหตุผลสำหรับปรากฏการณ์ของชีวิต " จริยธรรมมากกว่า " นามธรรม จริยธรรมเกี่ยวกับการประยุกต์ใช้กฎ " ( โรบินสัน 1999:31 ) ในบัญชีของเธอของสากลจริยธรรมการดูแล อย่างไรก็ตาม มันเป็นสิ่งที่จำเป็นเพื่อส่งประวัติเบื้องต้นของที่มีอยู่และจริยธรรมทางการเมืองวาทกรรมการตรวจสอบวิพากษ์ และเห็นด้วยกับ ฮัทชิงส์ โรบินสัน ลิ้งค์เลเตอร์ว่า ทฤษฎีใด ๆระหว่างประเทศที่สำคัญต้องจ้างซึ่งอยู่ภายในโหมดของการวิจารณ์ นี่หมายความว่า ทฤษฎีต้องต่อสู้กับวิกฤตหลังคำพิพากษาบรรทัดฐาน สันนิษฐานว่า โครงสร้างทางจริยธรรมของเราในความพยายามที่จะสร้างแบบเชื่อมโยงกันมากขึ้นระหว่างโหมดของการคิด และรูปแบบขององค์กรทางการเมือง โดยไม่ต้องอาศัยชุดของหลักการทางนามธรรม