สุพรรณบุรีเป็นเมืองสมัยโบราณ พบหลัก

สุพรรณบุรีเป็นเมืองสมัยโบราณ พบหลักฐานทางโบราณคดี มีอายุไม่ต่ำกว่า ๓,๕๐๐-๓,๘๐๐ ปี โบราณวัตถุที่ขุดพบมีทั้งยุคหินใหม่ ยุคสัมฤทธิ์ ยุคเหล็ก สืบทอดวัฒนธรรมต่อเนื่องกันมาตั้งแต่สมัยสุวรรณภูมิ เดิมจังหวัดสุพรรณบุรีมีชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า “เมืองทวารวดีศรีสุพรรณภูมิ” หรือ “พันธุมบุรี” ต่อมาเมื่อพระเจ้ากาแต (เชื้อสายไทยปนพม่า) เสด็จขึ้นครองราชย์ และย้ายเมืองมาอยู่ทางฝั่งขวาของแม่น้ำท่าจีน ได้ทรงสร้างวัดสนามชัยและบูรณะวัดป่าเลไลยก์ ทรงชักชวนข้าราชการออกบวช จำนวน ๒,๐๐๐ คน จึงเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า “สองพันบุรี” ครั้นพระเจ้าอู่ทองทรงย้ายเมืองไปอยู่ทางฝั่งใต้ (ทิศตะวันตกของแม่น้ำท่าจีน) เมืองนี้จึงมีชื่อใหม่ว่า “อู่ทอง” จนกระทั่งลุเข้าสมัยขุนหลวงพะงั่ว จึงเปลี่ยนชื่อเป็นสุพรรณบุรีในที่สุด

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

สุพรรณบุรีเป็นเมืองสมัยโบราณพบหลักฐานทางโบราณคดีมีอายุไม่ต่ำกว่า 3,500-3,800 ปี ยุคสัมฤทธิ์ยุคเหล็ก "เมืองทวารวดีศรีสุพรรณภูมิ" หรือต่อมาเมื่อพระเจ้ากาแต (เชื้อสายไทยปนพม่า) เสด็จขึ้นครองราชย์ ทรงชักชวนข้าราชการออกบวชจำนวน 2,000 คนจึงเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า "สองพันบุรี" (ทิศตะวันตกของแม่น้ำท่าจีน) เมืองนี้จึงมีชื่อใหม่ว่า "อู่ทอง" จนกระทั่งลุเข้าสมัยขุนหลวงพะงั่ว

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

สุพรรณบุรีเป็นเมืองสมัยโบราณพบหลักฐานทางโบราณคดีมีอายุไม่ต่ำกว่า ๓ ๕๐๐ - ๓๘๐๐ ปีโบราณวัตถุที่ขุดพบมีทั้งยุคหินใหม่ยุคสัมฤทธิ์ยุคเหล็กสืบทอดวัฒนธรรมต่อเนื่องกันมาตั้งแต่สมัยสุวรรณภูมิเดิมจังหวัดสุพรรณบุรีมีชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า "เมืองทวารวดีศรีสุพรรณภูมิ" ต่อมาเมื่อพระเจ้ากาแต (เชื้อสายไทยปนพม่า) เสด็จขึ้นครองราชย์และย้ายเมืองมาอยู่ทางฝั่งขวาของแม่น้ำท่าจีนได้ทรงสร้างวัดสนามชัยและบูรณะวัดป่าเลไลยก์ทรงชักชวนข้าราชการออกบวชจำนวน ๒๐๐๐ คนจึงเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า "สองพันบุรี" จนกระทั่งลุเข้าสมัยขุนหลวงพะงั่วครั้นพระเจ้าอู่ทองทรงย้ายเมืองไปอยู่ทางฝั่งใต้ (ทิศตะวันตกของแม่น้ำท่าจีน) เมืองนี้จึงมีชื่อใหม่ว่า "อู่ทอง"

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

สุพรรณบุรีเป็นเมืองสมัยโบราณพบหลักฐานทางโบราณคดีมีอายุไม่ต่ำกว่า๓,๕๐๐ - ๓,๘๐๐ปีโบราณวัตถุที่ขุดพบมีทั้งยุคหินใหม่ยุคสัมฤทธิ์ยุคเหล็กสืบทอดวัฒนธรรมต่อเนื่องกันมาตั้งแต่สมัยสุวเดิมจังหวัดสุพรรณบุรีมีชื่อเรียกอีกชื่อหนึ" เมืองทวารวดีศรีสุพรรณภูมิ "หรือต่อมาเมื่อพระเจ้ากาแต(เชื้อสายไทยปนพม่า)เสด็จขึ้นครองราชย์และย้ายเมืองมาอยู่ทางฝั่งขวาของแม่น้ำท่าจีได้ทรงสร้างวัดสนามชัยและบูรณะวัดป่าเลไลยก์ทรงชักชวนข้าราชการออกบวชจำนวน๒,๐๐๐คนจึงเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า"สองพันบุรี"ครั้นพระเจ้าอู่ทองทรงย้ายเมืองไปอยู่ทางฝั่(ทิศตะวันตกของแม่น้ำท่าจีน)เมืองนี้จึงมีชื่อใหม่ว่า"อู่ทอง"จนกระทั่งลุเข้าสมัยขุนหลวงพะงั่ว