This study investigated the ability

This study investigated the ability to discriminate the middle and low tone contrasts in Thai by two groups of native English (NE) speakers and a control group of native Thai (NT) speakers. The first group was comprised of NE speakers who had no prior experience with Thai, whereas subjects in the second group were experienced learners of Thai (EE). The variables under investigation were experience with Thai, discrimination of open versus closed syllables, and the interstimulus interval (ISI) of the presentation (500 vs 1500 ms). The results obtained indicated that the NT group obtained higher discrimination scores than the NE or EE groups, the EE group obtained higher discrimination scores than the NE group, all three groups of subjects found open syllables to be more difficult to discriminate than closed syllables, and subjects in the EE group obtained higher discrimination scores for open syllables in the shorter than the longer ISI condition.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

การศึกษานี้ตรวจสอบความสามารถในการเหยียดสัมผัสเสียงกลาง และต่ำในภาษาอังกฤษ (NE) กลุ่ม 2 และกลุ่มควบคุมภาษาไทย (NT) กลุ่มแรกประกอบด้วยของลำโพง NE ที่มีประสบการณ์ไม่ทราบไทย ในขณะที่ในกลุ่มที่สองได้มีประสบการณ์เรียนของไทย (EE) ตัวแปรภายใต้การตรวจสอบมีประสบการณ์กับไทย แบ่งแยกเปิดและพยางค์ปิด และช่วง interstimulus (ISI) ของงานนำเสนอ (500 กับ 1500 ms) ผลได้รับระบุว่า กลุ่ม NT ได้รับคะแนนเลือกปฏิบัติสูงกว่าใน NE หรือแบบกลุ่ม แบบการจัดกลุ่มอย่างสูงได้รับคะแนนมากกว่ากลุ่ม NE กลุ่มที่สามทั้งหมดของเรื่องพบพยางค์เปิดจะยากต่อการเหยียดกว่าพยางค์ปิด และเรื่องในแบบกลุ่มได้รับคะแนนเลือกปฏิบัติสูงในพยางค์เปิดในที่สั้นกว่าเงื่อนไข ISI ยาว

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การศึกษาครั้งนี้การตรวจสอบความสามารถในการแยกแยะเสียงกลางและต่ำแตกต่างในไทยโดยทั้งสองกลุ่มของอังกฤษ (NE) เจ้าของภาษาและกลุ่มควบคุมของไทย (NT) เจ้าของภาษา กลุ่มแรกประกอบด้วยลำโพง NE ที่ไม่เคยมีประสบการณ์มาก่อนไทยในขณะที่อาสาสมัครในกลุ่มที่สองมีประสบการณ์การเรียนรู้ของไทย (EE) ตัวแปรที่อยู่ภายใต้การตรวจสอบมีประสบการณ์กับไทย, การเลือกปฏิบัติของพยางค์เปิดเมื่อเทียบกับปิดและช่วงเวลาที่ interstimulus (ISI) ของงานนำเสนอ (500 เทียบกับ 1,500 มิลลิวินาที) ผลที่ได้ชี้ให้เห็นว่ากลุ่มที่ได้รับคะแนน NT การเลือกปฏิบัติที่สูงกว่า NE หรือ EE กลุ่มกลุ่ม EE ที่ได้รับคะแนนการเลือกปฏิบัติที่สูงกว่ากลุ่ม NE ทั้งสามกลุ่มของอาสาสมัครพบพยางค์เปิดให้เป็นเรื่องยากมากที่จะเห็นความแตกต่างกว่าพยางค์ปิดและ วิชาในกลุ่ม EE ที่ได้รับคะแนนที่สูงขึ้นสำหรับการเลือกปฏิบัติพยางค์เปิดสั้นกว่าสภาพที่เอสอีกต่อไป

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การศึกษานี้เป็นการศึกษาความสามารถในการแยกแยะเสียงกลางและต่ำแตกต่างในไทย โดยสองกลุ่มภาษาอังกฤษ ( NE ) ลำโพงและกลุ่มควบคุมพื้นเมือง ( NT ) ลำโพง กลุ่มแรกประกอบด้วย NE ลำโพงที่ไม่มีประสบการณ์มาก่อน กับไทย ส่วนกลุ่มที่สอง เป็นผู้มีประสบการณ์ นักศึกษาไทย ( เอ )ตัวแปรภายใต้การสอบสวน ประสบการณ์ กับไทย การเปิดและปิดพยางค์และช่วง interstimulus ( ISI ) ของการนำเสนอ ( 500 - 1 , 500 มิลลิวินาที ) ผลการศึกษาพบว่า กลุ่มที่ได้คะแนนสูงกว่าค่า NT มากกว่ากลุ่มภาคตะวันออกเฉียงเหนือ หรือ อี กลุ่ม อี ที่ได้คะแนนสูงกว่าการเลือกปฏิบัติมากกว่ากลุ่มนี่ทั้งสามกลุ่มที่พบเปิดพยางค์เพื่อจะยากมากที่จะแยกแยะกว่าปิดพยางค์ และ กลุ่ม อี ที่ได้คะแนนสูงในการเปิดพยางค์สั้นกว่าอีกต่อไป
ISI เงื่อนไข