It is sometimes suggested that when

It is sometimes suggested that when a practitioner writes up their research in third person style (the teacher-researcher interviewed the student', rather than 'I interviewed the student), this is dishonest as it attempts to present to present an objective account that underplays the researcher's intimate involvement in the research context, and so give the impression that the (teacher-)research was able to stand back and observe as an outsider.
Some new teacher-researchers do adopt this third-person style, and usually there is no intended dishonesty, but rather an attempt to emulate what they believe research writing is meant to be like.
The author once read an assignment from a trainee teacher offering an account of both an observation of a teacher's lesson and of how-at the end of the lesson-the observer approached the teacher and offered a rather critical evaluation of the teaching observed.
I was concerned about this assignment at two different levels. For one thing, the trainee was meant to have critiqued his own teaching and not that of one of the teachers working in his placement school.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

บางครั้งแนะนำที่เมื่อผู้ประกอบการเขียนขึ้นการวิจัยในลักษณะของบุคคลที่สาม (อาจารย์นักวิจัยสัมภาษณ์นักเรียน ', rather กว่า ' ฉันสัมภาษณ์นักเรียน), นี้จะไม่เป็นก็พยายามนำเสนอนำเสนอบัญชีประสงค์ที่ underplays มีส่วนร่วมอย่างใกล้ชิดของนักวิจัยในงานวิจัย และให้ความประทับใจที่ (ครู-) วิจัยการยืนกลับ และสังเกตเป็นบุคคลภายนอกที่ บางอาจารย์นักวิจัยใหม่นำลักษณะนี้บุคคลที่สาม และมักมีไม่ซื่อสัตย์ตั้งใจ แต่เป็น ความพยายามในการจำลองสิ่งที่พวกเขาเชื่อเขียนวิจัยขึ้นได้เช่น ผู้เขียนเคยอ่านการกำหนดจากครูฝึกอบรมบัญชีของทั้งการสังเกตการสอนของครู และวิธีการนำเสนอ-ท้ายของนักการสอนที่ทาบทามครู และนำเสนอประเมินค่อนข้างสำคัญของการเรียนการสอนที่สังเกต ผมกังวลนี้กำหนดที่แตกต่างกันสองระดับ สำหรับสิ่งหนึ่ง การฝึกอบรมถูกหมายถึงมี critiqued สอนของเขาเองและที่หนึ่งของอาจารย์ในโรงเรียนของเขาวาง

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

จะชี้ให้เห็นว่าบางครั้งเมื่อผู้ประกอบการเขียนการวิจัยของพวกเขาในรูปแบบบุคคลที่สาม (ครูนักวิจัยสัมภาษณ์นักเรียน 'มากกว่า' ผมสัมภาษณ์นักเรียน), นี้เป็นที่ไม่สุจริตในขณะที่มันพยายามที่จะนำเสนอที่จะนำเสนอบัญชีวัตถุประสงค์ที่ underplays การมีส่วนร่วมอย่างใกล้ชิดของนักวิจัยในบริบทของการวิจัยและเพื่อให้การแสดงผลที่ (teacher-) วิจัยก็สามารถที่จะยืนกลับและสังเกตเป็นคนนอก.
บางใหม่ครูนักวิจัยจะนำมาใช้ในรูปแบบสามคนนี้และมักจะไม่มี ตั้งใจทุจริต แต่ความพยายามที่จะเลียนแบบสิ่งที่พวกเขาเชื่อว่าการเขียนงานวิจัยที่มีความหมายที่จะเป็นเหมือน.
ผู้เขียนเคยอ่านได้รับมอบหมายจากครูฝึกงานเสนอบัญชีอยู่แล้วทั้งการสังเกตของบทเรียนของครูและวิธีการในตอนท้ายของ บทเรียนสังเกตการณ์เข้าหาครูและเสนอการประเมินผลที่สำคัญค่อนข้างการเรียนการสอนที่สังเกต.
ผมเป็นกังวลเกี่ยวกับงานนี้ในสองระดับที่แตกต่างกัน สำหรับสิ่งหนึ่งที่ฝึกงานก็หมายความว่าจะมีการวิเคราะห์การเรียนการสอนของตัวเองและไม่ได้เป็นที่หนึ่งในครูที่ทำงานในตำแหน่งของเขาที่โรงเรียน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

บางครั้งจะพบว่าเมื่อฝึกเขียนขึ้น การวิจัยในลักษณะบุคคลที่สาม ( ครูผู้วิจัยสัมภาษณ์นักเรียน ' มากกว่า ' ผมได้สัมภาษณ์นักศึกษา ) นี่เป็นทุจริต ขณะพยายามที่จะเสนอให้ปัจจุบันมีบัญชีที่ underplays ผู้วิจัยการมีส่วนร่วมใกล้ชิดในบริบทการวิจัยและให้ความประทับใจที่ ( อาจารย์ ) วิจัยก็สามารถที่จะยืนกลับและสังเกตเป็นคนนอก
มีครูนักวิจัยใหม่ทำอุปการะบุคคลนี้ 3 สไตล์ และมักจะไม่มีเจตนาทุจริต แต่ความพยายามที่จะเลียนแบบสิ่งที่พวกเขาเชื่อว่า การเขียนงานวิจัย หมายถึง การเป็น
ผู้เขียนเคยอ่านงานจากการฝึกหัดครูเสนอบัญชีทั้งการสังเกตของบทเรียนของครูและวิธีที่ส่วนท้ายของบทเรียนผู้สังเกตการณ์เข้าหาครู และได้รับการประเมินค่อนข้างวิกฤติของการสอน )
ผม ห่วงงานนี้อยู่สองระดับที่แตกต่างกัน สำหรับสิ่งหนึ่ง ,ฝึกงานก็ต้องได้ของการสอนของเขาเองและไม่หนึ่งของครูในโรงเรียนวัดเขา