3. ResultsThe sample was composed o

3. Results

The sample was composed of 756 professionals (92.48% of the total). The response rate was similar in all nursing homes. Table 1 shows the sociodemographic and related training, job, and scientific reading habits. The nurses who participated in the study were mostly women, middle-aged, and worked on rotation in the facility. Most nurses received less than 30 hours of informal training in research, and they reported having read their last scientific article from 1 month to more than 1 year prior to the study.
3.1. Barriers to the use of research results

Factors with higher scores were organizational characteristics (mean = 24.89, SD = 4.37), followed by professional characteristics (mean = 21.87, SD = 4.85). Mean scores on the other factors were characteristics/quality of the results of research (mean = 11, SD = 5.78) and characteristics related to the accessibility of the results (mean = 14, SD = 4.21).

Analysis of each item revealed that the three barriers with the highest scores were “Not enough time on the job to implement new ideas” (mean = 3.89, SD = 0.98), followed by “Nursing known research” (mean = 2.75, SD = 1.22) and “Doctors do not cooperate in the implementation” (mean = 3.01, SD = 1.85). The first and the third barriers are organizational characteristics, and the second barrier is a professional characteristic. The highest response frequencies to the category “I do not know/no answer” was reported for the items “Articles/research reports are published with much delay” (31%) and “The investigation has not been confirmed” (24.3%), both of which relate to the factor characteristics/quality of the results of research. This factor has the greatest percentage of responses in this category (“I do not know/no answer”), with 4 of the 6 items having a frequency higher/equal to 20%. The percentages of respondents who had no opinion on an item were between 1.9 and 30.1%, and 13 of the 29 items received a response in this category (“I do not know/no answer”).

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

3. ผลลัพธ์ตัวอย่างประกอบด้วยผู้เชี่ยวชาญ 756 (92.48% ของยอดรวม) อัตราการตอบสนองคล้ายบ้านพยาบาลทั้งหมด ตารางที่ 1 แสดงการ sociodemographic และการฝึกอบรมที่เกี่ยวข้อง การงาน และนิสัยอ่านหนังสือวิทยาศาสตร์ พยาบาลที่เข้าร่วมในการศึกษาส่วนใหญ่ผู้หญิง วัยกลางคน และการทำงานบนหมุนในให้ได้ พยาบาลส่วนใหญ่ได้รับการฝึกอบรมไม่น้อยกว่า 30 ชั่วโมงในวิจัย และพวกเขารายงานมีอ่านบทความทางวิทยาศาสตร์ของพวกเขาล่าสุดจาก 1 เดือนไปกว่า 1 ปีการศึกษา3.1. อุปสรรคการใช้ผลงานวิจัยปัจจัยที่ มีผลคะแนนสูงมีลักษณะองค์กร (หมายถึง 24.89, SD = = 4.37), ไปมาแล้ว โดยลักษณะมืออาชีพ (หมายถึง 21.87, SD = = 4.85) หมายถึง คะแนนในปัจจัยอื่น ๆ มีลักษณะ/คุณภาพของผลลัพธ์ของงานวิจัย (หมายถึง = 11, SD = 5.78) และลักษณะที่เกี่ยวข้องกับการเข้าถึงผล (หมายถึง = 14, SD = 4.21)วิเคราะห์แต่ละรายการเปิดเผยว่า อุปสรรคที่สาม ด้วยคะแนนสูงสุดได้ "ไม่เพียงพอเวลางานเพื่อนำความคิดใหม่" (หมายถึง = 3.89, SD = 0.98), ไปมาแล้ว โดย "รู้จักวิจัยพยาบาล" (หมายถึง = 2.75, SD = 1.22) และ "แพทย์ไม่ร่วมมือในการดำเนินการ" (หมายถึง = 3.01, SD = 1.85) แรกและอุปสรรคที่สามคือ ลักษณะองค์กร และอุปสรรคที่สองมีลักษณะมืออาชีพ ความถี่ตอบสนองสูงสุดในประเภท "ผมไม่ทราบ/ไม่ตอบ" รายงานสำหรับรายการ "รายงานบทความ/งานวิจัยเผยแพร่กับความล่าช้ามาก" (31%) และ "การสอบสวนได้ไม่รับการยืนยัน" (24.3 รัฐ%), ซึ่งทั้งสองเกี่ยวข้องกับลักษณะ/คุณภาพสัดส่วนของผลการวิจัย ปัจจัยนี้มีเปอร์เซ็นต์มากที่สุดของการตอบสนองในหมวดนี้ ("ฉันไม่ทราบ/ไม่ตอบ"), มี 4 รายการ 6 ที่มีความถี่สูง/มีค่าเท่ากับ 20% เปอร์เซ็นต์ของผู้ตอบที่มีความเห็นไม่มีสินค้าอยู่ระหว่าง 1.9 และ 30.1% และ 13 รายการ 29 ได้รับการตอบรับในหมวดหมู่นี้ ("ฉันไม่ทราบ/ไม่ตอบ")

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

3. ผลกลุ่มตัวอย่างประกอบด้วยผู้เชี่ยวชาญด้าน756 (92.48% ของทั้งหมด) อัตราการตอบสนองเป็นที่คล้ายกันในบ้านพยาบาลทั้งหมด ตารางที่ 1 แสดงให้เห็นว่าการฝึกอบรมที่ยาวนานและที่เกี่ยวข้องกับงานและนิสัยรักการอ่านทางวิทยาศาสตร์ พยาบาลที่เข้าร่วมในการศึกษาส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงวัยกลางคนและทำงานในการหมุนในสถานที่ พยาบาลส่วนใหญ่ที่ได้รับน้อยกว่า 30 ชั่วโมงการฝึกอบรมทางการในการวิจัยและพวกเขารายงานว่าอ่านบทความวิทยาศาสตร์ของพวกเขาที่ผ่านมา 1 เดือนถึง 1 ปีขึ้นไปก่อนที่จะมีการศึกษา. 3.1 อุปสรรคในการใช้ผลการวิจัยปัจจัยที่มีคะแนนสูงเป็นลักษณะองค์กร (เฉลี่ย = 24.89, SD = 4.37) ตามด้วยลักษณะมืออาชีพ (ค่าเฉลี่ย = 21.87, SD = 4.85) ค่าเฉลี่ยอยู่กับปัจจัยอื่น ๆ ที่มีลักษณะ / คุณภาพของผลการวิจัย (ค่าเฉลี่ย = 11, SD = 5.78) และลักษณะที่เกี่ยวข้องกับการเข้าถึงของผล (ค่าเฉลี่ย = 14, SD = 4.21). การวิเคราะห์ของแต่ละรายการเปิดเผยว่า สามอุปสรรคที่มีคะแนนสูงสุดคือ "ไม่ได้มีเวลามากพอในงานที่จะใช้ความคิดใหม่" (เฉลี่ย = 3.89, SD = 0.98) ตามด้วย "พยาบาลที่รู้จักกันในการวิจัย" (เฉลี่ย = 2.75, SD = 1.22) และ "แพทย์ไม่ ให้ความร่วมมือในการดำเนินการ "(เฉลี่ย = 3.01, SD = 1.85) ปัญหาและอุปสรรคที่แรกและที่สามที่มีลักษณะองค์กรและอุปสรรคที่สองเป็นลักษณะมืออาชีพ ความถี่ตอบสนองสูงสุดประเภท "ผมไม่ทราบ / ไม่มีคำตอบ" มีรายงานว่าสำหรับรายการ "บทความ / รายงานการวิจัยที่ตีพิมพ์ที่มีความล่าช้ามาก" (31%) และ "การสืบสวนยังไม่ได้รับการยืนยัน" (24.3%) ทั้งที่เกี่ยวข้องกับลักษณะปัจจัย / คุณภาพของผลการวิจัย ปัจจัยนี้มีร้อยละของการตอบสนองที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในหมวดหมู่นี้ ("ผมไม่ทราบ / ไม่มีคำตอบ") กับ 4 จาก 6 รายการที่มีความถี่สูง / เท่ากับ 20% เปอร์เซ็นต์ของผู้ตอบแบบสอบถามที่มีความเห็นไม่เกี่ยวกับรายการที่อยู่ระหว่าง 1.9 และ 30.1% และ 13 จาก 29 รายการที่ได้รับการตอบสนองในหมวดหมู่นี้ ("ผมไม่ทราบ / ไม่มีคำตอบ")

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

3 ผล

และกลุ่มตัวอย่างที่เป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่อง ( 92.48 % จากทั้งหมด ) อัตราการตอบสนองที่คล้ายคลึงกันในบ้านพยาบาลทั้งหมด ตารางที่ 1 แสดงอุตสาหกรรมและที่เกี่ยวข้องกับการฝึกงาน และนิสัยรักการอ่านหนังสือวิทยาศาสตร์ พยาบาลที่เข้าร่วมในการศึกษาส่วนใหญ่เป็นผู้หญิง วัยกลางคน และทำงานบนหมุนในโรงงานพยาบาลส่วนใหญ่ได้รับน้อยกว่า 30 ชั่วโมงของการฝึกอบรมอย่างไม่เป็นทางการในการวิจัย และรายงานล่าสุดของพวกเขาพวกเขามีอ่านบทความทางวิทยาศาสตร์จาก 1 เดือนถึงกว่า 1 ปี ก่อนการศึกษา .
1 . อุปสรรคในการใช้ผลการวิจัย

ด้วยปัจจัย สูงกว่าคะแนนลักษณะองค์การ ( ค่าเฉลี่ย = 24.89 , SD = 4.37 ) รองลงมา คือ คุณลักษณะ ( ค่าเฉลี่ย = 21.87 , SD = 4.85 )หมายถึง คะแนนจากปัจจัยอื่น ๆ เป็นลักษณะคุณภาพของการวิจัย ( ค่าเฉลี่ย = 11 , SD = 5.78 ) และลักษณะที่เกี่ยวข้องกับการเข้าถึงของผล ( ค่าเฉลี่ย = 14 , SD = 4.21 ) .

การวิเคราะห์ของแต่ละรายการ พบว่า สามด่านด้วยคะแนนสูงสุด คือ " ไม่มีเวลาเพียงพอใน งานใช้ความคิดใหม่ " ( ค่าเฉลี่ย = 3.89 , SD = 0.98 )ตามด้วย " พยาบาลรู้จักงานวิจัย " ( ค่าเฉลี่ย = 2.75 , SD = 1.22 ) และ " แพทย์ไม่ร่วมมือในการใช้ " ( ค่าเฉลี่ย = 3.01 , SD = 1.85 ) แรกและอุปสรรคที่สามเป็นลักษณะขององค์การ และด่านที่สองเป็นลักษณะมืออาชีพการตอบสนองความถี่สูงสุดในหมวดหมู่ " ไม่รู้ / ไม่ตอบ " มีรายงานว่า สำหรับรายการ " บทความ / รายงานวิจัยตีพิมพ์ล่าช้ามาก " ( 31% ) และ " การสอบสวนยังไม่ได้รับการยืนยัน " ( 24.3 % ) ซึ่งเกี่ยวข้องกับคุณภาพลักษณะ / องค์ประกอบของผลลัพธ์ของ วิจัยปัจจัยนี้มีมากที่สุด ร้อยละของการตอบสนองในประเภทนี้ ( " ผมไม่รู้ / ไม่ตอบ " ) กับ 4 6 รายการที่มีความถี่สูง / เท่ากับ 20% เปอร์เซ็นต์ของผู้ตอบแบบสอบถามที่ไม่มีความคิดเห็นในรายการอยู่ระหว่าง 1.9 และ 30.1 % และ 13 จาก 29 รายการได้รับการตอบสนองในประเภทนี้ ( " ผมไม่ทราบ / ไม่ตอบ



" )