“A clause is a group of related wor

“A clause is a group of related words containing a subject and a predicate”
For example, he laughed.
A clause refers to a group of related words (within a sentence or itself as an independent sentence) which has both subject and predicate.

Example
I will meet him in office.

The part of above sentence “I will meet him” is a clause because it has a subject(I) and a predicate(will meet him). On the other hand, the rest part of above sentence “in office” lacks both subject and predicate(verb) such group of word is called phrase.
A clause may stand as a simple sentence or may join another clause to make a sentence. Therefore, a sentence consists of one, two or more clauses.

Examples.
• He is sleeping. (one clause)
• The kids were laughing at the joker. (one clause)
• The teacher asked a question, but no one answered. (two clauses)
• I am happy, because I won a prize. (two clauses)
• I like Mathematics, but my brother likes Biology,
because he wants to become a doctor. (three clauses)
Clauses are divided into main clause (also called independent clause) andsubordinate clause (also called dependent clauses).

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

"อนุประโยคเป็นกลุ่มคำที่เกี่ยวข้องประกอบด้วยหัวเรื่องและเพรดิเคตการ"ตัวอย่าง เขาหัวเราะอนุประโยคหมายถึงกลุ่มของคำที่เกี่ยวข้อง (ภายในประโยคหรือตนเองเป็นประโยคเป็นอิสระ) ซึ่งมีทั้งเรื่องและเพรดิเคต ตัวอย่าง ฉันจะพบเขาในสำนักงานส่วนของเหนือประโยค "จะพบพระองค์" มีส่วนคำสั่งเนื่องจากมีการ subject(I) และเพรดิเคตการจะพบเขา) ในทางกลับกัน ส่วนเหลือของเหนือประโยค "ใน office" ขาดทั้งเรื่อง และ predicate(verb) เช่นกลุ่มของคำเรียกว่าวลีส่วนคำสั่งอาจยืนเป็นประโยคแบบง่าย ๆ หรืออาจรวมส่วนคำสั่งอื่นเพื่อให้ประโยค ดังนั้น ประโยคประกอบด้วยประโยคที่หนึ่ง สอง หรือมากกว่านั้น ตัวอย่างการ •เขานอน (ส่วนหนึ่ง) •เด็ก ๆ ถูกหัวเราะที่โจ๊ก (ส่วนหนึ่ง) •ครูถามคำถาม แต่ไม่มีใครตอบ (2 ส่วน) •ดีใจ เพราะผมชนะรางวัล (2 ส่วน) •ชอบคณิตศาสตร์ แต่พี่ชอบวิชาชีววิทยา เพราะเขาต้องการเป็น แพทย์ (สามส่วน)ประโยคจะแบ่งออกเป็นประโยค andsubordinate อนุประโยคหลัก (หรือที่เรียกว่าอนุประโยคอิสระ) (ยังเรียกว่าขึ้นอยู่กับประโยค)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

"ข้อคือกลุ่มของคำที่เกี่ยวข้องที่มีชื่อเรื่องและคำกริยา"
ยกตัวอย่างเช่นเขาหัวเราะ.
ประโยคหมายถึงกลุ่มของคำที่เกี่ยวข้อง (ภายในประโยคหรือตัวเองเป็นประโยคอิสระ) ซึ่งมีทั้งเรื่องและคำกริยา. ตัวอย่างฉันจะได้พบกับเขาในสำนักงาน. ส่วนหนึ่งของประโยคข้างต้น "ฉันจะได้พบเขา" เป็นประโยคเพราะมันมีเรื่อง (I) และกริยา (จะได้พบกับเขา) ในทางตรงกันข้ามส่วนที่เหลือของประโยคข้างต้น "ในสำนักงาน" ขาดทั้งสองเรื่องและคำกริยา (verb) เช่นกลุ่มของคำที่เรียกว่าวลี. ข้ออาจยืนเป็นประโยคง่ายหรืออาจจะเข้าร่วมข้อที่จะทำให้ประโยค ดังนั้นประโยคประกอบด้วยหนึ่งสองหรือมากกว่าข้อ. ตัวอย่าง. •เขากำลังนอนหลับ (หนึ่งข้อ) •เด็กถูกหัวเราะที่โจ๊ก (หนึ่งข้อ) •ครูถาม แต่ไม่มีใครตอบ (สองข้อ) •ผมมีความสุขเพราะผมได้รับรางวัล (สองข้อ) •ผมชอบคณิตศาสตร์ แต่พี่ชายของฉันชอบชีววิทยาเพราะเขาอยากจะเป็นหมอ (สามข้อ) ข้อแบ่งออกเป็นข้อหลัก (ที่เรียกว่าข้อที่เป็นอิสระ) ข้อ andsubordinate (เรียกว่าขึ้นอยู่กับข้อ)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

" ประโยคคือกลุ่มของคำที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย ประธานและภาคแสดง "
ตัวอย่างเช่น เขาหัวเราะ
ประโยคหมายถึงกลุ่มของคำที่เกี่ยวข้อง ( ในประโยค หรือตัวเองเป็นประโยคอิสระ ) ซึ่งมีทั้งประธานและภาคแสดง ตัวอย่าง

ฉันจะเจอเขาในสำนักงาน .

ส่วนของข้างบนประโยค " ผมจะพบเขา " เป็นข้อ เพราะมันเป็นวิชา ( ผม ) และประโยค ( จะเจอเขา )บนมืออื่น ๆ , ส่วนที่เหลือของประโยคข้างต้น " สำนักงาน " ขาดทั้ง ประธาน และ กริยา ( คำกริยา ) กลุ่มดังกล่าวของคำเรียกว่าวลี
ข้ออาจยืนเป็นประโยคง่าย ๆหรืออาจจะเข้าร่วมอีกข้อเพื่อให้ประโยค ดังนั้น ประโยคประกอบด้วย หนึ่ง สอง หรือมากกว่าสองประโยค

ตัวอย่าง
- เขากำลังหลับอยู่ ( อนุประโยค )
- เด็กหัวเราะที่ตลก ( อนุประโยค )
- ครูถาม แต่ไม่มีใครตอบ ( สองส่วน )
- ฉันมีความสุข เพราะฉันได้รางวัล ( สองส่วน )
- ผมชอบคณิตศาสตร์ แต่พี่ชายผมชอบชีววิทยา
เพราะเขาต้องการที่จะเป็นหมอ ( สามส่วน )
ส่วนแบ่งเป็นประโยคหลัก ( เรียกว่าอนุประโยคอิสระ ) andsubordinate อนุประโยค ( เรียกว่าอนุประโยค )