Hacking isn’t just for computers an

Hacking isn’t just for computers and smartphones. According to a study published last week in the journal Science, scientists have found a way to hack a plant’s genes in order to make it use sunlight more quickly. Someday, the results could increase the amount of food produced around the world.

Scientists used tobacco plants in the study because it is easy to change the plant’s genetics. Hacked plants are visibly larger than normal plants.
HALEY AHLERS—UNIVERSITY OF ILLINOIS/AP
Scientists used tobacco plants in the study because it is easy to change the plant’s genetics. Hacked plants are visibly larger than normal plants.
Photosynthesis is the word used to describe how plants use sunlight, water, and carbon dioxide to make their own food. Scientists who conducted the new study say this is a very slow process. Plants use less than 1 percent of the energy available to them. But by hacking a plant’s genes, the scientists were able to increase the amount of leaf growth on plants between 14 and 20 percent.

Grow, Grow, Grow!

Specifically, scientists hacked the plant’s protective system. Normally, this system is activated when a plant gets too much sunlight, said scientist Krishna Niyogi, co-author of the study. When the plant senses the light, it gets rid of extra energy and creates more leaves. When the plant is in shade, the protective system is turned off. But the process is slow.

This fluorescence imager analyzes how well this plant uses light.
KATARZYNA GLOWACKA—UNIVERSITY OF ILLINOIS/AP
This fluorescence imager analyzes how well this plant uses light.
Stephen Long is the lead author of the study. He compared a plant’s protective system to light-adjusting glasses. When a person wears the glasses outside during the day, the lenses darken and lighten depending on how sunny it is. Plants do the same thing, he said. But in plants the adjustment can take anywhere from 10 minutes to an hour. This makes it hard for plants to get the right amount of sunlight needed to create food.

The new study sped up the process. By changing the plant’s genes, the protective system turned on and off more quickly than normal. As a result, leaf growth on the plants scientists used in the study increased. Leaf growth in two plants increased by 20 percent, while leaf growth on a third plant increased by 14 percent. Scientists conducted the study on tobacco plants. But they think the genetic modifications would produce the same results in staples such as corn and rice.

“Now that we know it works, it won’t be too difficult to do it with other crops,” said Long. “If you look at crops around the world,” he said, “it would [increase yield] many million tons of food.” It will be at least 15 years before scientists can adjust crops on a large scale, Long says. But he believes the study is the first step in that direction.

Agriculture professor Tala Awanda, of the University of Nebraska-Lincoln, said he wasn't sure the yield would be quite as high, but he said, “this study remains a breakthrough.”

Currently, the world’s population is about 7.3 billion. According to the United Nations, that number is expected to reach 8.5 billion by 2030, increasing the demand for food around the world.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

แฮ็คไม่เพียงสำหรับคอมพิวเตอร์และสมาร์ทโฟน ศึกษาเผยแพร่สัปดาห์สุดท้ายในสมุดรายวันวิทยาศาสตร์ นักวิทยาศาสตร์ได้พบวิธีที่จะตัดยีนของพืชเพื่อทำให้แสงแดดใช้ได้รวดเร็วขึ้น สักวันหนึ่ง ผลลัพธ์อาจเพิ่มปริมาณของอาหารที่ผลิตทั่วโลกนักวิทยาศาสตร์ใช้พืชยาสูบในการศึกษาเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของพืชพันธุศาสตร์ พืชที่ถูกแฮ็กมีมากกว่าพืชปกติอย่างเห็นได้ชัดรถ AHLERS — มหาวิทยาลัยของ รัฐ/APนักวิทยาศาสตร์ใช้พืชยาสูบในการศึกษาเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของพืชพันธุศาสตร์ พืชที่ถูกแฮ็กมีมากกว่าพืชปกติอย่างเห็นได้ชัดสังเคราะห์แสงเป็นคำที่ใช้อธิบายวิธีพืชใช้แสงแดด น้ำ และก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จะทำให้อาหารของตนเอง นักวิทยาศาสตร์ที่ดำเนินการศึกษาใหม่บอกว่า นี่คือกระบวนการช้ามาก พืชใช้น้อยกว่า 1 เปอร์เซ็นต์ของพลังงานที่มีให้พวกเขา แต่ โดยแฮ็คยีนของพืช นักวิทยาศาสตร์สามารถเพิ่มจำนวนเจริญเติบโตใบพืชระหว่าง 14 และ 20 เปอร์เซ็นต์เติบโต เติบโต เติบโตเฉพาะ นักวิทยาศาสตร์แฮ็กระบบป้องกันของพืช ปกติ ระบบนี้จะเรียกใช้เมื่อพืชได้รับแสงแดดมากเกินไป กล่าวว่า นักวิทยาศาสตร์กฤษณะ Niyogi ผู้เขียนร่วมของการศึกษา เมื่อพืชรู้สึกแสง กำจัดพลังงานพิเศษ และสร้างใบเพิ่มเติม เมื่อพืชอยู่ในที่ร่ม ระบบป้องกันถูกปิดใช้งาน แต่กระบวนการจะช้าเรืองแสง imager นี้วิเคราะห์ว่าพืชนี้ใช้แสง GLOWACKA ชั่น — มหาวิทยาลัยของ รัฐ/APเรืองแสง imager นี้วิเคราะห์ว่าพืชนี้ใช้แสงสตีเฟนยาวเป็นผู้เขียนเป้าหมายของการศึกษา เขาเปรียบเทียบระบบป้องกันของพืชเพื่อการปรับแสงแก้ว เมื่อคนสวมแว่นตาอยู่ในระหว่างวัน เลนส์ และนุ่มสลวยขึ้นอยู่กับว่าแดดมันเป็น พืชทำสิ่งเดียว เขากล่าวว่า แต่ในพืช การปรับปรุงสามารถใช้เวลาจาก 10 นาทีถึงชั่วโมง ซึ่งทำให้ยากสำหรับพืชจะได้รับปริมาณแสงแดดที่จำเป็นในการสร้างอาหารการศึกษาใหม่เร่งการ โดยการเปลี่ยนแปลงยีนของพืช ระบบป้องกันการเปิด หรือ ปิดเพิ่มเติมอย่างรวดเร็วกว่าปกติ เป็นผล ใบเจริญเติบโตของพืชนักวิทยาศาสตร์ใช้ในการศึกษาเพิ่มขึ้น เจริญเติบโตของใบในพืชสองเพิ่มขึ้น 20 เปอร์เซ็นต์ ในขณะที่สามใบเจริญเติบโตของพืชเพิ่มขึ้นร้อยละ 14 นักวิทยาศาสตร์ทำการศึกษาพืชยาสูบ แต่พวกเขาคิดว่า การปรับเปลี่ยนทางพันธุกรรมจะให้ผลลัพธ์เดียวกันในลวดเย็บกระดาษเช่นข้าวโพดและข้าว"ที่เราทราบการทำงาน มันจะไม่ยากเกินไปที่จะทำกับพืชอื่น ๆ กล่าวว่า ยาว "ถ้า คุณดูที่พืชทั่วโลก เขากล่าวว่า, " มันจะ [เพิ่มผลผลิต] หลายล้านตันของอาหาร " มันจะมีอย่างน้อย 15 ปีก่อนนักวิทยาศาสตร์สามารถปรับพืชในขนาดใหญ่ ยาวกล่าวว่า แต่เขาเชื่อว่า การศึกษาเป็นขั้นตอนแรกในทิศทางนั้นอาจารย์เกษตร Tala Awanda ของมหาวิทยาลัยของรัฐเนแบรสกาลินคอล์น กล่าวว่า เขาไม่แน่ใจว่า ผลตอบแทนจะค่อนข้างสูง แต่เขากล่าว ว่า "การศึกษานี้ยังคง ความก้าวหน้า"ในปัจจุบัน ประชากรโลกมีประมาณ 7.3 พันล้าน ตามประเทศ หมายเลขคาดว่าจะถึง 8.5 พันล้าน 2030 เพิ่มความต้องการอาหารทั่วโลก

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

แฮ็คไม่เพียงเครื่องคอมพิวเตอร์และมาร์ทโฟน ตามการศึกษาที่เผยแพร่เมื่อสัปดาห์ที่แล้วในวารสารวิทยาศาสตร์ นักวิทยาศาสตร์ได้พบวิธีที่จะตัดยีนของพืชเพื่อให้มันใช้แสงแดดอย่างรวดเร็ว สักวันหนึ่ง ผลอาจเพิ่มปริมาณของอาหารที่ผลิตทั่วโลกนักวิทยาศาสตร์ใช้ต้นยาสูบในการศึกษาเพราะมันเป็นเรื่องง่ายที่จะเปลี่ยนแปลงพันธุกรรมของพืช เจาะพืชจะเห็นได้ชัดขนาดใหญ่กว่าพืชปกติเฮลีย์ ahlers-university อิลลินอยส์ / เอพีนักวิทยาศาสตร์ใช้ต้นยาสูบในการศึกษาเพราะมันเป็นเรื่องง่ายที่จะเปลี่ยนแปลงพันธุกรรมของพืช เจาะพืชจะเห็นได้ชัดขนาดใหญ่กว่าพืชปกติการสังเคราะห์แสงคือ คำที่ใช้เพื่ออธิบายว่าพืชใช้แสงแดด น้ำ และคาร์บอนไดออกไซด์เพื่อสร้างอาหารได้เอง นักวิทยาศาสตร์ผู้ทำการศึกษาใหม่ว่า นี่คือกระบวนการที่ช้ามาก พืชใช้น้อยกว่าร้อยละ 1 ของพลังงานที่สามารถใช้ได้กับพวกเขา แต่แฮ็คยีนของพืช นักวิทยาศาสตร์ก็สามารถที่จะเพิ่มปริมาณของใบพืชระหว่าง 14 และ 20 เปอร์เซ็นต์เติบโต , เติบโต , เติบโตโดยเฉพาะ นักเจาะระบบป้องกันของพืช ปกติแล้ว ระบบนี้จะทำงานเมื่อพืชได้รับแสงแดดมากเกินไป กล่าวว่านักวิทยาศาสตร์กฤษณะ niyogi , ผู้เขียนร่วมของการศึกษา เมื่อพืชสัมผัสแสง มันกำจัดพลังงานเสริมและสร้างใบมากขึ้น เมื่อปลูกในที่ร่ม ระบบป้องกัน คือ ปิด แต่พัฒนาการช้าภาพนี้โดยวิเคราะห์ว่าพืชที่ใช้แสงkatarzyna glowacka-university อิลลินอยส์ / เอพีภาพนี้โดยวิเคราะห์ว่าพืชที่ใช้แสงสตีเฟน ยาวเป็นผู้เขียนหลักของการศึกษา เขาเปรียบเทียบระบบป้องกันของพืชแสงปรับแว่นตา เมื่อคนใส่แว่นอยู่ในระหว่างวัน เลนส์มืด และ เบา ขึ้นอยู่กับว่าแดดมันคืออะไร พืชที่ทำแบบเดียวกัน เขากล่าวว่า แต่ในพืชการปรับสามารถใช้ที่ใดก็ได้จาก 10 นาทีถึงหนึ่งชั่วโมง นี้ทำให้ยากสำหรับพืชที่จะได้รับปริมาณที่เหมาะสมของแสงแดดที่จำเป็นในการสร้างอาหารการศึกษาใหม่เร่งกระบวนการ ด้วยการเปลี่ยนแปลงยีนของพืช , ระบบป้องกันการเปิดและปิดอย่างรวดเร็วกว่าปกติ ผลคือ ใบของพืชที่นักวิทยาศาสตร์ใช้ในการศึกษาเพิ่มมากขึ้น สองใบในพืชเพิ่มขึ้น 20 เปอร์เซ็นต์ ในขณะที่ใบของพืชที่สามเพิ่มขึ้น 14 เปอร์เซ็นต์ นักวิทยาศาสตร์ทำการศึกษาพืชยาสูบ แต่พวกเขาคิดว่าการดัดแปลงทางพันธุกรรมจะให้ผลลัพธ์เดียวกันในการเย็บเล่ม เช่น ข้าวโพด และข้าว" ตอนนี้ที่เรารู้ว่ามันทำงาน มันก็ไม่ยากเกินไปที่จะทำ กับพืชอื่น ๆกล่าวว่า " ยาว " ถ้าคุณดูที่พืชทั่วโลก " เขากล่าว " มัน [ เพิ่มผลผลิต ] หลายล้านตันของอาหาร . " มันจะเป็นอย่างน้อย 15 ปี ก่อนที่นักวิทยาศาสตร์สามารถปรับพืชบนมาตราส่วนขนาดใหญ่ ยาวกล่าวว่า แต่เขาเชื่อว่าการศึกษาเป็นขั้นตอนแรกในทิศทางที่เกษตรกรรมศาสตราจารย์ Tala awanda แห่งมหาวิทยาลัยเนบราสก้าลินคอล์นกล่าวว่าเขาไม่แน่ใจว่าผลผลิตจะค่อนข้างสูง แต่เขากล่าวว่า " การศึกษานี้ยังคงก้าวหน้า”ปัจจุบันประชากรของโลกประมาณ 7.3 พันล้าน ตามที่สหประชาชาติ จำนวนที่คาดว่าจะสูงถึง 8.5 พันล้านโดย 2030 , เพิ่มความต้องการอาหารทั่วโลก