2. Renewable energy developmentEner

2. Renewable energy development
Energy resource use is one of the most important and contentious issues of our time. Investments in energy efficiency and increased conservation may be the best way to tackle energy use. But it seems unlikely that goals for reducing carbon emissions can be met through demand-side management alone. As many as 2 billion people worldwide lack electricity today [2], and as rapid population growth in developing countries continues, demand for electricity will almost certainly rise. At the same time, rising standards of living and reliance on technology in developed countries may cause energy demand to rise faster than population, even with advances in efficiency. In the United States, for example, per-capita energy use declined throughout the 1970s and early 1980s due to improvements in efficiency, but has increased since then, and is predicted to increase in the next 20 years, with higher demand for energy services [3]. In order to meet demand that is anticipated despite efforts to improve efficiency, while limiting production of greenhouse gases, renewable energy sources must be developed.

In the United States, research on renewable energy has lagged in part because it is difficult for any new technology to compete economically with cheap and established fossil fuel plants. Renewables often pay off in the long term, because the “fuel”—sunlight, wind, ocean waves, etc.—tends to be free and limitless. In the short term, renewable energy plants are sometimes prohibitively capital intensive. However, proper accounting for externalized costs of energy production puts renewable energy in a more favorable light, while advances in technology and economies of scale can cause the costs of such technologies to drop considerably over time. For example, wind power cost 30 cents/kW h in the 1980s, much too high to be economically feasible; by 1999 that cost had dropped to 5 cents/kW h, making wind power cost competitive with fossil fuels [4], even without accounting for the costs of pollution and other adverse impacts associated with fossil fuels.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

2. พัฒนาทดแทนพลังงานการใช้ทรัพยากรพลังงานเป็นหนึ่งในที่สุดสำคัญ และโต้เถียงปัญหาเวลาเรา ลงทุนในพลังงานอย่างมีประสิทธิภาพและการอนุรักษ์เพิ่มขึ้นอาจแสวงการใช้พลังงานที่ดีสุด แต่เหมือนว่าไม่น่าที่สามารถตอบสนองเป้าหมายการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกผ่านการจัดการด้านความต้องการเพียงอย่างเดียว จำนวน 2 พันล้านคนทั่วโลกขาดไฟฟ้าวันนี้ [2], และเป็นอัตราการเติบโตอย่างรวดเร็วในประเทศกำลังพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ความต้องการสำหรับไฟฟ้าเกือบแน่นอนจะเพิ่มขึ้น ในเวลาเดียวกัน เพิ่มขึ้นมาตรฐานของที่อยู่อาศัยและพึ่งพาเทคโนโลยีในประเทศพัฒนาแล้วอาจทำให้ความต้องการพลังงานจะเพิ่มขึ้นเร็วกว่าประชากร แม้จะมีความก้าวหน้าอย่างมีประสิทธิภาพ ในสหรัฐอเมริกา ตัวอย่าง ต่อเศรษฐกิจฟิลิปปินส์จึงใช้พลังงานลดลงตลอดปี 1970 และต้นทศวรรษ 1980 เนื่องจากการปรับปรุงประสิทธิภาพ แต่ได้เพิ่มขึ้นตั้งแต่นั้น และคาดว่า จะเพิ่มในปี 20 ถัดไป มีความต้องการสูงสำหรับบริการพลังงาน [3] เพื่อตอบสนองความต้องการที่คาดการณ์ไว้แม้ มีความพยายามที่จะปรับปรุงประสิทธิภาพ ขณะจำกัดผลิตก๊าซเรือนกระจก แหล่งพลังงานหมุนเวียนต้องมีพัฒนาในสหรัฐอเมริกา วิจัยพลังงานทดแทนมี lagged บางส่วนเนื่องจากเทคโนโลยีใหม่ใด ๆ ให้สามารถแข่งขันกับเชื้อเพลิงฟอสซิลประหยัด และสร้างพืชอย่างยาก เท่ามักชำระเงินในระยะยาว เนื่องจาก "น้ำมัน" — แสงแดด ลม คลื่น ฯลฯ ซึ่งมีแนวโน้มที่จะ เป็นอิสระ และไร้ขีดจำกัด ในระยะสั้น พืชพลังงานทดแทนได้ในบางครั้งเร่งรัดทุน prohibitively อย่างไรก็ตาม บัญชีที่เหมาะสมสำหรับ externalized ต้นทุนของการผลิตพลังงานทำให้พลังงานทดแทนแสงดี ในขณะที่ความก้าวหน้าในเทคโนโลยีและเศรษฐกิจของขนาดทำให้ต้นทุนของเทคโนโลยีดังกล่าวจะลดลงอย่างมากเมื่อเวลาผ่าน ลมพลังงานต้นทุน 30 เซ็นต์/kW h ในทศวรรษ 1980 มากเกินไปมากไปเป็นไปได้ทางเศรษฐกิจ ตัวอย่าง โดย 1999 ที่ต้นทุนมีความเปลี่ยนแปลง 5 เซนต์/kW h ทำให้พลังงานลมต้นทุนแข่งขันกับเชื้อเพลิงฟอสซิล [4], แม้ไม่มีบัญชีสำหรับต้นทุนของมลพิษและผลกระทบอื่น ๆ ร้ายสัมพันธ์กับเชื้อเพลิงฟอสซิล

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

2. การพัฒนาพลังงานทดแทน
การใช้ทรัพยากรพลังงานเป็นหนึ่งในประเด็นที่สำคัญที่สุดและเป็นที่ถกเถียงของเวลาของเรา เงินลงทุนในประสิทธิภาพการใช้พลังงานและการอนุรักษ์ที่เพิ่มขึ้นอาจจะเป็นวิธีที่ดีที่สุดที่จะแก้ไขปัญหาการใช้พลังงาน แต่ดูเหมือนว่าไม่น่าที่เป้าหมายในการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนสามารถพบได้ผ่านการจัดการด้านอุปสงค์เพียงอย่างเดียว มากที่สุดเท่าที่ 2 พันล้านคนทั่วโลกขาดไฟฟ้าวันนี้ [2] และการเจริญเติบโตอย่างรวดเร็วของประชากรในประเทศกำลังพัฒนาอย่างต่อเนื่องความต้องการใช้ไฟฟ้าเกือบจะแน่นอนจะเพิ่มขึ้น ในเวลาเดียวกันเพิ่มขึ้นมาตรฐานการครองชีพและความเชื่อมั่นเกี่ยวกับเทคโนโลยีในประเทศที่พัฒนาแล้วอาจก่อให้เกิดความต้องการใช้พลังงานจะเพิ่มขึ้นเร็วกว่าประชากรแม้จะมีความก้าวหน้าในด้านประสิทธิภาพ ในประเทศสหรัฐอเมริกาเช่นต่อหัวการใช้พลังงานลดลงตลอดทั้งปี 1970 และ 1980 ในช่วงต้นเนื่องจากการปรับปรุงประสิทธิภาพในการ แต่ได้เพิ่มขึ้นตั้งแต่นั้นมาและคาดว่าจะเพิ่มขึ้นใน 20 ปีข้างหน้ามีความต้องการที่สูงขึ้นสำหรับบริการด้านพลังงาน [ 3] เพื่อที่จะตอบสนองความต้องการที่คาดว่าแม้จะมีความพยายามที่จะปรับปรุงประสิทธิภาพในขณะที่การ จำกัด การผลิตก๊าซเรือนกระจก, แหล่งพลังงานหมุนเวียนจะต้องได้รับการพัฒนา. ในประเทศสหรัฐอเมริกา, การวิจัยเกี่ยวกับพลังงานทดแทนมี lagged ส่วนหนึ่งเป็นเพราะมันเป็นเรื่องยากสำหรับเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่จะ การแข่งขันทางเศรษฐกิจที่มีราคาถูกและเป็นที่ยอมรับพืชเชื้อเพลิงฟอสซิล พลังงานทดแทนมักจะจ่ายออกในระยะยาวเพราะ "น้ำมันเชื้อเพลิง" -sunlight ลมคลื่นทะเล ฯลฯ มีแนวโน้มที่จะเป็นอิสระและไร้ขีด จำกัด ในระยะสั้นพืชพลังงานทดแทนบางครั้งสาหัสทุนเข้มข้น อย่างไรก็ตามการบัญชีที่เหมาะสมสำหรับค่าใช้จ่ายภายนอกของการผลิตพลังงานทำให้พลังงานทดแทนในแง่ดีมากขึ้นขณะที่ความก้าวหน้าในด้านเทคโนโลยีและการประหยัดจากขนาดสามารถก่อให้เกิดค่าใช้จ่ายของเทคโนโลยีดังกล่าวจะลดลงอย่างมากในช่วงเวลา ตัวอย่างเช่นพลังงานลมเสียค่าใช้จ่าย 30 เซนต์ / กิโลวัตต์ชั่วโมงในปี 1980 มากสูงเกินไปที่จะเป็นไปได้ทางเศรษฐกิจ; โดย 1999 ว่าค่าใช้จ่ายลดลงถึง 5 เซนต์ / กิโลวัตต์ชั่วโมงทำให้ลมพลังงานค่าใช้จ่ายที่สามารถแข่งขันกับเชื้อเพลิงฟอสซิลได้ [4] แม้จะไม่มีการบัญชีสำหรับค่าใช้จ่ายของมลพิษและผลกระทบอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับเชื้อเพลิงฟอสซิล

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

2 . พลังงานทดแทนการพัฒนาพลังงานพลังงาน
ใช้ทรัพยากรเป็นหนึ่งในปัญหาที่สำคัญที่สุดและโต้เถียงของเวลาของเรา การลงทุนในพลังงานทดแทน และการอนุรักษ์ที่เพิ่มขึ้นอาจเป็นวิธีที่ดีที่สุดที่จะแก้ไขปัญหาการใช้พลังงาน แต่ดูเหมือนว่าไม่น่าที่เป้าหมายการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนได้ถึงความต้องการด้านการจัดการอย่างเดียว คนมากเป็น 2 พันล้านทั่วโลก ขาดไฟฟ้า วันนี้ [ 2 ]และการเติบโตของประชากรอย่างรวดเร็วในการพัฒนาประเทศต่อไป ที่สำคัญเกือบจะแน่นอนขึ้น ในเวลาเดียวกัน , มาตรฐานที่เพิ่มขึ้นของที่อยู่อาศัยและการพึ่งพาเทคโนโลยีในประเทศพัฒนาแล้ว อาจทำให้ความต้องการพลังงานเพิ่มขึ้นเร็วกว่าประชากร แม้ว่าความก้าวหน้าในประสิทธิภาพ ในสหรัฐอเมริกาตัวอย่างเช่นการใช้พลังงานต่อหัวลดลงตลอดปี 1970 และต้นทศวรรษ 1980 เนื่องจากมีการปรับปรุงประสิทธิภาพ แต่ได้เพิ่มขึ้นแล้ว และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นในอีก 20 ปี มีความต้องการที่สูงขึ้นสำหรับการบริการพลังงาน [ 3 ] เพื่อตอบสนองความต้องการที่คาดการณ์ไว้ แม้ว่าจะมีความพยายามปรับปรุงประสิทธิภาพ ขณะที่จำกัดการผลิตก๊าซเรือนกระจก ,แหล่งพลังงานทดแทนจะต้องพัฒนา

ในสหรัฐอเมริกา วิจัยพลังงานทดแทนได้ล่าช้า ส่วนหนึ่งเป็นเพราะมันเป็นเรื่องยากเพราะมีเทคโนโลยีใหม่ที่จะแข่งขันทางเศรษฐกิจกับราคาถูกและก่อตั้งเชื้อเพลิงซากดึกดำบรรพ์พืช พลังงานทดแทนมักจะจ่ายออกในระยะยาว เพราะ " น้ำมัน " - แสงแดด ลม คลื่นทะเล ฯลฯ มีแนวโน้มที่จะเป็นอิสระและไร้ขีดจำกัด ในช่วงระยะเวลาสั้นๆพืชทดแทนพลังงาน บางครั้ง prohibitively ทุนเข้มข้น อย่างไรก็ตาม บัญชีที่เหมาะสมสำหรับ externalized ต้นทุนการผลิตพลังงาน ทำให้พลังงานในทางที่ดีมากขึ้นในขณะที่ความก้าวหน้าในเทคโนโลยีและเศรษฐกิจของขนาดจะทำให้ต้นทุนของเทคโนโลยีดังกล่าวจะลดลงอย่างมากเมื่อเวลาผ่านไป ตัวอย่างเช่นค่าใช้จ่ายพลังงานลม 30 เซ็นต์ / กิโลวัตต์ชั่วโมงในปี 1980มากสูงเกินไปที่จะเป็นไปได้ทางเศรษฐกิจ โดยปี 1999 ที่ค่าใช้จ่ายได้ลดลงถึง 5 เซ็นต์ / กิโลวัตต์ชั่วโมง ทำให้ลมต้นทุนที่แข่งขันกับเชื้อเพลิงฟอสซิล [ 4 ] พลังได้โดยไม่ต้องบัญชีสำหรับค่าใช้จ่ายของมลพิษและผลกระทบอื่น ๆที่เกี่ยวข้องกับเชื้อเพลิงฟอสซิล