After the 1979 revolution, a clande

After the 1979 revolution, a clandestine nuclear weapons research program was disbanded by Ayatollah Ruhollah Khomeini (1902–1989), who considered such weapons as haram (sinful) and forbidden as unethical and immoral in Muslim jurisprudence.[3] Iran has signed treaties repudiating the possession of weapons of mass destruction including the Biological Weapons Convention,[4] the Chemical Weapons Convention,[5] and the Nuclear Non-Proliferation Treaty (NPT).[6]

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

หลังจากการปฏิวัติปีค.ศ. 1979 โปรแกรมวิจัยอาวุธนิวเคลียร์ลับถูกปลดออก โดยเมื่อลลอฮ์ (1902 – 1989), ผู้ถืออาวุธดังกล่าวเป็น haram (บาป) และห้ามเป็นศีลธรรม และ immoral ในฟิกฮมุสลิม [3] อิหร่านได้ลงนามสนธิสัญญา repudiating ครอบครองอาวุธอานุภาพทำลายล้างสูงรวมทั้งอนุสัญญาห้ามอาวุธชีวภาพ, [4] อนุสัญญาห้ามอาวุธเคมี, [5] และสนธิสัญญาไม่แพร่หลายนิวเคลียร์ (NPT) [6]

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

หลังจากการปฏิวัติ 1979, อาวุธนิวเคลียร์ลับโครงการวิจัยถูกยกเลิกโดย Ayatollah Ruhollah Khomeini (1902-1989) ซึ่งถือว่าเป็นอาวุธเช่น Haram (บาป) และห้ามไม่เป็นผิดจรรยาบรรณและผิดศีลธรรมในกฎหมายมุสลิม. [3] อิหร่านได้ลงนามในสนธิสัญญา repudiating ครอบครองอาวุธที่มีอำนาจทำลายล้างสูงรวมถึงอาวุธชีวภาพประชุม [4] อาวุธเคมีประชุม [5] และนิวเคลียร์ไม่แพร่ขยายอาวุธสนธิสัญญา (NPT). [6]

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

หลังจากการปฏิวัติ 1979 , โปรแกรมวิจัยอาวุธนิวเคลียร์ลับถูกยุบโดย Ayatollah อายะตุลลอฮ์ โคมัยนี ( 1902 – 1989 ) , ผู้ที่ถืออาวุธ เช่น ฮะรอม ( บาป ) และห้ามเป็นจรรยาบรรณและศีลธรรมในนิติศาสตร์มุสลิม [ 3 ] อิหร่านได้ลงนามในสนธิสัญญา repudiating ครอบครองอาวุธของมวลพินาศรวมทั้งอาวุธชีวภาพการประชุม[ 4 ] อาวุธเคมีการประชุม [ 5 ] และการแพร่กระจายนิวเคลียร์สนธิสัญญา ( NPT ) ไม่ . [ 6 ]