When we talk about the middle schoo

When we talk about the middle school students can top that is a place one place to make friends and society to new. The teachers guidance to assist in problem solving and can teach people to be good is like a parent one school is similar to our second home.

I still remember the first step into the school of that I feel excited that can compete in examination เรีน but feel excited and also have the feeling again that feeling is fear afraid to meet new the new society that I didn't know you were afraid to be known to Friends coming from different about different school my school is not very big, but counted as one school students, many people try to analysis to get enrolled school property.

The right of life within this school I have experienced a lot both happiness and ความทุกข์เสียใจ cry, this is all friends and teachers often, I don't want to learn, because many rules that I don't like.

When the day I have to step out of the school. I know can't sag of happy time back when education lost friend and that the 3 period. School year here is shaking a rattle, and many people want to learn different disperse to step up the fight as adults.

The school is like a second home if we love our home, we must grow mature and good quality to develop our house to grow better I believe that from a point that we พัฒนาสามารถ benefit future generations and is beneficial to our country

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เมื่อเราพูดถึงนักเรียนระดับมัธยมศึกษาสามารถด้านบนที่เป็นสถานที่หนึ่งทำให้เพื่อนและสังคมใหม่ ๆ คำแนะนำของครูเพื่อช่วยในการแก้ปัญหา และสามารถสอนคนที่ดีเหมือนแม่โรงเรียนหนึ่งจะคล้ายกับบ้านหลังที่สองของเราผมยังจำได้ว่า ขั้นตอนแรกในโรงเรียนว่า รู้สึกตื่นเต้นมากที่สามารถแข่งขันในการสอบเรีน แต่รู้สึกตื่นเต้น และยัง มีความรู้สึกอีกครั้ง ความรู้สึกที่เป็นความกลัวกลัวที่จะพบกับสังคมใหม่ที่ผมไม่ทราบคุณก็กลัวที่จะรู้จักเพื่อนที่มาแตกต่างกันเกี่ยวกับโรงเรียนแตกต่างจากโรงเรียนของฉัน ใหม่ไม่ใหญ่มาก แต่นับเป็นนักเรียนโรงเรียนหนึ่ง หลายคนพยายามที่จะวิเคราะห์เพื่อรับคุณสมบัติโรงเรียนที่ลงทะเบียนด้านขวาของชีวิตภายในโรงเรียนนี้ผมมีประสบการณ์มากมายทั้งความสุขและความทุกข์เสียใจร้องไห้ นี้เป็นทั้งเพื่อนและครูมักจะ ฉันไม่ต้องการเรียนรู้ เพราะกฎหลายข้อที่ไม่ชอบเมื่อวันที่ฉันได้ก้าวเท้าออกจากโรงเรียน ฉันรู้ไม่ชัดเจนของความสุขเวลากลับเมื่อศึกษาสูญเสียเพื่อนและที่ระยะเวลา 3 ปีนี่คือเขย่ามีเสียงดัง และหลายคนต้องการเรียนรู้ต่าง ๆ ที่กระจัดกระจายไปก้าวขึ้นการต่อสู้เป็นผู้ใหญ่โรงเรียนเป็นเหมือนบ้านหลังที่สองถ้าเรารักบ้านเรา เราต้องเติบโต คุณภาพดีผู้ใหญ่เพื่อพัฒนาบ้านของเราจะเติบโตดีกว่าเพราะเชื่อว่าจากจุดที่เราพัฒนาสามารถประโยชน์ต่อคนรุ่นหลัง และเป็นประโยชน์ต่อประเทศของเรา

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เมื่อเราพูดถึงโรงเรียนมัธยมนักเรียนสามารถด้านบนที่เป็นสถานที่เดียวที่จะทำให้เพื่อน ๆ และสังคมใหม่ คำแนะนำครูผู้สอนที่จะช่วยในการแก้ปัญหาและสามารถสอนให้คนเป็นคนดีเป็นเหมือนผู้ปกครองโรงเรียนหนึ่งมีลักษณะคล้ายกับบ้านหลังที่สองของเรา.

ผมยังจำขั้นตอนแรกที่เข้าไปในโรงเรียนที่ฉันรู้สึกตื่นเต้นที่สามารถแข่งขันในการตรวจสอบเรีน แต่ รู้สึกตื่นเต้นและยังมีความรู้สึกอีกครั้งว่ารู้สึกกลัวคือกลัวที่จะตอบสนองความต้องการใหม่สังคมใหม่ที่ผมไม่ทราบว่าคุณมีความกลัวที่จะเป็นที่รู้จักกันเป็นเพื่อนมาจากที่แตกต่างกันเกี่ยวกับโรงเรียนที่แตกต่างกันในโรงเรียนของฉันไม่ใหญ่มาก แต่นับเป็นหนึ่ง นักเรียนในโรงเรียนหลายคนพยายามที่จะวิเคราะห์เพื่อให้ได้คุณสมบัติที่ลงทะเบียนเรียนที่โรงเรียน.

ทางด้านขวาของชีวิตภายในโรงเรียนนี้ผมมีประสบการณ์มากทั้งความสุขและความทุกข์เสียใจร้องไห้นี้ถูกเพื่อนและครูทุกคนมักจะฉันไม่ต้องการที่จะเรียนรู้ เพราะกฎระเบียบหลายอย่างที่ผมไม่ชอบ.

เมื่อวันที่ฉันต้องก้าวออกจากโรงเรียน ฉันรู้ว่าไม่สามารถลดลงของเวลาที่มีความสุขกลับมาเมื่อการศึกษาและการสูญเสียเพื่อนว่าระยะเวลา 3 โรงเรียนปีที่นี่จะสั่นสั่นและอีกหลายคนที่ต้องการที่จะเรียนรู้แยกย้ายกันแตกต่างกันที่จะก้าวขึ้นต่อสู้เป็นผู้ใหญ่.

โรงเรียนเป็นเหมือนบ้านหลังที่สองถ้าเรารักบ้านของเราเราจะต้องเติบโตที่มีคุณภาพเป็นผู้ใหญ่และดีในการพัฒนาบ้านเราที่จะเติบโต ดีกว่าที่ผมเชื่อว่าจากจุดที่เราสามารถพัฒนาได้รับประโยชน์ในอนาคตและเป็นประโยชน์ต่อประเทศของเรา

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เมื่อเราพูดคุยเกี่ยวกับนักเรียนมัธยมสามารถด้านบนที่เป็นสถานที่ที่เดียวที่จะทำให้เพื่อน ๆและสังคมใหม่ ครูแนะแนวเพื่อช่วยในการแก้ปัญหา และสามารถสอนให้คนเป็นคนดีเหมือนผู้ปกครองโรงเรียนเหมือนกับบ้านหลังที่สองของเราผมยังจำครั้งแรกที่ก้าวเข้าไปในโรงเรียน ผมรู้สึกตื่นเต้นที่สามารถแข่งขันในเรีนสอบ แต่รู้สึกตื่นเต้น และยังมีความรู้สึกอีกความรู้สึกนั้นคือความกลัว กลัวที่จะต้องเจอกับใหม่ สังคมใหม่ ที่ไม่รู้จักกลัวที่จะต้องรู้จักเพื่อนๆ ที่มาจากต่างเรื่องต่าง ๆ ในโรงเรียนของฉันมีไม่มาก ใหญ่ แต่นับได้เป็นนักเรียนโรงเรียนหนึ่ง หลายคนพยายามที่จะวิเคราะห์เพื่อให้ได้เข้าเรียนโรงเรียนสิทธิของชีวิตในโรงเรียนนี้ ผมได้รับประสบการณ์มากมาย ทั้งความสุข และความทุกข์เสียใจร้องไห้ นี่เพื่อนๆ และคุณครู บ่อยๆ ผมไม่อยากเรียน เพราะกฎมากมายที่ฉันไม่ชอบเมื่อวันที่ผมต้องออกจากโรงเรียน ผมรู้ว่าไม่สามารถลดลงของเวลามีความสุขกลับเมื่อจบสูญเสียเพื่อนและที่ 3 ระยะเวลา ปีโรงเรียนที่นี่ สั่น สั่น และหลายคนต้องการที่จะเรียนรู้ที่แตกต่างกันไปเพื่อก้าวขึ้นต่อสู้เป็นผู้ใหญ่โรงเรียนเป็นเหมือนบ้านหลังที่สอง ถ้าเรารักบ้านของเรา เราต้องเติบโตเป็นผู้ใหญ่ และคุณภาพที่ดีเพื่อพัฒนาบ้านเราให้เจริญขึ้น ผมเชื่อว่า จากจุดที่เราพัฒนาสามารถประโยชน์ในอนาคต และเป็นประโยชน์ต่อประเทศของเรา