The key to successfully growing Pap

The key to successfully growing Paphiopedilum callosum is to keep them in conditions that resemble their natural culture: indirect light, a bark based growing medium, light fertilisation and appropriate watering (water thoroughly then let it dry out every 5-7 days).

On a young plant that is flowering for the first time, is recommended to let the flower on for short period and then cut it off. It will keep in a vase for a while and the young plant will grow much better without having to support a bloom. If it is intended to put a seed-pod on Paphiopedilum callosum, chose a strong plant which will be able to hold the pod for the required ten months (this time period applies to Paphiopedilum seed pods). It is an enormous strain on any orchid to grow seeds and only a strong plant will survive.

When cut the Paphiopedilum callosum flower and keep it in a vase, cut the stem flower as long as possible and make a 45° angle cut to increase the water absorption surface. Change the vase water daily and keep cutting a centimetre (0.4 inch) or so every day to avoid sealing the cut and allow the flower to take the needed water to stay fresh. Keep the vase in a relatively cool room (around 21°C – 70°F) to increase the flower lifespan.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

คีย์การปลูกรองเท้านารีคางกบเรียบร้อยจะเก็บไว้ในสภาพที่คล้ายกับวัฒนธรรมของธรรมชาติ: แสงทางอ้อม เปลือกใช้เติบโตปานกลาง สีปฏิสนธิ และน้ำที่เหมาะสม (น้ำสะอาด แล้วปล่อยให้มันแห้งออกทุก 5-7 วัน)ในความกล้าที่เวอร์ริ่งครั้งแรก งานดอกไม้ในสำหรับรอบระยะเวลาสั้น และตัดออกให้ มันจะทำให้ในแจกันสำหรับครู่และกล้าจะเติบโตดีไม่สนับสนุนการบลูม ถ้ามีวัตถุประสงค์เพื่อวางเมล็ดฝักรองเท้านารีคางกบ พืชแข็งแรงซึ่งจะสามารถเก็บฝักในเดือนสิบต้อง เลือก (ระยะเวลานี้ใช้กับฝักเมล็ดรองเท้านารี) ต้องใช้มหาศาลออร์คิดการเติบโตเมล็ดพืชและโรงงานแข็งแรงเท่านั้นจะอยู่รอดได้เมื่อตัดดอกไม้รองเท้านารีคางกบ และเก็บไว้ในแจกัน ตัดก้านดอกไม้ตราบเท่าที่เป็นไปได้และทำมุม 45 องศาตัดเพื่อเพิ่มพื้นที่การดูดซึมน้ำ เปลี่ยนแจกันในน้ำทุกวันให้ตัดเซนติเมตร (0.4 นิ้ว) หรือให้ทุกวันเพื่อหลีกเลี่ยงการตัดตัด และให้ดอกไม้จะใช้น้ำต้องการสด ไว้แจกันในห้องค่อนข้างเย็น (ประมาณ 21° C – 70° F) เพื่อเพิ่มอายุการใช้ดอกไม้

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

กุญแจสำคัญในการประสบความสำเร็จในการเจริญเติบโตของรองเท้านารีคางกบคือการให้พวกเขาอยู่ในสภาพที่มีลักษณะวัฒนธรรมธรรมชาติของพวกเขา: แสงทางอ้อมเปลือกขนาดกลางที่เพิ่มขึ้นตามการปฏิสนธิแสงและรดน้ำที่เหมาะสม (น้ำให้สะอาดแล้วปล่อยให้แห้งออกทุก 5-7 วัน). บน ต้นกล้าที่มีดอกเป็นครั้งแรกที่จะแนะนำให้ให้ดอกไม้ในช่วงเวลาสั้นแล้วตัดมันออก มันจะเก็บไว้ในแจกันในขณะที่และโรงงานหนุ่มจะเติบโตที่ดีมากโดยไม่ต้องให้การสนับสนุนบาน ถ้ามันมีจุดมุ่งหมายที่จะนำฝักเมล็ดในรองเท้านารีคางกบเลือกพืชที่แข็งแกร่งที่จะสามารถที่จะถือฝักที่จำเป็นสำหรับสิบเดือน (ช่วงเวลานี้นำไปใช้กับรองเท้านารีฝักเมล็ด) มันเป็นสายพันธุ์อย่างใหญ่หลวงต่อกล้วยไม้ที่จะเติบโตเมล็ดใด ๆ และมีเพียงโรงงานที่แข็งแกร่งจะอยู่รอด. เมื่อตัดดอกรองเท้านารีคางกบและเก็บไว้ในแจกันตัดดอกก้านนานที่สุดเท่าที่เป็นไปได้และทำมุม 45 °ตัดเพื่อเพิ่ม พื้นผิวดูดซึมน้ำ เปลี่ยนน้ำแจกันทุกวันและให้ตัดเซนติเมตร (0.4 นิ้ว) หรือเพื่อให้ทุกวันเพื่อหลีกเลี่ยงการปิดผนึกตัดและอนุญาตให้ดอกไม้ที่จะใช้น้ำที่จำเป็นในการอยู่สด ให้แจกันในห้องที่ค่อนข้างเย็น (ประมาณ 21 ° C - 70 ° F) เพื่อเพิ่มอายุการใช้งานดอกไม้

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

คีย์ที่จะประสบความสำเร็จเติบโตรองเท้านารีขาวสตูลจะเก็บไว้ในสภาพที่คล้ายกับวัฒนธรรมของธรรมชาติ : แสงทางอ้อม เห่าตามการเติบโตปานกลาง และการให้แสงที่เหมาะสมปฏิสนธิ ( น้ำสะอาด แล้วปล่อยให้แห้งออกทุก 5-7 วัน )

บนต้นไม้ที่ออกดอกครั้งแรก แนะนำให้ ดอกไม้ในช่วงเวลาสั้น ๆแล้วตัดมันออกมันจะเก็บไว้ในแจกันสักพักและต้นกล้าจะเติบโตดีขึ้น โดยไม่ต้องสนับสนุน บลูม ถ้ามันมีไว้เพื่อใส่เมล็ดในฝักรองเท้านารีขาวสตูล เลือกต้นที่แข็งแรงซึ่งจะสามารถถือฝักเพื่อบังคับใช้ 10 เดือน ( ช่วงเวลานี้ใช้กับกล้วยไม้เมล็ดฝัก )มันใหญ่สายพันธุ์กล้วยไม้ปลูกเมล็ดและแข็งแรงพืชจะอยู่รอด

เมื่อตัดรองเท้านารีขาวสตูลดอกและเก็บมันไว้ในแจกันตัดก้านดอกยาวเท่าที่เป็นไปได้และทำมุม 45 องศา ตัดเพื่อเพิ่มพื้นผิวดูดซึมน้ำ เปลี่ยนน้ำทุกวัน และเก็บแจกันตัดเซนติเมตร ( 04 นิ้ว ) หรือทุกๆวันเพื่อหลีกเลี่ยงการตัดและปิดผนึกให้ดอกไม้เพื่อใช้เป็นน้ำพักสด เก็บแจกันในห้องค่อนข้างเย็น ( ประมาณ 21 ° C และ 70 ° F ) เพื่อเพิ่มอายุการใช้งานของดอกไม้