The ‘digital divide’ became an impo

The ‘digital divide’ became an important topic in the second half of the 1990s. The ‘traditional’ digital divide
discourse stated that the lack of access to the technology was the main problem in dealing with digital media
(Compaine, 2001; van Dijk, 2006). However, despite that the lack of access to digital media remains an important
cause of digital inequalities (Selwyn & Facer, 2007; van Dijk, 2005), it is clear that in most Western countries the
digital gap is steadily closing (Dewan & Riggins, 2005). In this respect, research in Flanders (the northern part of
Belgium, home to the Dutch speaking community) points out that 89% of the Flemish families own a computer,
85,3% have an Internet connection, 64,1% have digital television and 96,6% of the Flemish population owns a
mobile phone (IBBT-iLab.O., 2010).

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

'ยุคดิจิตอล' กลายเป็น หัวข้อสำคัญในครึ่งหลังของปี 1990 เหลื่อมล้ำทางดิจิตอล 'ดั้งเดิม'วาทกรรมที่ระบุว่า การขาดการเข้าถึงเทคโนโลยีเป็นปัญหาหลักในการจัดการกับสื่อดิจิทัล(Compaine, 2001; van Dijk, 2006) อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่า การขาดการเข้าถึงสื่อดิจิทัลยังคง มีความสำคัญทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำทางดิจิตอล (Selwyn & Facer, 2007; van Dijk, 2005) เป็นที่ชัดเจนว่าในประเทศตะวันตกมากที่สุดอย่างต่อเนื่องมีการปิดช่องว่างดิจิทัล (เดวาน & Riggins, 2005) ในแง่นี้ วิจัยในฟลานเดอร์ (ภาคเหนือของเบลเยี่ยม บ้านชุมชนพูดดัตช์) ชี้ให้เห็นว่า 89% ของครอบครัวฟลามส์เป็นเจ้าของคอมพิวเตอร์85,3% มีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต 64,1% มีโทรทัศน์และ 96,6% ของประชากรฟลามส์เป็นเจ้าของโทรศัพท์มือถือ (IBBT-iLab.O. 2010)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

'การแบ่งดิจิตอล' กลายเป็นหัวข้อที่สำคัญในช่วงครึ่งหลังของปี 1990 'การแบบดั้งเดิม' แบ่งดิจิตอล
วาทกล่าวว่าการขาดการเข้าถึงเทคโนโลยีที่เป็นปัญหาหลักในการจัดการกับสื่อดิจิตอล
(Compaine 2001; Van Dijk, 2006) อย่างไรก็ตามแม้จะว่าขาดการเข้าถึงสื่อดิจิตอลยังคงเป็นสิ่งสำคัญที่
เป็นสาเหตุของความไม่เท่าเทียมกันแบบดิจิตอล (วายน์ & Facer 2007; Van Dijk, 2005) ก็เป็นที่ชัดเจนว่าในประเทศตะวันตกมากที่สุด
ช่องว่างดิจิตอลอย่างต่อเนื่องปิด (เทวันและกินส์ 2005) ในแง่นี้การวิจัยในลานเดอร์ (ทางตอนเหนือของ
ประเทศเบลเยียมบ้านให้กับชุมชนที่พูดภาษาดัตช์) ชี้ให้เห็นว่า 89% ของครอบครัวเฟลมิชเป็นเจ้าของคอมพิวเตอร์
85,3% มีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต 64,1% มีทีวีดิจิตอล และ 96,6% ของประชากรเฟลมิชเป็นเจ้าของ
โทรศัพท์มือถือ (IBBT-iLab.O., 2010)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

" ดิจิทัล " กลายเป็นหัวข้อสำคัญในช่วงครึ่งหลังของทศวรรษ 1990 " ดั้งเดิม " ดิจิทัลการกล่าวว่า การขาดการเข้าถึงเทคโนโลยีที่เป็นปัญหาหลักในการจัดการกับสื่อดิจิทัล( วอลล์ , 2001 ; Van Dijk , 2006 ) อย่างไรก็ตาม แม้ว่าการขาดการเข้าถึงสื่อดิจิตอลยังคงสำคัญสาเหตุของความไม่เท่าเทียมกันดิจิทัล ( เซลวิน & เฟเซอร์ , 2007 ; Van Dijk , 2005 ) , มันเป็นที่ชัดเจนว่าในประเทศตะวันตกมากที่สุดช่องว่างดิจิตอลยังคงปิด ( Dewan & ริกกิ้นส์ , 2005 ) ในส่วนนี้การวิจัยในแฟลนเดอร์ส ( ตอนเหนือของเบลเยียม , บ้านดัตช์พูดชุมชน ) ชี้ให้เห็นว่า 89% ของครอบครัวเฟลมิชเป็นเจ้าของคอมพิวเตอร์85,3 % มีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต 64,1 มีโทรทัศน์ดิจิตอลและ 96,6 % ของประชากรเป็นเจ้าของเฟลมิชโทรศัพท์มือถือ ( ibbt ห้องแล็บ . . , 2010 )