The Lagos Lagoon with a surface are

The Lagos Lagoon with a surface area of nearly 207
km2 is the largest lagoon in West Africa (FAO Report, 1969). The
lagoon is habitat for a variety of fauna including plankton
(Nwankwo and Akinsoji, 1992), nekton (Fagade and Olaniyan,
1973, 1974; Adetayo and Kusemiju, 1994) and benthos (Yoloye
and Adegoke, 1977, Ajao and Fagade, 1990 and Ogunwenmo
and Kusemiju, 2004) The blue crab, Callinectes amnicola (De
Rocheburne) occurs commonly in the lagoons and coastal waters
of West Africa and it is a popular food item with the riverine and
coastal populace. Fagade and Olaniyan (1974) reported its
occurrence in the Lagos Lagoon at salinity up to 24.7‰ while
Kusemiju (1981) reported its occurrence in the adjacent Lekki
Lagoon with salinity of less than 2‰.
The distribution and existence of crabs depends on specific
environmental parameters such as salinity, pH, temperature and
dissolved oxygen (Diaz and Conde, 1989; Lee and Winckin, 1995;
Carmona-Suarez and Conde, 1996; Guillory et al., 1996). While
hatching and larval development occurs successfully under a
relatively narrow range of salinity and water temperatures (Lee
and Winckin, 1995), juvenile or adult crabs can tolerate a wide
range of salinities and temperatures. Various studies have suggested
salinity as an ecological indicator in the Lagos Lagoon (Olaniyan,
1969; Fagade and Olaniyan, 1974; Ogunwenmo and Kusemiju,
2004). Salinity ranged between 0.05 and 28.7‰ in the lagoon
(Fagade and Olaniyan, 1974).
The water temperature on the other hand ranged between
27 and 30oC and there was only a slight variation of 1- 3oC between
the dry and rainy season water temperatures (Ogunwenmo and
Kusemiju, 2004).
In the Lagos Lagoon, the constant harvest pressure on C.
amnicola and the loss of submerged aquatic vegetation habitat
which young crabs require for shelter and food during their
development had led to decline in the crab fishery (Solarin and
Kusemiju, 2003). Efforts may now be geared towards the
aquacultural potentials for blue crab production in the lagoon.
This paper evaluates the salinity tolerance and effects of
salinity on the growth of C. amnicola from the Lagos Lagoon, a
tropical estuarine system. Results obtained will help determine the
best salinity for the culture and which parts of the lagoon will give
suitable environmental conditions.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ลากูนลากอส มีพื้นที่เกือบ 207km2 เป็นทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดในแอฟริกาตะวันตก (FAO รายงาน 1969) ที่ลากูนเป็นอยู่อาศัยของสัตว์รวมทั้งแพลงก์ตอน(Nwankwo และ Akinsoji, 1992), nekton (Fagade และ Olaniyan1973, 1974 Adetayo และ Kusemiju, 1994) และ benthos (Yoloyeและ Adegoke, 1977, Ajao และ Fagade, 1990 และ Ogunwenmoและ Kusemiju, 2004) ปูสีฟ้า Callinectes amnicola (DeRocheburne) เกิดขึ้นโดยทั่วไปในทะเลสาบและทะเลชายฝั่งแอฟริกาตะวันตกและเป็นสินค้ายอดนิยมอาหารกับริเวอร์ไรน์ และประชาชนชายฝั่งทะเล Fagade และ Olaniyan (1974) รายงานตัวเกิดในลากอสที่เค็มถึง 24.7‰ ในขณะที่Kusemiju (1981) รายงานของเหตุการณ์ใน Lekki ติดลากูนที่เค็มน้อยกว่า 2‰กระจายและการดำรงอยู่ของปูขึ้นอยู่กับเฉพาะพารามิเตอร์สภาพแวดล้อมเช่นเค็ม ค่า pH อุณหภูมิ และปริมาณออกซิเจนละลาย (ดิแอซและระดับ 1989 ลีและ Winckin, 1995ซูอาเรส Carmona และระดับ 1996 Guillory et al., 1996) ในขณะที่เกิดขึ้นพัฒนาฟัก และ larval สำเร็จภายใต้การค่อนข้างแคบช่วงของความเค็มและอุณหภูมิน้ำ (ลีและ Winckin, 1995), ปูเยาวชน หรือผู้ใหญ่สามารถทนเป็นช่วง salinities และอุณหภูมิ มีการแนะนำการศึกษาต่าง ๆเค็มเป็นตัวบ่งชี้ระบบนิเวศในลากอส (Olaniyan1969 Fagade และ Olaniyan, 1974 Ogunwenmo และ Kusemiju2004) นั้นเค็มอยู่ในช่วงระหว่าง 0.05 และ 28.7‰ ใน(Fagade และ Olaniyan, 1974)อุณหภูมิน้ำคง อยู่ในช่วงระหว่าง27 และ 30oC และมีเฉพาะการปรับเปลี่ยนเล็กน้อยของ 1-3oC ระหว่างฤดูแล้ง และฤดูฝนอุณหภูมิน้ำ (Ogunwenmo และKusemiju, 2004)ในลากอส เก็บเกี่ยวคงความดันคamnicola และการสูญเสียถิ่นที่อยู่สัตว์น้ำพืชน้ำท่วมซึ่งสาวปูต้องการพักอาศัยและอาหารในระหว่างการพัฒนาได้นำประเทศประมงปู (Solarin และKusemiju, 2003) ตอนนี้ต้องมุ่งความพยายามสู่การศักยภาพ aquacultural สำหรับผลิตปูม้าในกระดาษนี้ประเมินค่าเผื่อเค็มและผลของเค็มในการเติบโตของ C. amnicola จากทะเลสาบลากอส การระบบปากแม่น้ำเขตร้อน ผลลัพธ์ที่ได้จะช่วยให้กำหนดเค็มสุดวัฒนธรรมและจะทำให้ส่วนใดของสภาพแวดล้อมเหมาะสม

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ในลากอสทะเลสาบที่มีพื้นที่ผิวเกือบ 207
ตารางกิโลเมตร เป็นทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดในแอฟริกาตะวันตก ( FAO รายงาน , 1969 )
ทะเลสาบเป็นแหล่งอาศัยความหลากหลายของพืชรวมทั้งแพลงก์ตอน
( nwankwo และ akinsoji , 1992 ) , เนกตอน ( fagade และ olaniyan
1973 , 1974 ; adetayo และ kusemiju , 1994 ) และสัตว์หน้าดิน ( yoloye
และ adegoke , 1977 , ajao และ fagade , 2533 และ ogunwenmo
และ kusemiju , 2004 ) ปูสีฟ้า ,callinectes amnicola ( de
rocheburne ) เกิดขึ้นทั่วไปในท้องทะเลและน้ำทะเลชายฝั่ง
ของแอฟริกาตะวันตกและเป็นสินค้าอาหารที่ได้รับความนิยม ด้วยแม่น้ำและ
ประชาชนชายฝั่ง fagade olaniyan ( 1974 ) และรายงานการเกิดของมัน
ในลากอสทะเลสาบที่ความเค็มถึง 24.7 ‰ในขณะที่
kusemiju ( 1981 ) รายงานเหตุการณ์ใน lekki
ทะเลสาบที่อยู่ติดกันกับความเค็มน้อยกว่า 2 ‰ .
การกระจายและการดำรงอยู่ของปูขึ้นอยู่กับตัวแปรสภาพแวดล้อมเฉพาะ
เช่น ความเค็ม พีเอช อุณหภูมิ และปริมาณออกซิเจนที่ละลายในน้ำ ( และ
ดิแอซ Conde , 1989 ; ลี และ winckin , 1995 ;
Carmona และซัวเรซ Conde , 1996 ; guillory et al . , 1996 ) ในขณะที่
ฟักและการพัฒนาตัวอ่อนเกิดขึ้นเรียบร้อยแล้วภายใต้
ค่อนข้างแคบ ช่วงความเค็มและอุณหภูมิน้ำ ( ลี
และ winckin , 1995 )เด็กหรือผู้ใหญ่ปูสามารถทนต่อความเค็มและอุณหภูมิช่วงกว้าง
. การศึกษาต่างๆได้แนะนำ
ความเค็มเป็นตัวบ่งชี้นิเวศวิทยาในลากอสทะเลสาบ ( olaniyan
1969 ; และ , fagade olaniyan , 1974 ; ogunwenmo และ kusemiju
, 2004 ) ความเค็มมีค่าอยู่ระหว่าง 0.05 และ 28.7 ‰ในทะเลสาบ
( fagade และ olaniyan , 1974 ) .
อุณหภูมิน้ำในมืออื่น ๆอยู่ระหว่าง
27 และเซลล์และมีเพียงการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย 1 - 3oc ระหว่าง
ฤดูแล้งและฤดูฝน อุณหภูมิน้ำ ( ogunwenmo และ

kusemiju , 2004 ) ในลากอสทะเลสาบ , ความดันคงที่ในการเก็บเกี่ยว C .
amnicola และการสูญเสียของน้ำในพืชสิ่งแวดล้อม
ซึ่งปูยังต้องพักและอาหารระหว่าง การพัฒนาของพวกเขา
ทำให้มีการลดลงในการประมงและ kusemiju ปู ( solarin
,2003 ) ความพยายามในขณะนี้อาจจะมุ่งสู่
ศักยภาพ aquacultural การผลิตปูม้าในบ่อ .
กระดาษนี้ประเมินความเค็มและผลของความเค็มต่อการเจริญเติบโต
C . amnicola จากลากอสทะเลสาบ , ระบบน้ำเค็มเป็น
เขตร้อน ผลที่ได้รับจะช่วยให้ตรวจสอบความเค็มที่ดีที่สุด
สำหรับวัฒนธรรมและส่วนของทะเลสาบจะให้
สภาวะแวดล้อมที่เหมาะสม