Types of Potential Bias in Cohort S

Types of Potential Bias in Cohort Studies: Most
1. Selection bias: select participants
2. Information bias:
- Collect different quality and extent of information from exposed and not exposed groups
- Loss to follow-up differs between exposed and not exposed (or between disease and no disease)
Advantages of cohort studies
• Can directly measure incidence in exposed and unexposed groups
• Provides the true relative risk
• Cohort studies are well suited for rare exposures
• The temporal relationship exposure‐disease is clear
• Cohort studies can be less subject to selection biases (when the outcome is not known; prospective studies)
• Cohort studies can examine multiple outcomes for a single
Exposure
Disadvantages of cohort studies
• They require a large sample size
• The period between exposure and disease (latency) can be very long
• Cohort studies can be very costly and time-consuming
• There can be a loss to follow-up, which may result in bias
• Exposures may change over time, which can be hard to measure
• It can be difficult to collect information on multiple exposures
• If an exposure is deleterious, ethical considerations need to be taken into account

2) Case – control studies: investigated associations between the exposure to a risk factor and the occurrence of disease

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ชนิดรุนแรงอาจเกิดขึ้นในงานศึกษา: ส่วนใหญ่1. การเลือกอคติ: เลือกผู้เข้าร่วม 2. ข้อมูลอคติ: -เก็บคุณภาพแตกต่างกันและขอบเขตของข้อมูลจากกลุ่มเปิดเผย และไม่เปิดเผย-ขาดการติดตามผลแตกต่าง ระหว่างการเปิดเผย และไม่เปิดเผย (หรือ ระหว่างโรคและไม่มีโรค)ข้อดีของงานศึกษา•สามารถวัดอุบัติการณ์ในกลุ่ม unexposed และสัมผัสโดยตรง•ให้ความเสี่ยงจริง•งานศึกษาตามรุ่นที่เหมาะกับการเปิดรับแสงที่หายาก• Exposure‐disease กาลเวลาความสัมพันธ์ชัดเจน•งานศึกษาได้น้อยอาจ มีอคติเลือก (เมื่อผลไม่เป็นที่รู้จัก ผู้สนใจศึกษา)•งานศึกษาสามารถตรวจสอบผลลัพธ์หลายสำหรับเดียวเปิดรับแสงข้อเสียของงานศึกษา•ต้องการขนาดตัวอย่างใหญ่•รอบระยะเวลาเปิดรับแสงและโรค (แฝง) ได้นานมาก•งานศึกษาสามารถค่าใช้จ่าย และใช้เวลานานมาก•สามารถขาดการติดตามผล ซึ่งอาจส่งผลรุนแรง•แสงอาจเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ซึ่งยากที่จะวัด•เป็นเรื่องยากในการรวบรวมข้อมูลบนซ้อน•หากสัมผัสร้าย จริยธรรมพิจารณาจำเป็นต้องนำมาพิจารณา2) กรณี – ควบคุมศึกษา: ตรวจสอบความสัมพันธ์ระหว่างการสัมผัสกับปัจจัยเสี่ยงและการเกิดขึ้นของโรค

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ประเภทของอคติที่อาจเกิดขึ้นในหมู่การศึกษา: ส่วนใหญ่
1 อคติเลือก: เลือกผู้เข้าร่วม
2 อคติข้อมูล:
- เก็บที่มีคุณภาพที่แตกต่างกันและขอบเขตของข้อมูลจากกลุ่มสัมผัสและไม่ได้สัมผัส
- ขาดทุนจากการติดตามความแตกต่างระหว่างการเปิดรับและไม่ได้สัมผัส (หรือระหว่างโรคและโรคไม่ได้)
ข้อดีของการศึกษาการศึกษา
•โดยตรงสามารถวัดอัตราการเกิดในสัมผัสและยังไม่ได้ถ่าย กลุ่ม
•ให้ความจริงความเสี่ยง
•ศึกษาการศึกษามีความเหมาะสมดีสำหรับความเสี่ยงที่หายาก
•ความสัมพันธ์ชั่วสัมผัสโรคที่มีความชัดเจน
การศึกษา• Cohort สามารถจะน้อยขึ้นอยู่กับอคติเลือก (เมื่อผลไม่เป็นที่รู้จัก; การศึกษาในอนาคต)
•ศึกษาการศึกษาสามารถ ตรวจสอบผลหลายเดียว
ที่ได้รับ
ข้อเสียของการศึกษาการศึกษา
•พวกเขาต้องมีขนาดของกลุ่มตัวอย่างขนาดใหญ่
•ระยะเวลาระหว่างการเปิดรับและโรค (แฝง) สามารถจะยาวมาก
•ศึกษาการศึกษาสามารถมากค่าใช้จ่ายสูงและใช้เวลานาน
•อาจมีการสูญเสียไป ติดตามซึ่งอาจส่งผลให้เกิดอคติ
•เปิดรับอาจมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาซึ่งอาจจะยากที่จะวัด
•มันอาจเป็นเรื่องยากในการเก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับความเสี่ยงหลาย
•หากมีการสัมผัสเป็นอันตรายการพิจารณาจริยธรรมจะต้องถูกนำเข้าบัญชี

2) กรณีศึกษา - การควบคุมการตรวจสอบความสัมพันธ์ระหว่างการสัมผัสกับปัจจัยเสี่ยงและการเกิดขึ้นของโรค

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ชนิดของอคติในการศึกษาทางด้านวิทยาศาสตร์มากที่สุด ที่มีศักยภาพ1 . การตั้งค่า : เลือกเข้าร่วม2 . ข้อมูลค่า :- รวบรวมคุณภาพที่แตกต่างกันและขอบเขตของการเปิดเผยและไม่เปิดเผยข้อมูลจากกลุ่ม- การสูญเสียการติดตามระหว่างเปิดเผย และไม่เปิดเผย ( หรือระหว่างโรคและไม่มีโรค )ข้อดีของการศึกษาทางด้านวิทยาศาสตร์บริการโดยตรงสามารถวัดการเปิดเผยและอิ่มในกลุ่ม- มีความเสี่ยงสัมพัทธ์ที่แท้จริง- การศึกษาทางด้านวิทยาศาสตร์เป็นอย่างดี เหมาะกับการเปิดรับที่หายากบริการเกี่ยวกับความสัมพันธ์การ‐โรคชัดเจน- สามารถติดตามศึกษาเรื่องน้อยอคติเลือก ( เมื่อผลไม่ได้ว่า อนาคตการศึกษา )- สามารถตรวจสอบผลการศึกษาทางด้านวิทยาศาสตร์หลายๆ เดียวแสงข้อเสียของรุ่นที่เข้าศึกษา- พวกเขาต้องใช้ขนาดตัวอย่างใหญ่- ระยะเวลาการเปิดรับและโรค ( แฝง ) สามารถยาวมาก- การศึกษาทางด้านวิทยาศาสตร์จะแพงมาก และใช้เวลานาน- สามารถมีการสูญเสียการติดตามซึ่งอาจส่งผลใน อคติ- เปิดรับที่อาจเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ซึ่งยากที่จะวัด- มันสามารถยากที่จะรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับเบิ้ล- ถ้าแสงนั้นเป็นอันตราย จรรยาบรรณต้องนํามาพิจารณา2 ) กรณีศึกษา : การควบคุมและตรวจสอบสมาคมระหว่างการสัมผัสปัจจัยเสี่ยงกับการเกิดโรค