4340 steel bars were austenitized a

4340 steel bars were austenitized at 850 ◦C for 1 h followed by heating at 700 ◦C for 90 min and quenching
into a salt bath at the temperature range of 300–450 ◦C for 1 h to obtain dual structures with 34 vol.%
fraction ferrite and various bainite morphologies. SEM studies showed that by increasing the austempering
temperature, bainite morphology varies from lower to upper bainite. Tensile, impact and hardness
tests revealed that increasing the austempering temperature from 300 to 400 ◦C leads to a reduction in
yield and ultimate tensile strength, hardness, uniform and total elongation and impact energy. But in
dual phase steel produced by austempering at 450 ◦C, yield and tensile strength and hardness increased
and severe reduction in total elongation and impact energy obtained. Fractography of tensile specimens
showed brittle behavior for this austempering temperature. Fatigue test results showed that fatigue limit
decreases with increasing austempering temperature from 300 to 400 ◦C. Finally, fractography studies
showed cleavage fracture at the surface of fatigue specimens austempered at 400 ◦C, which confirms the
tendency to brittle behavior.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

4340 เหล็กบาร์ถูก austenitized ที่ ◦C 850 สำหรับ h 1 ที่ตาม ด้วยความร้อนที่ ◦C 700 สำหรับ 90 นาที และชุบลงในน้ำเกลือที่ช่วงอุณหภูมิ 300-450 ◦C สำหรับ h 1 รับโครงสร้างคู่กับ 34 vol.%เศษ ferrite และ morphologies ไนท์ต่าง ๆ ศึกษา SEM พบว่า โดยการเพิ่มการทำอออุณหภูมิ สัณฐานวิทยาไนท์ตั้งแต่ล่างถึงบนไนท์ แรง ผลกระทบ และความแข็งทดสอบเปิดเผยว่า การเพิ่มอุณหภูมิทำออจาก 300 ถึง 400 ◦C นำไปสู่การลดผลผลิต และความต้านแรงดึงสูงสุด elongation ความแข็ง เครื่องแบบ และรวม และพลังงานผลกระทบ แต่ในสองระยะเหล็กผลิต โดยการทำออที่ 450 ◦C ผลผลิต และความต้านแรงดึง และความแข็งเพิ่มขึ้นและลดพลังงาน elongation และผลกระทบอย่างรุนแรงได้ Fractography แรงดึงไว้เป็นตัวอย่างแสดงให้เห็นลักษณะเปราะสำหรับอุณหภูมินี้ทำออ ผลการทดสอบความอ่อนเพลียที่พบว่าวงเงินที่ล้าลด ด้วยการเพิ่มอุณหภูมิทำออจาก 300 400 ◦C สุดท้าย fractography ศึกษาแสดงให้เห็นว่าปริกระดูกที่พื้นผิวของ austempered specimens ล้าที่ 400 ◦C ซึ่งยืนยันการแนวโน้มลักษณะเปราะการ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

4340 เหล็กถูก austenitized ที่ 850 ◦Cเป็นเวลา 1 ชั่วโมงตามด้วยความร้อนที่ 700 ◦Cเป็นเวลา 90
นาทีและดับลงในน้ำเกลือที่ช่วงอุณหภูมิของ300-450 ◦Cเป็นเวลา 1 ชั่วโมงเพื่อให้ได้โครงสร้างที่คู่กับ 34 ฉบับ.%
ส่วนเฟอร์ไรต์และเบไนท์รูปร่างลักษณะต่างๆ SEM การศึกษาแสดงให้เห็นว่าโดยการเพิ่ม austempering
อุณหภูมิสัณฐานเบไนท์แตกต่างจากที่ต่ำกว่าเบไนท์บน แรงดึงผลกระทบและความแข็งการทดสอบแสดงให้เห็นว่าการเพิ่มอุณหภูมิ austempering 300-400 ◦Cนำไปสู่การลดลงของผลผลิตและความต้านทานแรงดึงที่ดีที่สุดความแข็งเครื่องแบบและการยืดตัวและพลังงานรวมผลกระทบ แต่ในเหล็กขั้นตอนการผลิตโดยคู่ austempering ที่ 450 ◦Cผลผลิตและความต้านทานแรงดึงและความแข็งที่เพิ่มขึ้นและการลดลงอย่างรุนแรงในการยืดตัวและพลังงานรวมผลกระทบที่ได้รับ Fractography แรงดึงของตัวอย่างที่แสดงให้เห็นพฤติกรรมเปราะอุณหภูมิaustempering นี้ ผลการทดสอบแสดงให้เห็นว่าเมื่อยล้าเมื่อยล้าวงเงินลดลงด้วยการเพิ่มอุณหภูมิ austempering 300-400 ◦C สุดท้าย fractography ศึกษาแสดงให้เห็นความแตกแยกร้าวที่พื้นผิวของตัวอย่างความเมื่อยล้า ADI ขึ้นที่ 400 ◦Cซึ่งยืนยันแนวโน้มที่จะมีพฤติกรรมเปราะ