located in Southern Finland, is the

located in Southern Finland, is the world's second longest tunnel (after the Delaware Aqueduct in the USA). It is 120 kilometers (75 mi) long and runs 30–100 meters under the surface in bedrock. The purpose of the tunnel is to provide fresh water for the million plus people in Southern Finland in the cities of Helsinki, Espoo, Vantaa, Hyvinkää, Järvenpää, Kerava, Kauniainen, Kirkkonummi, Sipoo, and Tuusula. The former Porvoo Rural Municipality, now merged with the municipality of Porvoo, also took part in the building of the scheme but has never drawn water from it for domestic use.

The tunnel starts at Asikkalanselkä in Lake Päijänne, which is the second largest lake in Finland, with an area of 1,080 square kilometres. The tunnel slopes slightly downhill so that water flows naturally. Water from the southern portion of Lake Päijänne is of rather good quality at the water tunnel intake and is usually drinkable without processing. The tunnel ends at the Silvola reservoir in Vantaa in the Greater Helsinki area. From the reservoir covering 0.5 square kilometres, water is pumped to water treatment plants in Pitkäkoski and Vanhakaupunki. Since the constant low temperature in the deep tunnel ensures high quality during transport, only minimal processing is required before use.

Tunnel construction started in 1972 and was completed in 1982 at a cost of approximately €200 million (adjusted for inflation).[1] In 2001, portions of the tunnel required repair due to rock falls. In 2008, the tunnel underwent an extensive renovation. The southern part of the tunnel was reinforced in order to prevent cave-ins. During the renovation, from April 15 to December 31, 2008, the raw water for the Greater Helsinki metropolitan area was drawn from the Vantaa River.

The tunnel has a cross section of 16 square metres (wide enough for a truck) and enables a water flow of 10 cubic metres per second. At current water usage rates, treatment plants take water at a rate of about 3.1 cubic metres per second for drinking water processing. The tunnel can be used as an emergency water reserve during water supply disruption.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เฮลซิงกิ ฟินแลนด์ อยู่ในโลกสองอุโมงค์ที่ยาวที่สุด (หลังจากท่อระบายเดลาแวร์น้ำในสหรัฐอเมริกา) มันเป็น 120 กิโลเมตร (75 ไมล์) และทำงาน 30-100 เมตรใต้พื้นผิวหิน วัตถุประสงค์ของอุโมงค์คือการ ให้น้ำสำหรับล้านตัวและคนในประเทศฟินแลนด์ในเมืองเฮลซิงกิ เอสโป ต้า Hyvinkää, Järvenpää, Kerava, Kauniainen, Kirkkonummi, Sipoo และ Tuusula อดีต Porvoo ชนบทเทศบาล ผสานกับเขตเทศบาลเมือง Porvoo ตอนนี้ ยังเอาส่วนหนึ่งในการสร้างโครงร่าง แต่ไม่มีน้ำออกจากมันสำหรับใช้ภายในประเทศอุโมงค์ที่เริ่มต้นที่ Asikkalanselkä ในทะเลสาบ Päijänne ซึ่งเป็นทะเลสาบที่ใหญ่เป็นอันดับสองในฟินแลนด์ มีพื้นที่ 1,080 ตารางกิโลเมตร อุโมงค์ลาดลงเขาเล็กน้อยเพื่อให้น้ำไหลตามธรรมชาติ น้ำจากส่วนใต้ของทะเลสาบ Päijänne และมีคุณภาพค่อนข้างดีที่อุโมงค์น้ำ และวิเศษโดยไม่ต้องประมวลผล อุโมงค์ที่สิ้นสุดที่อ่างเก็บน้ำ Silvola ในต้าในพื้นที่มากกว่าเฮลซิงกิ จากอ่างเก็บน้ำครอบคลุม 0.5 ตารางกิโลเมตร น้ำถูกสูบน้ำโรงบำบัดใน Pitkäkoski และ Vanhakaupunki ตั้งแต่อุณหภูมิต่ำคงที่ในอุโมงค์ลึกใจคุณภาพระหว่างการขนส่ง การประมวลผลน้อยที่สุดเท่าที่จำเป็นก่อนการใช้ก่อสร้างอุโมงค์ในปี 1972 และเสร็จสมบูรณ์ในปี 1982 ในราคาประมาณ €200 ล้าน (ปรับอัตราเงินเฟ้อ) [1] ในปีค.ศ. 2001 บางส่วนของอุโมงค์ต้องซ่อมเนื่องจากหินน้ำตก ใน 2008 อุโมงค์ผ่านการปรุงอย่างละเอียด ภาคใต้ของอุโมงค์ถูกเสริมแรงเพื่อป้องกัน cave-ins ในระหว่างการปรับปรุง จาก 15 เมษายน-31 ธันวาคม 2008 น้ำดิบสำหรับเขตนครเฮลซิงกิขึ้นมาจากแม่น้ำต้าอุโมงค์มีส่วนข้าม 16 ตารางเมตร (กว้างพอสำหรับรถบรรทุก) และช่วยให้การไหลของน้ำ 10 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ในปัจจุบันการใช้น้ำประปา โรงบำบัดใช้น้ำในอัตราประมาณ 3.1 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาทีสำหรับการประมวลผลของน้ำดื่ม สามารถใช้เป็นตัวสำรองฉุกเฉินน้ำอุโมงค์ระหว่างน้ำทรัพย

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ตั้งอยู่ในภาคใต้ของฟินแลนด์เป็นอุโมงค์ที่ยาวที่สุดเป็นอันดับสองของโลก (หลังจากเดลาแวร์ท่อระบายน้ำในสหรัฐอเมริกา) มันเป็น 120 กิโลเมตร (75 ไมล์) และวิ่ง 30-100 เมตรภายใต้พื้นผิวในข้อเท็จจริง วัตถุประสงค์ของอุโมงค์คือการให้น้ำจืดสำหรับล้านคนบวกในภาคใต้ของฟินแลนด์ในเมืองเฮลซิงกิโปวานตาHyvinkää, Järvenpää, Kerava, Kauniainen, Kirkkonummi, Sipoo และ Tuusula อดีตเทศบาลในเขตชนบท Porvoo ตอนนี้รวมกับเขตเทศบาลเมืองพอร์วูยังเข้ามามีส่วนในการสร้างของโครงการ แต่ไม่เคยดึงน้ำจากมันสำหรับใช้ในประเทศ. อุโมงค์เริ่มต้นที่AsikkalanselkäในทะเลสาบPäijänneซึ่งเป็นทะเลสาบที่ใหญ่เป็นอันดับสองใน ฟินแลนด์มีพื้นที่ 1,080 ตารางกิโลเมตร อุโมงค์เนินเขาเล็กน้อยลงเนินเพื่อให้น้ำที่ไหลตามธรรมชาติ น้ำจากทางตอนใต้ของทะเลสาบPäijänneมีคุณภาพค่อนข้างดีในการบริโภคอุโมงค์น้ำและมักจะดื่มได้โดยไม่ต้องมีการประมวลผล อุโมงค์สิ้นสุดที่อ่างเก็บน้ำ Silvola ในวานตาในพื้นที่มหานครเฮลซิงกิ จากอ่างเก็บน้ำครอบคลุม 0.5 ตารางกิโลเมตรสูบน้ำเพื่อบำบัดน้ำในPitkäkoskiและ Vanhakaupunki เนื่องจากอุณหภูมิต่ำคงที่ในอุโมงค์ลึกเพื่อให้แน่ใจว่ามีคุณภาพสูงในระหว่างการขนส่งเพียงการประมวลผลน้อยที่สุดจะต้องก่อนการใช้งาน. การก่อสร้างอุโมงค์เริ่มต้นในปี 1972 และเสร็จสมบูรณ์ในปี 1982 มีค่าใช้จ่ายประมาณ 200 ล้าน€ A (ปรับอัตราเงินเฟ้อ). [1] ในปี 2001 ส่วนของอุโมงค์ที่จำเป็นในการซ่อมแซมเนื่องจากร็อคฟอลส์ ในปี 2008 อุโมงค์เปลี่ยนซ่อมแซมทาสี ทางตอนใต้ของอุโมงค์เป็นคอนกรีตเพื่อป้องกันถ้ำอิน ในระหว่างการปรับปรุงจาก 15 เมษายน - 31 ธันวาคม 2008 น้ำดิบสำหรับพื้นที่มหานครเฮลซิงกิถูกดึงออกมาจากแม่น้ำ Vantaa. อุโมงค์มีภาคตัดขวางของ 16 ตารางเมตร (กว้างพอสำหรับรถบรรทุก) และช่วยให้น้ำ การไหลของ 10 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ในอัตราการใช้น้ำในปัจจุบันโรงบำบัดน้ำใช้ในอัตราประมาณ 3.1 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาทีสำหรับการประมวลผลการดื่มน้ำ อุโมงค์ที่สามารถนำมาใช้เป็นน้ำสำรองฉุกเฉินในช่วงน้ำประปาหยุดชะงัก