correlation between knowledge and p

correlation between knowledge and practice (r =0.251, p= 0.010). College related barriers and overcrowded students’ timetable
were the main perceived barriers for reading (84.8% and 79.0% respectively). Pocket books were used by 92.4% of students as medical
reference, and were the most useful source as stated by 33.3% of them. The mean time spent on online sources of reading is less
than that spent on other sources as pocket books and lecture handouts.
Conclusion: Medical students spent less time on reading and depended mainly on pocket books as they gave the desired knowledge
in short time and concise form. The stated reading barriers included college barrier, insufficient time and source barrier. There
was contradiction between students’ knowledge of the importance of reading and its actual practice.
Keywords: : Medical; Reading; Students

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ความสัมพันธ์ระหว่างความรู้และการฝึก (r = 0.251, p = 0.010) วิทยาลัยที่เกี่ยวข้องกับอุปสรรค และแน่นตารางนักเรียนมีหลักการรับรู้อุปสรรคในการอ่าน (84.8% และ 79.0% ตามลำดับ) ใช้หนังสือพ็อกเก็ต 92.4% ของนักเรียนเป็นแพทย์อ้างอิง และมีแหล่งประโยชน์มากที่สุด ตาม 33.3% ของพวกเขา เวลาเฉลี่ยที่ใช้ในออนไลน์มาอ่านได้น้อยกว่าที่ใช้ในแหล่งอื่น ๆ หนังสือพ็อกเก็ตและการบรรยายเอกสารประกอบคำบรรยายสรุป: นักศึกษาแพทย์ใช้เวลาน้อยในการอ่าน และขึ้นอยู่กับส่วนใหญ่กระเป๋าหนังสือพวกเขาให้ความรู้ต้องในระยะเวลาอันสั้นและกระชับฟอร์ม อ่านระบุอุปสรรครวมอุปสรรควิทยาลัย เวลาไม่เพียงพอ และอุปสรรคมา มีความขัดแย้งระหว่างนักเรียนรู้ความสำคัญของการอ่านและการปฏิบัติจริงได้คำสำคัญ:: แพทย์ อ่าน นักเรียน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ความสัมพันธ์ระหว่างความรู้และการปฏิบัติ (r = 0.251, p = 0.010) ปัญหาและอุปสรรคที่เกี่ยวข้องกับวิทยาลัยและตารางเวลานักเรียนแออัด '
มีการรับรู้อุปสรรคหลักสำหรับการอ่าน (84.8% และ 79.0% ตามลำดับ) หนังสือพ็อกเก็ตถูกนำมาใช้โดย 92.4% ของนักเรียนเช่นการแพทย์
การอ้างอิงและเป็นแหล่งที่มีประโยชน์มากที่สุดดังกล่าวโดย 33.3% ของพวกเขา เวลาเฉลี่ยที่ใช้ในแหล่งข้อมูลออนไลน์ของการอ่านน้อย
กว่าที่ใช้ในแหล่งอื่น ๆ เช่นกระเป๋าหนังสือและเอกสารประกอบคำบรรยายการบรรยาย.
สรุป: นักเรียนแพทย์ใช้เวลาน้อยลงในการอ่านและการขึ้นส่วนใหญ่ในหนังสือพ็อกเก็ตที่พวกเขาให้ความรู้ที่ต้องการ
ในเวลาที่สั้นและกระชับ รูป อุปสรรคในการอ่านที่ระบุไว้รวมถึงอุปสรรควิทยาลัยเวลาไม่เพียงพอและอุปสรรคที่มา มี
ความแตกต่างระหว่างความรู้ของนักเรียนที่มีความสำคัญของการอ่านและการปฏิบัติจริงที่เกิดขึ้น.
คำสำคัญ: การแพทย์; Reading; นักเรียน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ความสัมพันธ์ระหว่างความรู้และการปฏิบัติ ( r = 0.251 , p = 0.010 ) วิทยาลัยที่เกี่ยวข้องกับอุปสรรค และแออัด
ตารางเรียนของนักเรียน หลัก การรับรู้อุปสรรคสำหรับการอ่าน ( ใหญ่และร้อยละ 79.0 ตามลำดับ ) กระเป๋าหนังสือถูกใช้โดยร้อยละ 92.4 ของนักเรียนเป็นการอ้างอิงทางการแพทย์
และเป็นแหล่งที่มีประโยชน์มากที่สุดตามที่ระบุไว้โดย 33.3% ของพวกเขา เวลาเฉลี่ยที่ใช้ในแหล่งข้อมูลออนไลน์ของการอ่านน้อย
กว่าที่ใช้ในแหล่งอื่น ๆเช่น หนังสือ กระเป๋า และเอกสารประกอบการสอน บรรยาย
สรุป : นิสิตแพทย์ ใช้เวลาน้อยกว่าเวลาในการอ่านและขึ้นอยู่กับกระเป๋าหนังสือที่พวกเขาได้ต้องการความรู้
ในเวลาอันสั้นและกระชับฟอร์ม . ระบุว่า อุปสรรค ได้แก่ วิทยาลัยอ่านกั้นเวลาไม่เพียงพอ และแหล่งที่เป็นอุปสรรค มี
คือความขัดแย้งระหว่างนักเรียนมีความรู้เกี่ยวกับความสำคัญของการอ่านและการปฏิบัติจริงของ
คำสำคัญ : : แพทย์ การอ่าน นักเรียน