Learning basic process skillsNumero

Learning basic process skills
Numerous research projects have focused on the teaching and acquisition of basic process skills. For example, Padilla, Cronin, and Twiest (1985) surveyed the basic process skills of 700 middle school students with no special process skill training. They found that only 10% of the students scored above 90% correct, even at the eighth grade level. Several researchers have found that teaching increases levels of skill performance. Thiel and George (1976) investigated predicting among third and fifth graders, and Tomera (1974) observing among seventh graders. From these studies it can be concluded that basic skills can be taught and that when learned, readily transferred to new situations (Tomera, 1974). Teaching strategies which proved effective were: (1) applying a set of specific clues for predicting, (2) using activities and pencil and paper simulations to teach graphing, and (3) using a combination of explaining, practice with objects, discussions and feedback with observing. In other words-just what research and theory has always defined as good teaching.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เรียนรู้ทักษะกระบวนการขั้นพื้นฐานโครงการวิจัยจำนวนมากได้เน้นสอนและซื้อของทักษะกระบวนการขั้นพื้นฐาน ตัวอย่าง Padilla ครอเนิน และ Twiest (1985) สำรวจทักษะกระบวนการขั้นพื้นฐานของนักเรียนมัธยม 700 กับไม่ฝึกทักษะกระบวนการพิเศษ พวกเขาพบว่า เพียง 10% ของนักเรียนคะแนนเหนือ 90% ถูก แม้แต่ในระดับชั้นประถมศึกษาปีแปด นักวิจัยต่าง ๆ พบว่า สอนเพิ่มระดับของประสิทธิภาพการทำงานทักษะ Thiel และจอร์จ (1976) ตรวจสอบคาดการณ์นักเรียนสาม และห้า และ Tomera (1974) สังเกตระหว่างนักเรียนชั้นเจ็ด จากการศึกษานี้สามารถสรุปว่า สามารถสอนทักษะพื้นฐานและเมื่อได้เรียนรู้ พร้อมแล้วกับสถานการณ์ใหม่ (Tomera, 1974) กลยุทธ์การสอนที่พิสูจน์ผลได้: (1) ใช้ชุดของข้อมูลเฉพาะสำหรับการคาดการณ์, (2) ใช้ดินสอและกระดาษจำลองและกิจกรรมสอนฝึกสร้างกราฟ และ (3) ใช้อธิบาย วัตถุ สนทนา และผลตอบสนองพร้อมสังเกต ในอื่น ๆ คำเพียงวิจัยอะไร และจะมีกำหนดทฤษฎีเป็นสอนดี

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การเรียนรู้ทักษะกระบวนการพื้นฐาน
โครงการวิจัยจำนวนมากได้มุ่งเน้นไปที่การเรียนการสอนและการเข้าซื้อกิจการของทักษะกระบวนการพื้นฐาน ตัวอย่างเช่นอาภัพโครนินและ Twiest (1985) สำรวจทักษะกระบวนการพื้นฐานของ 700 นักเรียนมัธยมด้วยการฝึกอบรมทักษะกระบวนการพิเศษ พวกเขาพบว่ามีเพียง 10% ของนักเรียนทำคะแนนได้สูงกว่า 90% ที่ถูกต้องแม้ในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่แปด นักวิจัยหลายคนได้พบว่าการเรียนการสอนเพิ่มระดับของการปฏิบัติงานทักษะ Thiel และจอร์จ (1976) การตรวจสอบคาดการณ์ในหมู่นักเรียนระดับประถมสามและห้าและ Tomera (1974) การสังเกตในหมู่คารมที่เจ็ด จากการศึกษาเหล่านี้สามารถสรุปได้ว่าทักษะพื้นฐานที่สามารถสอนและเรียนรู้ว่าเมื่อย้ายพร้อมกับสถานการณ์ใหม่ (Tomera, 1974) กลยุทธ์การสอนที่พิสูจน์แล้วว่ามีประสิทธิภาพ ได้แก่ (1) การใช้ชุดของเบาะแสที่เฉพาะเจาะจงในการทำนาย (2) ใช้กิจกรรมและดินสอกระดาษและแบบจำลองในการสอนกราฟและ (3) โดยใช้การรวมกันของการอธิบายการปฏิบัติกับวัตถุการอภิปรายและข้อเสนอแนะ ด้วยการสังเกต ในคำอื่น ๆ เพียงแค่สิ่งที่การวิจัยและทฤษฎีที่ได้กำหนดเสมอการเรียนการสอนที่ดี

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ทักษะการเรียนรู้
กระบวนการพื้นฐานหลายโครงการวิจัยได้มุ่งเน้นการสอนและการพัฒนาทักษะกระบวนการขั้นพื้นฐาน ตัวอย่างเช่น พาดิลลา โครนิน และ twiest , ( 1985 ) สำรวจกระบวนการทักษะพื้นฐานของ 700 นักเรียนมัธยมไม่มีกระบวนการทักษะพิเศษฝึกอบรม พวกเขาพบว่ามีเพียง 10% ของนักเรียนได้คะแนนสูงกว่า 90% ถูกต้อง แม้ในระดับเกรดนักวิจัยหลายคนได้พบว่า การเพิ่มระดับของการปฏิบัติทักษะ และ จอร์จ ทิล ( 1976 ) ได้ทำนายระหว่างสามและห้านักเรียน และ tomera ( 1974 ) การสังเกตของนักเรียนที่เจ็ด จากการศึกษานี้สามารถสรุปได้ว่า ทักษะพื้นฐานที่สามารถสอน และเมื่อเรียนรู้ พร้อมโอน สภาพใหม่ ( 1974 tomera )กลวิธีการสอน ซึ่งพิสูจน์แล้วว่ามีประสิทธิภาพคือ ( 1 ) การใช้ชุดของข้อมูลที่เฉพาะเจาะจงสำหรับพยากรณ์ ( 2 ) การจัดกิจกรรม และใช้ดินสอและกระดาษที่สอนกราฟ และ ( 3 ) การรวมกันของการอธิบายการปฏิบัติกับวัตถุ การอภิปรายและข้อเสนอแนะกับการสังเกต ในคำอื่น ๆสิ่งที่งานวิจัยและทฤษฎีได้เสมอ เช่น การสอนที่ดี