Music of the Trecento retained some

Music of the Trecento retained some characteristics of the preceding age, and began to foreshadow the Renaissance in others.
Consonances were unison, fifth and octave, just as in the ars antiqua, and the interval of a third was usually treated as a dissonance, especially earlier in the period. Parallel motion in unison, fifths, octaves, thirds, and occasionally fourths was used in moderation. Composers used passing tones to avoid parallel intervals, creating brief harsher dissonances, foreshadowing the style of counterpoint developed in the Renaissance. After 1350, there was increased use of triads in three-part writing, giving the music, to a modern ear, a tonal feeling. Accidentals occurred more frequently in music of the Trecento than in music of earlier eras; in particular, there was use of F♯, C♯, G♯, B♭, and E♭. One A♭ occurs in the works of Landini.
The Landini sixth, also known as the Landini cadence or under-third cadence, is a cadence involving the melodic drop from the seventh to the sixth before going up again to the octave. It was named after Landini because of its frequent use in his music. It was, however, not invented by him, and can be found in most of the music of the period.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เพลงของ Trecento ที่รักษาลักษณะบางอย่างของยุคก่อนหน้านี้ และเริ่มการ foreshadow เรอเนสซองซ์ในผู้อื่นConsonances ได้พร้อมเพรียง ห้า และอ็อกเท ฟ เดียว antiqua อาอาร์ส และช่วงที่สามถูกมักจะเป็น dissonance โดยเฉพาะอย่างยิ่งก่อนหน้านี้ในรอบระยะเวลา เคลื่อนไหวคู่ขนานหัวใจ fifths, octaves สาม และบางครั้ง fourths ถูกใช้ในการดูแล คีตกวีใช้โทนผ่านเพื่อหลีกเลี่ยงช่วงคู่ขนาน การสร้าง dissonances harsher ย่อ foreshadowing ลักษณะของ counterpoint พัฒนาในเรเนสซอง หลังจาก 1350 มีวันในสามส่วน ใช้เพิ่มขึ้นให้เพลง หูทันสมัย ความรู้สึกสูงต่ำ Accidentals เกิดขึ้นบ่อยในเพลงของ Trecento กว่าเพลงของช่วงก่อนหน้า โดยเฉพาะ มีการใช้ F♯, C♯, G♯, B♭ และ E♭ A♭ หนึ่งเกิดขึ้นในงานของ LandiniLandini หก เรียกอีก อย่างว่า Landini ลีลาหรือน้อยสามลีลา เป็นลีลาที่เกี่ยวข้องกับปล่อยดนตรีจากเจ็ดไปหกก่อนขึ้นอีกอ็อกเทฟ ถูกตั้งชื่อหลังจาก Landini เพราะใช้บ่อยในเพลงของเขา มัน ได้ อย่างไรก็ตาม ไม่คิดค้น โดยเขา และสามารถพบส่วนใหญ่เพลงของรอบระยะเวลา

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เพลงของ Trecento สะสมลักษณะบางอย่างของยุคก่อนหน้านี้และเริ่มที่จะส่อให้เห็นยุคฟื้นฟูศิลปวิทยาในคนอื่น ๆ .
Consonances เป็นพร้อมเพรียงห้าและคู่เช่นเดียวกับใน ARS Antiqua และช่วงที่สามได้รับการรักษามักจะเป็นความไม่สอดคล้องกันโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ก่อนหน้านี้ในช่วงเวลา การเคลื่อนไหวคู่ขนานในเวลาเดียวกัน, เศษ, เลอะเลือน, สาม, สี่และบางครั้งถูกนำมาใช้ในปริมาณที่พอเหมาะ คีตกวีที่ใช้ผ่านเสียงเพื่อหลีกเลี่ยงช่วงเวลาคู่ขนาน, การสร้าง dissonances กระด้างสั้นแววรูปแบบของความแตกต่างได้รับการพัฒนาในยุคฟื้นฟูศิลปวิทยา หลังจากที่ 1350, มีการเพิ่มการใช้ของ triads ในการเขียนสามส่วนให้เพลงเพื่อหูที่ทันสมัย, ความรู้สึกวรรณยุกต์ Accidentals ที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งมากขึ้นในเพลงของ Trecento กว่าในเพลงในยุคก่อนหน้านี้; โดยเฉพาะอย่างยิ่งมีการใช้F♯, C♯, G♯, B ♭และ E ♭ หนึ่ง♭เกิดขึ้นในการทำงานของ Landini.
Landini หกยังเป็นที่รู้จักจังหวะ Landini หรือภายใต้สามจังหวะคือจังหวะที่เกี่ยวข้องกับการลดลงไพเราะจากเจ็ดหกก่อนที่จะขึ้นอีกครั้งเพื่อคู่ มันเป็นชื่อหลังจาก Landini เพราะใช้บ่อยในเพลงของเขา มันถูก แต่ไม่ได้คิดค้นโดยเขาและสามารถพบได้ในส่วนของเพลงของรอบระยะเวลา

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เพลงของ trecento สะสมลักษณะบางอย่างของที่มีอายุ และเริ่มตั้งท่ายุคฟื้นฟูศิลปวิทยาในคนอื่น ๆ .
consonances มีความพร้อมเพรียงกัน ห้า และเสียง เหมือนใน Ars แอนติคควา และช่วงที่สามคือมักจะได้รับการปฏิบัติอย่างไม่สอดคล้องกัน โดยก่อนหน้านี้ในช่วง ขนานเคลื่อนไหวในพร้อมเพรียงกันห้า คีย์สาม และบางครั้ง fourths ใช้พอประมาณผู้แต่งใช้ผ่านเสียงเพื่อหลีกเลี่ยงช่วงเวลาสั้นๆสำหรับ dissonances ขนาน , การสร้าง , สไตล์ของ counterpoint foreshadowing พัฒนาในยุค . หลังจากเปิด มีการใช้ที่เพิ่มขึ้นของพวกมันใน 3 ส่วนที่เขียนให้เพลงเพื่อหูทันสมัย รู้สึกว่า วรรณยุกต์ accidentals เกิดขึ้นบ่อยในเพลงของ trecento กว่าเพลงในยุคก่อนหน้า ; โดยเฉพาะอย่างยิ่งมีการใช้♯ F , C ♯ G ♯♭ B และ E ♭ . หนึ่ง♭เกิดขึ้นในงานของ landini .
landini ที่หก หรือที่เรียกว่า landini จังหวะหรือภายใต้จังหวะที่สาม เป็นจังหวะที่เกี่ยวข้องกับวางไพเราะจากที่เจ็ดหกก่อนที่จะขึ้นอีกครั้งที่ความถี่ มันเป็นชื่อหลังจาก landini เพราะใช้บ่อยในดนตรีของเขา มันเป็น , อย่างไรก็ตาม , ไม่ได้ถูกคิดค้นโดยเขาและสามารถพบได้ในส่วนของ ดนตรี ของระยะเวลา