Agriculture is the leading sector i

Agriculture is the leading sector in Indonesian economy. The production has increased but it does not accordingly always increase farmer's income. Farmers still face the lowest bargaining power in selling their produces in which they become the price taker at farm gate. Thus marketing practice that may influence the selling price and accordingly will lead to an increase in farmers' income is being important. CRS Indonesia, particularly the Agriculture Program, has implemented Rural Agro-enterprise Development (RAeD) Project (2004-2008) in collaboration with 9 local NGOs [nongovernmental organizations] in 6 provinces in Indonesia. RAeD project put emphasis in marketing where farmers can sell their produces and accordingly will increase their access to market and cash income. During the implementation of the project, CRS Indonesia conducted monitoring and evaluation in which questionnaire survey was conducted every year. This paper aims to 1) document the implementation of RAeD project and 2) analyze the impact of joint marketing in increasing farmers' income. Joint (collective) marketing through farmer groups or associations that conducted agreements with their business partners or buyers. The principles of the joint marketing are: 1) direct selling to final consumers or manufacturers, avoiding dealing with the middlemen, 2) shortening the marketing channels, and 3) selling the products collectively, especially in the some territory (territorial approach). The selling price of the products is the same as the on-going price in the market, but farmers were able to receive higher prices compared to the conventional marketing practices due to the marketing margin by conducting direct selling and shortening the marketing channels. Farmer groups or associations protected farmers from receiving price lower than the market price, thus market survey was conducted regularly by the farmer groups or associations. Farmers have earned higher income through the joint marketing and hopefully it can be implemented in other areas.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เกษตรเป็นภาคนำเศรษฐกิจของอินโดนีเซีย การผลิตได้เพิ่มขึ้น แต่มันไม่ตามจะเพิ่มรายได้ของเกษตรกร เกษตรกรยังคงเผชิญอำนาจต่อรองต่ำสุดในการขายผลิตผลของพวกเขาที่พวกเขากลายเป็นคนรับราคาที่ประตูฟาร์ม ดังนั้น การตลาดปฏิบัติที่อาจมีผลต่อราคาขาย และตามความเหมาะสม จะนำไปสู่การเพิ่มขึ้นของรายได้เกษตรกร เป็นสำคัญ CRS อินโดนีเซีย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกษตรโปรแกรม ได้ดำเนินโครงการพัฒนา (RAeD) องค์กรเกษตรชนบท (2004-2008) ร่วมกับ 9 ใน 6 จังหวัดในอินโดนีเซียท้องถิ่น Ngo [องค์กรเอกชน] โครงการ rAeD ใส่เน้นในด้านการตลาดที่เกษตรกรสามารถขายผลิตผลของพวกเขา และดังนั้น จะเพิ่มการเข้าถึงตลาดและเงินรายได้ ในระหว่างการดำเนินงานของโครงการ CRS อินโดนีเซียดำเนินการติดตามและประเมินผลในแบบสอบถามที่สำรวจทุกปี กระดาษนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เอกสารการดำเนินงานของโครงการ RAeD และ 2) วิเคราะห์ผลกระทบของการตลาดที่ร่วมในการเพิ่มรายได้เกษตรกร กิจการร่วมค้า (ร่วม) การตลาดผ่านกลุ่มเกษตรกรหรือสมาคมที่ดำเนินการตกลงกับคู่ค้าหรือผู้ซื้อ หลักการของการตลาดร่วมที่มี: 1) ขายตรงหลีกเลี่ยงจัดการกับพ่อค้าคนกลาง 2) ช่องทางการตลาด เนยขาว ผู้ผลิตหรือผู้บริโภคขั้นสุดท้ายและ 3) ขายผลิตภัณฑ์รวม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในบางอาณาเขต (อาณาเขตวิธี) ราคาขายของผลิตภัณฑ์จะเหมือนกับราคาที่จะในตลาด แต่เกษตรกรได้รับราคาที่สูงขึ้นเมื่อเทียบกับการปฏิบัติทางการตลาดทั่วไปเนื่องจากหลักประกันด้านการตลาด โดยดำเนินการขายโดยตรง และลดช่องทางการตลาด กลุ่มเกษตรกรหรือสมาคมป้องกันเกษตรกรได้รับราคาที่ต่ำกว่าราคาตลาด ดังนั้น ตลาดสำรวจเป็นประจำ โดยกลุ่มเกษตรกรหรือสมาคม เกษตรกรได้รับรายได้ที่สูงขึ้นผ่านการตลาดร่วม และหวังว่าจะสามารถดำเนินการในพื้นที่อื่น ๆ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เกษตรกรรมเป็นภาคเศรษฐกิจชั้นนำในอินโดนีเซีย การผลิตได้เพิ่มขึ้น แต่ก็ไม่ได้ตามเสมอเพิ่มรายได้ของเกษตรกร เกษตรกรยังคงต้องเผชิญกับอำนาจต่อรองต่ำสุดในการขายของพวกเขาผลิตซึ่งทำให้พวกเขากลายเป็นคนรับราคาหน้าฟาร์ม ดังนั้นการปฏิบัติทางการตลาดที่อาจมีผลต่อราคาขายและตามจะนำไปสู่การเพิ่มขึ้นของรายได้เกษตรกรจะเป็นสิ่งที่สำคัญ CRS อินโดนีเซียโดยเฉพาะอย่างยิ่งโครงการเกษตรได้ดำเนินการพัฒนาชนบทเกษตรองค์กร (เรด) โครงการ (2004-2008) ร่วมกับ 9 องค์กรพัฒนาเอกชนในท้องถิ่น [องค์กรพัฒนาเอกชน] ใน 6 จังหวัดในอินโดนีเซีย โครงการเรดให้ความสำคัญในด้านการตลาดที่เกษตรกรสามารถขายผลิตของพวกเขาและจะเพิ่มขึ้นตามการเข้าถึงตลาดและเงินรายได้ ในระหว่างการดำเนินการของโครงการ CRS อินโดนีเซียดำเนินการติดตามและประเมินผลซึ่งในการสำรวจแบบสอบถามได้ดำเนินการเป็นประจำทุกปี กระดาษนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เอกสารการดำเนินงานของโครงการเรดและ 2) การวิเคราะห์ผลกระทบของการตลาดร่วมกันในการเพิ่มรายได้ของเกษตรกร ร่วม (รวม) ตลาดผ่านกลุ่มเกษตรกรหรือสมาคมที่ดำเนินการทำสัญญากับคู่ค้าทางธุรกิจหรือผู้ซื้อของพวกเขา หลักการของการตลาดร่วมกันคือ 1) การขายตรงให้กับผู้บริโภคขั้นสุดท้ายหรือผู้ผลิต, หลีกเลี่ยงการติดต่อกับพ่อค้าคนกลาง 2) การตัดทอนช่องทางการตลาดและ 3) การขายผลิตภัณฑ์รวมโดยเฉพาะอย่างยิ่งในดินแดนบางส่วน (วิธีการดินแดน) ราคาขายของผลิตภัณฑ์ที่เป็นเช่นเดียวกับราคาที่กำลังอยู่ในตลาด แต่เกษตรกรก็สามารถที่จะได้รับราคาที่สูงขึ้นเมื่อเทียบกับการตลาดแบบเดิมเนื่องจากค่าการตลาดโดยการดำเนินการขายตรงและสั้นลงช่องทางการตลาด กลุ่มเกษตรกรหรือสมาคมการคุ้มครองเกษตรกรจากการได้รับราคาที่ต่ำกว่าราคาตลาดสำรวจตลาดจึงได้ดำเนินการเป็นประจำโดยกลุ่มเกษตรกรหรือสมาคม เกษตรกรมีรายได้สูงกว่ารายได้ผ่านตลาดร่วมกันและหวังว่าจะสามารถดำเนินการในพื้นที่อื่น ๆ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เกษตรกรรมเป็นภาคเศรษฐกิจชั้นนำในอินโดนีเซีย ทำให้ผลผลิตเพิ่มขึ้นแต่ก็ไม่ได้ตามเสมอ เพิ่มรายได้ของเกษตรกร เกษตรกรยังคงเผชิญกับอำนาจการต่อรองต่ำสุดในการขายผลิตผลของที่พวกเขากลายเป็นราคาข้อมูลประตูฟาร์ม ดังนั้นการตลาดการปฏิบัติที่อาจมีผลต่อราคาขายตามและจะนำไปสู่การเพิ่มขึ้นของรายได้ของเกษตรกรเป็นสำคัญ CRS อินโดนีเซีย โดยเฉพาะการเกษตรโครงการ ได้ดำเนินการพัฒนาองค์กรเกษตรชนบท ( raed ) โครงการ ( 2004-2008 ) ในความร่วมมือกับท้องถิ่น เอ็นจีโอ องค์กรสิทธิมนุษยชน [ 9 ] ใน 6 จังหวัดในประเทศอินโดนีเซีย raed โครงการวางเน้นในตลาดที่เกษตรกรสามารถขายผลิตผลของตามและจะเพิ่มการเข้าถึงตลาดและรายได้เงินสด ระหว่างการดำเนินงานของโครงการ การติดตามและประเมินผล CRS อินโดนีเซียซึ่งในแบบสอบถามได้ดำเนินการทุกปี บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1 ) เอกสารที่ใช้ raed โครงการ และ 2 ) ศึกษาผลกระทบของการตลาดร่วมกันในการเพิ่มรายได้เกษตรกร ร่วม ( collective ) การตลาดผ่านกลุ่มหรือสมาคมที่จัดทำข้อตกลงกับคู่ค้าทางธุรกิจของตน หรือผู้ซื้อ หลักการของการตลาดร่วมกัน คือ 1 ) การขายโดยตรงให้กับผู้บริโภคขั้นสุดท้ายหรือผู้ผลิต หลีกเลี่ยงการติดต่อกับเกษตรกร 2 ) ลดช่องทางการตลาด และ 3 ) การขายผลิตภัณฑ์โดยรวม โดยเฉพาะในบางพื้นที่ ( น่านแนวทาง ) ราคาขายของผลิตภัณฑ์เป็นเช่นเดียวกับในราคา ในตลาด แต่เกษตรกรจะได้รับราคาที่สูงขึ้นเมื่อเทียบกับวิธีทางการตลาดการปฏิบัติเนื่องจากขอบการตลาด โดยทำการขายโดยตรงและสั้นลงช่องทางการตลาด กลุ่มหรือสมาคมคุ้มครองเกษตรกรได้รับราคาต่ำกว่าราคาตลาด การสำรวจตลาด จึงดำเนินการเป็นประจำ โดยเกษตรกรกลุ่มหรือสมาคม เกษตรกรได้รับรายได้ผ่านการตลาดร่วมกัน และหวังว่าจะสามารถดำเนินการในพื้นที่อื่น ๆ