Piaget introduced the concept of co

Piaget introduced the concept of cognitive conflict or cognitive dissonance (which will not be distinguished here).In the social constructivist account of mathematics, this has a parallel with the emergence of a formal inconsistency , or a conflict between a formal axiom system and the informal mathematical system that is its source (Lagatos,1978). This is analogous to cognitive conflict, which there is conflict between two schemas , due to inconsistency or conflicting outcomes. In psychology, this is resolved through the accommodation of one or both of the schemas. Likewise in mathematics, or in science , this stimulates revolutionary developments of new theories.
Overall, there is a striking analogy between theory growth and conflict in the social constructivist philosophy of mathematics and schema theory in psychology, and underlying it, between theories and schemas. Unlike the situation in the philosophy of mathematics, schema theory, as sketched above, represent the received view in psychology, lending support to a psychological parallel for social constructivism.
C .Reification and Concept Formation
The social constructivist philosophy of mathematics distinguisher two modes of concept development , vertical processes of concept formation, involving the reification of concepts into objects, and horizontal processes . These can be elaborated as part of a psychological parallel to social constructivism.
We may conjecture that psychological concept formation involves both vertical and horizontal processes. The vertical processes include the standard processes of concept formation, namely the generalization and abstraction of shared features of earlier formed concept to from new concept. Beyond this, we conjectures the existence of a psychological mechanism or tendency which transforms mental procedures or processes into objects. This mechanism changes a property , a construction, a process, or an incomplete collection into mental object, a complete thing-in-itself. What is represented as a process, a verb or an adjective becomes represented as a noun . This is ‘reification’ or ‘objectification’ . Psychologically , much concept formation has this character . Even in the act of coordinating different perception of an external object, in sensory concept formation, we reify the set of perception into the concept , an enduring object- representation in a schema.
There is some parallel between this conjectured ‘vertical’ mechanism and Piaget ‘s notion of reflective abstraction , the process whereby an individual’s operation, both physical and mental, become represented cognitively as concepts. Thus reflective abstraction includes concept reification, although the former is a broader notion.
A number of other researchers have proposed psychological theories notion. Specifically with concept reification (Skemp,1971). Dubinsky (1988,1989)includes ‘encapsulation’ as part of his explication of the notion of reflective abstraction. Encapsulation converts a subjective mathematical process into an object, by seeing it as a total entity. Sfard (1987,1989)has been testing a theory of mathematical concept development, in which operational concept are transformed into structural concepts, by a process of reification. Both these researchers have empirical data consistent with the hypothesis that a process of encapsulation or reification occurs in vertical concept formation. Parallel to the social constructivist account, and accounting for subjective belief in Platonism.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ปียาแฌนำแนวคิดของความขัดแย้งที่รับรู้หรือประชาน dissonance (ซึ่งจะไม่แตกต่างที่นี่)ในบัญชีแบบสร้างสรรค์นิยมทางสังคมของคณิตศาสตร์ นี้ต้องมีควบคู่กับการเกิดขึ้นของความไม่สอดคล้องทาง หรือความขัดแย้งระหว่างระบบสัจพจน์ทางคณิตศาสตร์ระบบเป็นที่แหล่ง (Lagatos, 1978) นี่คือคู่แย้งที่รับรู้ ซึ่งเป็นความขัดแย้งระหว่างสองแผน เนื่องจากไม่สอดคล้องหรือขัดแย้งผล ในด้านจิตวิทยา นี่คือแก้ไขผ่านของหรือแบบแผน ในทำนองเดียวกัน ในวิชาคณิตศาสตร์ หรือวิทยาศาสตร์ นี้ช่วยกระตุ้นพัฒนาปฏิวัติของทฤษฎีใหม่
โดยรวม มีคำว่าโดดเด่นระหว่างทฤษฎีการเจริญเติบโตและความขัดแย้งในปรัชญาสังคมแบบสร้างสรรค์นิยมของวิชาคณิตศาสตร์และแบบแผนทฤษฎีจิตวิทยา และต้น ทฤษฎีและแบบแผน ซึ่งแตกต่างจากสถานการณ์ในปรัชญาของคณิตศาสตร์ ทฤษฎีแผน เป็นร่างแผนข้างต้น แสดงได้รับมุมมองในด้านจิตวิทยา สินเชื่อสนับสนุนคู่ขนานทางจิตวิทยาสำหรับสังคมศิลปะเค้าโครง
CReification และการก่อตัวของแนวคิด
ปรัชญาสังคมแบบสร้างสรรค์นิยมของคณิตศาสตร์ distinguisher สองโหมดการพัฒนาแนวคิด แนวตั้งกระบวนการก่อตัวของแนวคิด เกี่ยวข้องกับ reification ของแนวคิดในวัตถุ และกระบวนการแนวนอน เหล่านี้สามารถ elaborated เป็นส่วนหนึ่งของจิตใจคู่ขนานสังคมศิลปะเค้าโครงได้
เราอาจนึกว่า กำเนิดแนวคิดทางจิตวิทยาเกี่ยวข้องกับกระบวนการทั้งแนวตั้ง และแนวนอนได้ กระบวนการแนวตั้งรวมมาตรฐานกระบวนการของการก่อตัวของแนวคิด ได้แก่ generalization และ abstraction คุณลักษณะที่ใช้ร่วมกันก่อนหน้านี้มีรูปแบบแนวคิดไปจากแนวคิดใหม่ นอกเหนือจากนี้ เรา conjectures การดำรงอยู่ของกลไกทางจิตใจหรือแนวโน้มที่แปลงจิตขั้นตอนหรือกระบวนการเป็นวัตถุ กลไกนี้เปลี่ยนแปลงคุณสมบัติ สร้าง กระบวนการ หรือคอลเลกชันที่สมบูรณ์ในวัตถุจิต thing-in-itself สมบูรณ์ อะไรจะแสดงจะแสดงกระบวนการ คำกริยา หรือคำคุณศัพท์เป็นคำนาม นี่คือ 'reification' หรือ 'objectification' Psychologically ก่อแนวคิดมากได้ตัวละครตัวนี้ แม้ในการกระทำของการรับรู้ที่แตกต่างกันภายนอกวัตถุ ในการก่อตัวของแนวคิดทางประสาทสัมผัส การประสานงานเรา reify ชุดรับรู้เป็นแนวคิด ความยั่งยืนวัตถุแสดงใน schema
มีบางขนานระหว่างนี้ conjectured 'แนวตั้ง' กลไกและแนวคิดของปียาแฌของ abstraction สะท้อนแสง กระบวนการโดยการดำเนินงานของแต่ละบุคคล กาย และจิต ใจ เป็นแสดง cognitively เป็นแนวคิด จึง สะท้อน abstraction รวมแนวคิด reification แม้ว่าในอดีตมีความกว้าง
จำนวนนักวิจัยอื่น ๆ ได้เสนอทฤษฎีทางจิตวิทยาความ โดยเฉพาะกับแนวคิด reification (Skemp, 1971) Dubinsky (1988,1989) รวมถึง 'encapsulation' เป็นส่วนหนึ่งของเขา explication แนวคิดของ abstraction สะท้อนแสง Encapsulation แปลงเป็นกระบวนการทางคณิตศาสตร์ตามอัตวิสัยเป็นวัตถุ โดยเห็นเป็นเอนทิตีทั้งหมด Sfard (19871989) มีการทดสอบทฤษฎีการพัฒนาแนวคิดทางคณิตศาสตร์ ในแนวคิดการดำเนินงานจะเปลี่ยนเป็นแนวคิดโครงสร้าง กระบวนการของ reification ข้อมูลสอดคล้องกับสมมติฐานที่ว่า กระบวนการ encapsulation หรือ reification เกิดก่อตัวแนวตั้งแนวคิดรวมทั้งนักวิจัยเหล่านี้ได้ แบบขนานการบัญชีแบบสร้างสรรค์นิยมทางสังคม และบัญชีสำหรับความเชื่อตามอัตวิสัยใน Platonism

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เพียเจต์แนะนำแนวคิดของความขัดแย้งทางปัญญาหรือประสานองค์ (ที่จะไม่ประสบความสำเร็จที่นี่) ในบัญชีคอนสตรัคติทางสังคมของคณิตศาสตร์ที่มีขนานกับการเกิดขึ้นของความไม่สอดคล้องกันอย่างเป็นทางการหรือความขัดแย้งระหว่างระบบความจริงที่เป็นทางการและไม่เป็นทางการ ระบบทางคณิตศาสตร์ที่เป็นแหล่งที่มาของ (Lagatos, 1978) นี้จะคล้ายคลึงกับความขัดแย้งทางปัญญาซึ่งมีความขัดแย้งระหว่างสอง schemas เนื่องจากไม่สอดคล้องกันหรือผลลัพธ์ที่ขัดแย้งกัน ในด้านจิตวิทยานี้ได้รับการแก้ไขผ่านที่พักของหนึ่งหรือทั้งสอง schemas ในทำนองเดียวกันในวิชาคณิตศาสตร์หรือวิทยาศาสตร์นี้จะช่วยกระตุ้นการพัฒนาปฏิวัติของทฤษฎีใหม่
โดยรวมมีการเปรียบเทียบการเจริญเติบโตที่โดดเด่นระหว่างทฤษฎีและความขัดแย้งในสังคมคอนสตรัคติปรัชญาของคณิตศาสตร์และทฤษฎีคีในด้านจิตวิทยาและพื้นฐานมันระหว่างทฤษฎีและแผนผัง ซึ่งแตกต่างจากสถานการณ์ในปรัชญาของคณิตศาสตร์ทฤษฎีคีเป็นร่างข้างต้นเป็นตัวแทนของมุมมองที่ได้รับในด้านจิตวิทยาการให้การสนับสนุนทางด้านจิตใจขนานสำหรับ constructivism สังคม
C .Reification และแนวคิดการพัฒนา
คอนสตรัคติปรัชญาสังคมของคณิตศาสตร์ประกายสองโหมดของแนวคิด การพัฒนากระบวนการในแนวตั้งของการพัฒนาแนวความคิดที่เกี่ยวข้องกับการทำให้เป็นจริงของแนวความคิดเป็นวัตถุและกระบวนการในแนวนอน เหล่านี้สามารถอธิบายเป็นส่วนหนึ่งของคู่ขนานทางจิตวิทยาเพื่อ constructivism สังคม
เราอาจจะคาดเดาว่าการก่อแนวคิดทางจิตวิทยาที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการทั้งในแนวตั้งและแนวนอน กระบวนการแนวตั้งรวมถึงกระบวนการมาตรฐานของการพัฒนาแนวความคิดคือลักษณะทั่วไปและนามธรรมของคุณสมบัติที่ใช้ร่วมกันของแนวคิดที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ที่จะมาจากแนวความคิดใหม่ นอกเหนือจากนี้เราคาดเดาการดำรงอยู่ของกลไกทางจิตวิทยาหรือแนวโน้มที่แปลงขั้นตอนกระบวนการทางจิตหรือเป็นวัตถุ กลไกนี้มีการเปลี่ยนแปลงสถานที่ให้บริการการก่อสร้างกระบวนการหรือคอลเลกชันที่ไม่สมบูรณ์เป็นวัตถุทางจิตที่สมบูรณ์สิ่งในตัวของมันเอง สิ่งที่จะแสดงเป็นกระบวนการที่คำกริยาหรือคำคุณศัพท์จะแสดงเป็นคำนาม นี่คือ 'ทำให้เป็นจริง' หรือ 'รูปธรรม' จิตใจการสร้างแนวคิดมากมีตัวละครตัวนี้ แม้จะอยู่ในการกระทำของการประสานงานการรับรู้ที่แตกต่างกันของวัตถุภายนอกในการสร้างแนวความคิดทางประสาทสัมผัสที่เราทำให้เป็นจริงชุดของการรับรู้เป็นแนวคิดการเป็นตัวแทนวัตถุยั่งยืนในคี
มีขนานระหว่างนี้คาดคะเนกลไก 'แนว' เพียเจต์และบางส่วนเป็น ของความคิดของสิ่งที่เป็นนามธรรมสะท้อนกระบวนการโดยการดำเนินงานของแต่ละบุคคลทั้งทางร่างกายและจิตใจเป็นตัวแทน cognitively เป็นแนวคิด ดังนั้นสิ่งที่เป็นนามธรรมสะท้อนแสงรวมถึงแนวความคิดที่ทำให้เป็นจริงแม้ว่าอดีตเป็นความคิดที่กว้างขึ้น
จำนวนของนักวิจัยอื่น ๆ ได้เสนอทฤษฎีทางจิตวิทยาความคิด โดยเฉพาะกับแนวคิดที่ทำให้เป็นจริง (Skemp, 1971) Dubinsky (1988,1989) รวมถึง 'การห่อหุ้ม' เป็นส่วนหนึ่งของการอธิบายของเขาในความคิดของความเป็นนามธรรมสะท้อนแสง encapsulation แปลงกระบวนการทางคณิตศาสตร์อัตนัยเป็นวัตถุโดยเห็นว่ามันเป็นนิติบุคคลทั้งหมด Sfard (1987,1989) ได้รับการทดสอบทฤษฎีของการพัฒนาแนวความคิดทางคณิตศาสตร์ซึ่งแนวคิดในการดำเนินงานจะกลายเป็นแนวความคิดโครงสร้างโดยกระบวนการของการทำให้เป็นจริง ทั้งนักวิจัยเหล่านี้มีข้อมูลเชิงประจักษ์ที่สอดคล้องกับสมมติฐานที่ว่ากระบวนการของการห่อหุ้มหรือทำให้เป็นจริงที่เกิดขึ้นในการสร้างแนวความคิดในแนวตั้ง ขนานไปกับบัญชีคอนสตรัคติทางสังคมและการบัญชีสำหรับความเชื่ออัตนัยใน Platonism

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เพียเจต์ แนะนำแนวคิดของความขัดแย้งทางปัญญาหรือความไม่สอดคล้องกัน ( ซึ่งจะไม่โดดเด่นในสังคมที่นี่ แนวคิดคอนสตรัคติวิสต์ บัญชี คณิตศาสตร์ นี้ขนานกับการเกิดขึ้นของความเป็นทางการ หรือความขัดแย้งระหว่างระบบสัจพจน์ที่เป็นทางการและไม่เป็นทางการ ทางคณิตศาสตร์ ระบบที่เป็นแหล่งของ ( lagatos , 1978 ) นี้จะคล้ายคลึงกับความขัดแย้งทางปัญญาซึ่งมีความขัดแย้งระหว่างสองร่าง เนื่องจากความไม่สอดคล้องกันหรือผลที่ขัดแย้งกัน ในจิตวิทยานี้จะแก้ไขได้ผ่านสถานที่ตั้งของหนึ่งหรือทั้งสองของร่าง . อนึ่งในทางคณิตศาสตร์ หรือวิทยาศาสตร์ ซึ่งช่วยกระตุ้นพัฒนาการของทฤษฎีปฏิวัติใหม่
รวมมีคล้ายคลึงโดดเด่นระหว่างทฤษฎี และความขัดแย้งในสังคม ตามแนวคิดปรัชญาของคณิตศาสตร์และความเข้าใจในทฤษฎีจิตวิทยา และอ้างอิงได้ ระหว่างทฤษฎี และกำหนดว่า ซึ่งแตกต่างจากสถานการณ์ในปรัชญาของคณิตศาสตร์ของทฤษฎีที่เขียนข้างต้น แสดงได้รับมุมมองในจิตวิทยายืมการสนับสนุนเพื่อขนานจิตสรรค์สังคม .
c . reification แนวคิดการสร้างความรู้เชิงสังคมและปรัชญาคณิตศาสตร์
distinguisher สองโหมดของการพัฒนาแนวคิด กระบวนการแนวตั้งของการพัฒนาแนวคิดที่เกี่ยวข้องกับ reification แนวคิดเป็นวัตถุ และกระบวนการในแนวนอนเหล่านี้สามารถอธิบายเป็นส่วนหนึ่งของจิตขนานสรรค์สังคม เราอาจคาดการณ์การเกิด
แนวคิดทางจิตวิทยาที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการทั้งแนวตั้งและแนวนอน กระบวนการแนวตั้งประกอบด้วยกระบวนการมาตรฐานของการพัฒนาแนวคิด คือ การแบ่งปันและนามธรรมของคุณสมบัติของก่อนหน้านี้รูปแบบแนวคิดจากแนวคิดใหม่ นอกเหนือจากนี้เราคาดเดาความเป็นไปของกลไกทางจิตวิทยาหรือแนวโน้มที่แปลงขั้นตอนที่จิตหรือกระบวนการในวัตถุ กลไกการเปลี่ยนแปลงคุณสมบัติ การสร้าง กระบวนการ หรือ ไม่สมบูรณ์คอลเลกชันเข้าจิตวัตถุเป็นสิ่งที่สมบูรณ์ในตัวเอง สิ่งที่จะถูกแสดงเป็นขั้นตอน คำกริยา หรือคำคุณศัพท์จะแสดงเป็นคำนามนี้คือ ' reification ' หรือ ' การทำให้เห็นเป็นรูปธรรม " ในทางจิตวิทยา การสร้างความคิดรวบยอดมากมีตัวละครตัวนี้ แม้ในการกระทำของการรับรู้ที่แตกต่างกันของวัตถุภายนอก ประสานงาน ในการสร้างความคิดรวบยอดทางเราทำให้เป็นรูปธรรมชุดของการรับรู้ในแนวคิดที่ยั่งยืนวัตถุ -- แทนใน schema .
มีบางขนาน ระหว่างนี้ conjectured ' แนวตั้ง ' กลไกและแนวคิดของเพียเจต์ ' s นามธรรมสะท้อนกระบวนการด้านปฏิบัติการของแต่ละคน ทั้งทางร่างกาย และจิตใจ กลายเป็นแสดงการประมวลผลเป็นแนวคิด จึงสะท้อนสิ่งที่เป็นนามธรรม รวมถึงแนวคิด reification แม้ว่าในอดีตมีความคิดกว้างขึ้น
จำนวนของนักวิจัยอื่น ๆ ได้เสนอทฤษฎีทางจิตวิทยาความคิด . โดยเฉพาะกับแนวคิดการทำให้เป็นรูปธรรม ( skemp 1971 ) Dubinsky ( 19881989 ) รวมถึงการเป็นส่วนหนึ่งของการแจกแจงของความคิดนามธรรมสะท้อนแสง การจะแปลงเป็นอัตนัยคณิตศาสตร์ขั้นตอนในการคัดค้าน โดยเห็นว่าเป็นองค์กรรวม sfard ( 19871989 ) ได้รับการทดสอบทฤษฎีของการพัฒนาความคิดรวบยอดทางคณิตศาสตร์ ซึ่งแนวคิดการดำเนินงานแปลงร่างเป็นแนวคิดเชิงโครงสร้าง โดยกระบวนการ reification . นักวิจัยทั้งสองเหล่านี้มีข้อมูลที่สอดคล้องกับสมมติฐานที่กระบวนการของการก่อตัวในแนวตั้งเกิดขึ้นในหรือ reification แนวคิดเชิงประจักษ์ ขนานกับตนเองสังคมบัญชีและบัญชีส่วนตัว ความเชื่อใน platonism .