The increase in woodland area on ou

The increase in woodland area on our organic farms can be explained by the higher occurrence of tree-planting efforts on organic farms (and not by chance occurrence of larger woodlands on these farms). Spatial analysis of woodland patches indicated that organic farms generally had patches with simpler perimeters (AWM patch fractal dimension closer to one) and consequently less edge than similarly sized patches on conventional farms. The organic farms had more continuous blocks of woodland whereas the woodland on conventional farms often consisted of more linear remnant patches, and this may have implications for biodiversity conservation (Kunin 1997). Usher & Keiller (1998) found that small woods on farms did not support characteristic woodland moth communities. Species richness of the moth family Geometridae was positively related to woodland area, as well as woodland shape, with compact shapes better then elongated shapes. The proportion of woodland habitat on or near farms has been related to the pollination services provided by native bees (Kremen et al. 2002; Kremen et al. 2004) and increases in bird richness (Fuller et al. 2001).

Organic farms supported higher levels of plant abundance, species richness and diversity in arable fields but not in semi-natural areas of vegetation. The differences found in the arable fields were significant despite all of our study farms being embedded in a complex landscape, which might be expected to counteract any effects of farming system on biodiversity (Weibull et al. 2003; Bengtsson et al. 2005; Tscharntke et al. 2005). Furthermore, organic farms contained on average 10 more plant species in arable fields at the whole-farm scale despite having proportionally less area of arable fields. This result is unexpected given that, according to species-area relationships, we would expect fewer plant species in arable fields on organic farms. Clearly, arable field management (both past and present) on organic farms is more important for increasing plant richness. There also appeared to be greater plant abundance and species richness in grass fields on organic farms. However, this is likely to be a product of greater areas of grass fields on organic farms and not necessarily a true increase in plant diversity (Table 4). This suggests that if conventional farmers were to increase their area of grass fields to match those on organic farms they may see a similar increase in plant richness.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

สามารถจะอธิบายเพิ่มในวู้ดแลนด์ในฟาร์มเกษตรอินทรีย์ของเรา โดยพยายามปลูกต้นไม้ในฟาร์มเกษตรอินทรีย์เกิดขึ้น (และไม่เกิดโอกาสวู้ดแลนด์ใหญ่ในฟาร์มเหล่านี้) การวิเคราะห์ปริภูมิของแพทช์วู้ดแลนด์ระบุว่า ฟาร์มอินทรีย์โดยทั่วไปมีแพทช์กับง่ายมาก (AWM แพทช์แฟร็กทัลมิติใกล้หนึ่ง) จึง น้อยกว่าคล้ายขอบขนาด และแพทช์ในฟาร์มทั่วไป ฟาร์มเกษตรอินทรีย์มีบล็อกมากขึ้นอย่างต่อเนื่องของป่าใน ขณะที่ป่าในฟาร์มทั่วไปมักจะประกอบด้วยของแพทช์สติเส้นเพิ่มเติม นี้อาจมีผลกระทบการอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพ (Kunin 1997) อัชเชอร์และ Keiller (1998) พบว่า ป่าเล็กในฟาร์มไม่ได้สนับสนุนชุมชน moth ลักษณะวู้ดแลนด์ พันธุ์ความรุ่มรวยของ moth Geometridae ถูกบวกกับวู้ดแลนด์ เป็นรูปทรงที่วู้ดแลนด์ มีรูปร่างที่กระชับดีแล้วอีลองเกตรูปร่าง สัดส่วนของวู้ดแลนด์อยู่อาศัย หรือใกล้ กับฟาร์มมีความเกี่ยวข้อง pollination บริการเป็นผึ้งพื้นเมือง (Kremen et al. 2002 Kremen et al. 2004) และเพิ่มนกร่ำรวย (Fuller et al. 2001)ฟาร์มเกษตรอินทรีย์สนับสนุนระดับสูงความอุดมสมบูรณ์ของพืช ชนิดความรุ่มรวย และความหลากหลายในจังหวัด แต่ไม่ได้อยู่ ในพื้นที่กึ่งธรรมชาติของพืช ความแตกต่างที่พบในเขตเพาะปลูกสำคัญแม้ มีทั้งหมดของฟาร์มของเราศึกษาการฝังในซับซ้อน ซึ่งอาจจะต้องถอนใด ๆ ผลของเกษตรระบบบนความหลากหลายทางชีวภาพ (Weibull et al. 2003 Bengtsson et al. 2005 Tscharntke et al. 2005) นอกจากนี้ ฟาร์มเกษตรอินทรีย์ที่มีอยู่บนเฉลี่ย 10 สปีชีส์พืชเพิ่มเติมในเขตเพาะปลูกที่ระดับฟาร์มทั้งหมดแม้จะมีสัดส่วนน้อยกว่าพื้นที่ของเขตเพาะปลูก ผลนี้คือไม่คาดคิดที่ ตามความสัมพันธ์ชนิดตั้ง เราจะคาดหวังชนิดพืชน้อยกว่าในเขตเพาะปลูกในฟาร์มเกษตรอินทรีย์ ชัดเจน จัดการเพาะปลูกฟิลด์ (ทั้งอดีตและปัจจุบัน) ในฟาร์มเกษตรอินทรีย์เป็นสำคัญสำหรับการเพิ่มโรงงานร่ำรวย มียังปรากฏมากกว่าพืชความอุดมสมบูรณ์และความรุ่มรวยของสปีชีส์ในหญ้าในฟาร์มเกษตรอินทรีย์ อย่างไรก็ตาม นี่คือแนวโน้มที่จะใช้ ผลิตภัณฑ์ของพื้นที่มากกว่าของหญ้าในฟาร์มเกษตรอินทรีย์และไม่จำเป็นต้องเพิ่มความหลากหลายของพืช (ตาราง 4) เป็นจริง แนะนำว่า หากเกษตรกรทั่วไปเพื่อ เพิ่มพื้นที่ของหญ้าให้ตรงกับในฟาร์มเกษตรอินทรีย์ของตน พวกเขาอาจเห็นเพิ่มขึ้นคล้ายในร่ำรวยโรงงาน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การเพิ่มขึ้นของพื้นที่ป่าไม้ในฟาร์มเกษตรอินทรีย์ของเราสามารถอธิบายได้ด้วยการเกิดที่สูงขึ้นของความพยายามในการปลูกต้นไม้ในฟาร์มเกษตรอินทรีย์ (และไม่ได้โดยมีโอกาสเกิดขึ้นของป่าที่มีขนาดใหญ่ในฟาร์มเหล่านี้) การวิเคราะห์เชิงพื้นที่ป่าของแพทช์ระบุว่าเกษตรอินทรีย์มักจะได้รับแพทช์กับปริมณฑลง่าย (แก้ไข AWM มิติเศษส่วนใกล้ชิดกับหนึ่ง) และขอบจึงน้อยกว่าแพทช์ขนาดใกล้เคียงกันในฟาร์มธรรมดา ฟาร์มอินทรีย์มีมากขึ้นอย่างต่อเนื่องบล็อกของป่าไม้ในขณะที่ป่าไม้ในฟาร์มทั่วไปมักจะประกอบไปด้วยแพทช์ที่เหลือเชิงเส้นมากขึ้นและนี้อาจมีผลกระทบในการอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพ (Kunin 1997) อัชเชอร์และ Keiller (1998) พบว่าป่าในฟาร์มขนาดเล็กไม่สนับสนุนชุมชนมอดป่าลักษณะ ความร่ำรวยของครอบครัวของสปีชีส์มอด Geometridae ถูกสัมพันธ์ทางบวกกับพื้นที่ป่าเช่นเดียวกับรูปร่างป่าไม้ที่มีรูปร่างที่ดีขึ้นแล้วมีขนาดกะทัดรัดรูปทรงยาว สัดส่วนของที่อยู่อาศัยป่าหรือฟาร์มที่อยู่ใกล้ได้รับการที่เกี่ยวข้องกับการบริการการผสมเกสรที่มีให้โดยผึ้งพื้นเมือง (Kremen et al, 2002;. Kremen et al, 2004.) และการเพิ่มขึ้นของความร่ำรวยนก (ฟุลเลอร์ et al, 2001).. ฟาร์มอินทรีย์ได้รับการสนับสนุนที่สูงขึ้น ระดับของความอุดมสมบูรณ์ของพืชชนิดอุดมสมบูรณ์และความหลากหลายในด้านการเพาะปลูก แต่ไม่ได้อยู่ในพื้นที่กึ่งธรรมชาติของพืช ความแตกต่างที่พบในเขตเพาะปลูกอย่างมีนัยสำคัญแม้จะมีทั้งหมดของฟาร์มการศึกษาของเราถูกฝังอยู่ในภูมิประเทศที่ซับซ้อนซึ่งอาจจะมีการคาดว่าจะรับมือกับผลกระทบใด ๆ ของระบบการทำฟาร์มในความหลากหลายทางชีวภาพ (Weibull et al, 2003;. Bengtsson et al, 2005;. Tscharntke et al. 2005) นอกจากนี้เกษตรอินทรีย์ที่มีอยู่โดยเฉลี่ย 10 พันธุ์พืชมากขึ้นในด้านการเพาะปลูกในระดับทั้งฟาร์มแม้จะมีพื้นที่น้อยลงตามสัดส่วนของสาขาการเพาะปลูก นี่คือผลที่ไม่คาดคิดที่ได้รับตามความสัมพันธ์ของสายพันธุ์ในพื้นที่ที่เราคาดว่าจะได้พันธุ์พืชที่น้อยลงในด้านการเพาะปลูกในฟาร์มเกษตรอินทรีย์ เห็นได้ชัดว่าการจัดการด้านการเพาะปลูก (ทั้งในอดีตและปัจจุบัน) ในฟาร์มเกษตรอินทรีย์เป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับความอุดมสมบูรณ์ของพืชที่เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ยังดูเหมือนจะเป็นความอุดมสมบูรณ์ของพืชมากขึ้นและความร่ำรวยชนิดในทุ่งหญ้าในฟาร์มเกษตรอินทรีย์ แต่นี้มีแนวโน้มที่จะเป็นผลิตภัณฑ์ในพื้นที่มากขึ้นของทุ่งหญ้าในฟาร์มอินทรีย์และไม่จำเป็นต้องเพิ่มขึ้นจริงในความหลากหลายของพืช (ตารางที่ 4) นี้แสดงให้เห็นว่าถ้าเกษตรกรทั่วไปมีการเพิ่มพื้นที่ของพวกเขาทุ่งหญ้าเพื่อให้ตรงกับผู้ที่อยู่ในฟาร์มอินทรีย์พวกเขาอาจจะเห็นการเพิ่มขึ้นที่คล้ายกันในความอุดมสมบูรณ์ของพืช

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การเพิ่มพื้นที่ป่าในฟาร์มอินทรีย์ของเราสามารถอธิบายได้โดยการปลูกต้นไม้ขึ้นความพยายามในฟาร์มเกษตรอินทรีย์ ( และไม่โดยโอกาสเกิดป่าขนาดใหญ่ในฟาร์มเหล่านี้ )การวิเคราะห์เชิงพื้นที่ของป่าที่แพทช์ระบุว่า ฟาร์มอินทรีย์โดยทั่วไปมีแพทช์ ( Patch ง่ายจำนวน awm เศษส่วนมิติใกล้ ) และขอบจึงน้อยกว่าในขนาดแพทช์ในฟาร์มทั่วไป ฟาร์มอินทรีย์มีมากขึ้นอย่างต่อเนื่องบล็อกของป่าและป่าในฟาร์มปกติมักจะประกอบด้วยเส้นตรงส่วนที่เหลือซอฟต์แวร์และนี้อาจจะมีผลกระทบต่อการอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพ ( คิวนิน 1997 ) อัชเชอร์& keiller ( 2541 ) พบว่า ป่าเล็กในฟาร์มไม่สนับสนุนคุณลักษณะมอดป่าชุมชน ความร่ำรวยของชนิดของมอด Geometridae ของครอบครัวมีความสัมพันธ์กับพื้นที่ป่า เป็นป่าที่มีรูปร่างกระชับรูปร่างดีกว่าแล้วทำให้รูปร่างสัดส่วนของป่าที่อยู่บนหรือใกล้ฟาร์มได้รับที่เกี่ยวข้องกับการให้บริการ โดยผึ้งพื้นเมือง ( kremen et al . 2002 ; kremen et al . 2004 ) และเพิ่มความอุดมสมบูรณ์ในนก ( ฟูลเลอร์ et al . 2001 ) .

ฟาร์มอินทรีย์ได้รับระดับที่สูงขึ้นของความมั่งคั่งและความอุดมสมบูรณ์ของพืช ชนิด ความหลากหลายในเขต แต่ไม่เหมาะแก่การเพาะปลูกในพื้นที่กึ่งธรรมชาติพืชความแตกต่างที่พบในเขตเพาะปลูกอย่างมีนัยสำคัญแม้ทั้งหมดของการศึกษาฟาร์มถูกฝังตัวอยู่ในภูมิทัศน์ที่ซับซ้อน ซึ่งอาจจะคาดการต่อต้านใด ๆ ผลของการความหลากหลายทางชีวภาพ ( แบบ et al . 2003 ; bengtsson et al . 2005 tscharntke et al . 2005 ) นอกจากนี้ฟาร์มอินทรีย์ที่มีอยู่เฉลี่ยมากกว่า 10 ชนิดของพืชในเขตเพาะปลูกในระดับฟาร์มทั้งหมดแม้จะมีสัดส่วนน้อยกว่าพื้นที่เพาะปลูก ฟิลด์ ผลที่ได้นี้ไม่ระบุว่า ตามชนิดความสัมพันธ์พื้นที่เราคาดหวังน้อยกว่าชนิดพืชในเขตเพาะปลูกในฟาร์มเกษตรอินทรีย์ อย่างชัดเจนการจัดการแปลงเพาะปลูก ( ทั้งในอดีตและปัจจุบัน ) ในฟาร์มเกษตรอินทรีย์ที่สำคัญ เพื่อเพิ่มความอุดมสมบูรณ์ของพืช มันยังดูเหมือนมากกว่าพืช ความอุดมสมบูรณ์และความร่ำรวยของชนิดในทุ่งหญ้าในฟาร์มเกษตรอินทรีย์ อย่างไรก็ตาม นี่อาจเป็นผลิตภัณฑ์ของมากกว่าพื้นที่ของทุ่งหญ้าในฟาร์มเกษตรอินทรีย์ และไม่จำเป็นจริง เพิ่มความหลากหลายของพืช ( ตารางที่ 4 )นี้แสดงให้เห็นว่าถ้าเป็นเกษตรกรทั่วไปเพื่อเพิ่มพื้นที่ของทุ่งหญ้าในฟาร์มเกษตรอินทรีย์ที่จะตรงกับพวกเขาอาจดูเพิ่มที่คล้ายกันในความอุดมสมบูรณ์ของพืช