Light changes speed as it moves fro

Light changes speed as it moves from one medium to another (for example, from air into the glass of the prism). This speed change causes the light to be refracted and to enter the new medium at a different angle (Huygens principle). The degree of bending of the light's path depends on the angle that the incident beam of light makes with the surface, and on the ratio between the refractive indices of the two media (Snell's law). The refractive index of many materials (such as glass) varies with the wavelength or color of the light used, a phenomenon known as dispersion. This causes light of different colors to be refracted differently and to leave the prism at different angles, creating an effect similar to a rainbow. This can be used to separate a beam of white light into its constituent spectrum of colors. Prisms will generally disperse light over a much larger frequency bandwidth than diffraction gratings, making them useful for broad-spectrum spectroscopy. Furthermore, prisms do not suffer from complications arising from overlapping spectral orders, which all gratings have.

Prisms are sometimes used for the internal reflection at the surfaces rather than for dispersion. If light inside the prism hits one of the surfaces at a sufficiently steep angle, total internal reflection occurs and all of the light is reflected. This makes a prism a useful substitute for a mirror in some situations.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

แสงเปลี่ยนแปลงเร็วขณะที่เคลื่อนย้ายจากสื่อหนึ่งไปยังอีก (ตัวอย่าง จากอากาศไปยังแก้วปริซึม) การเปลี่ยนแปลงความเร็วนี้ทำให้แสง ไปเป็น refracted และสื่อใหม่ที่เป็นมุมที่แตกต่างกัน (หลักการของหลัก) ระดับของการดัดเส้นทางของแสงขึ้นอยู่ กับมุมที่แสงเหตุการณ์ทำให้ มีพื้นผิว และอัตราส่วนระหว่างดัชนี refractive สื่อสองเซีของกฎหมาย) ดรรชนีของวัสดุต่าง ๆ (เช่นกระจก) กับความยาวคลื่นหรือสีของแสงที่ใช้ ปรากฏการณ์ที่เรียกว่ากระจายตัวแตกต่างกันไป ทำให้แสงของสีที่แตกต่าง refracted แตก และปล่อยดูดในมุมที่แตกต่าง การสร้างผลกระทบคล้ายกับรุ้ง นี้สามารถใช้แยกเป็นแสงสีขาวเป็นรุ้งของส่วนประกอบต่าง ๆ ของ Prisms กรองมิเรอร์โดยทั่วไปจะกระจายแสงเหนือมากใหญ่ความถี่แบนด์วิดท์มากกว่าการเลี้ยวเบน gratings ผ่านความพยายาม ทำให้พวกเขามีประโยชน์สำหรับ broad-spectrum ก นอกจากนี้ prisms กรองมิเรอร์ไม่ทุกข์ทรมานจากภาวะแทรกซ้อนที่เกิดจากการทับซ้อนกันสเปกตรัมสั่ง gratings ผ่านความพยายามทั้งหมดที่มีบางครั้งใช้ prisms กรองมิเรอร์ สำหรับสะท้อนที่พื้นผิว ปรับกระจายตัว ถ้าภายในปริซึมที่แสงกระทบหนึ่งของพื้นผิวที่เป็นมุมชันพอ เกิดการสะท้อนกลับทั้งหมด และทั้งหมดของแสงสะท้อนออกมา นี้ทำปริซึมกระจกแทนมีประโยชน์ในบางสถานการณ์

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เพิ่มความเร็วในการเปลี่ยนแปลงแสงขณะที่มันเคลื่อนจากที่หนึ่งไปยังอีกสื่อ (เช่นจากอากาศเข้าไปในแก้วปริซึม) การเปลี่ยนแปลงนี้ทำให้ความเร็วแสงที่จะหักเหและจะเข้าสู่สื่อใหม่ในมุมที่แตกต่างกัน (หลักการ Huygens) ระดับของการดัดของเส้นทางของแสงขึ้นอยู่กับมุมมองว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นลำแสงของแสงทำให้มีพื้นผิวและอัตราส่วนระหว่างดัชนีหักเหของทั้งสองสื่อ (กฎของ Snell) ดัชนีหักเหของวัสดุหลายชนิด (เช่นแก้ว) ที่มีความยาวคลื่นแตกต่างกันหรือสีของแสงที่ใช้ปรากฏการณ์ที่เรียกว่าการกระจายตัว นี้ทำให้เกิดแสงของสีที่แตกต่างกันที่จะหักเหแตกต่างกันและจะออกจากปริซึมในมุมที่แตกต่างกัน, การสร้างผลคล้ายกับรุ้ง นี้สามารถใช้ในการแยกลำแสงของแสงสีขาวลงไปในคลื่นความถี่ที่เป็นส่วนประกอบของสี ปริซึมโดยทั่วไปจะกระจายแสงในช่วงความถี่แบนด์วิดธ์ขนาดใหญ่กว่า gratings เลนส์ทำให้พวกเขามีประโยชน์สำหรับสเปกโทรสโกในวงกว้างสเปกตรัม นอกจากปริซึมไม่ประสบภาวะแทรกซ้อนที่เกิดขึ้นจากคำสั่งซื้อที่ทับซ้อนกันสเปกตรัมซึ่งทุกคนมีตะแกรง. กิ่งบางครั้งใช้สำหรับการสะท้อนที่พื้นผิวมากกว่าการกระจายตัว หากไฟภายในปริซึมฮิตหนึ่งของพื้นผิวที่มุมสูงชันพอสะท้อนภายในทั้งหมดเกิดขึ้นและทั้งหมดของแสงที่สะท้อนให้เห็น นี้จะทำให้ปริซึมแทนประโยชน์สำหรับกระจกในบางสถานการณ์

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การเปลี่ยนแปลงความเร็วแสงมันย้ายจากสื่ออื่น ( เช่น จากอากาศเข้าไปในแก้วปริซึม ) นี้ความเร็วในการเปลี่ยนแปลง ทำให้แสงจะถูกหักเห และใส่อาหารใหม่ในมุมที่แตกต่าง ( เกนหลัก ) ระดับของการดัดของเส้นทางของแสงขึ้นอยู่กับมุมที่เรื่องแสงให้กับผิวและอัตราส่วนระหว่างดัชนีดรรชนีหักเหของสื่อ 2 ( ผู้ขนส่ง ) ดัชนีการหักเหของวัสดุต่างๆ เช่น แก้ว ) ขึ้นอยู่กับความยาวคลื่น หรือ สีของแสงที่ใช้ เป็นปรากฏการณ์ที่รู้จักกันเป็นกระจาย นี้จะทำให้แสงของสีที่แตกต่างกันจะหักเหต่างกัน และออกจากปริซึมในมุมที่แตกต่างกัน การสร้าง Effect คล้ายรุ้งนี้สามารถใช้ในการแยกลำแสงสีขาวเป็นส่วนประกอบของสเปกตรัมสี ปริซึมโดยทั่วไปจะกระจายแสงมากกว่าขนาดความถี่แบนด์วิดธ์กว่าเลนส์ gratings , ทำให้พวกเขามีประโยชน์สำหรับสเปกตรัมสเปกโทรสโกปี นอกจากนี้ ปริซึมไม่ทุกข์ทรมานจากภาวะแทรกซ้อนที่เกิดขึ้นจากการสั่งตะแกรงซ้อน ซึ่งทั้งหมดได้

ปริซึมบางครั้งถูกใช้เพื่อการสะท้อนกลับที่พื้นผิว มากกว่า เพื่อกระจาย ถ้าแสงภายในปริซึมฮิตหนึ่งในพื้นผิวที่เป็นมุมชันเพียงพอ การสะท้อนกลับทั้งหมดเกิดขึ้นและทั้งหมดของแสงที่สะท้อนกลับ ทำให้ปริซึมแทนประโยชน์สำหรับกระจกในบางสถานการณ์