BUSINESSFind company and suppliersB

BUSINESS

Find company and suppliers
BUSINESS > FINANCE
Tax probes urged for stubborn loan sharks
23 Dec 2016 at 08:53
WRITER: WICHIT CHANTANUSORNSIRI
FacebookTwitterGoogle+LINE

Leaflets advertising quick loans are attached to an ATM to lure customers. Authorities are threatening tighter measures to deal with loan sharks. Somchai Boonlour
The Finance Ministry has threatened to launch a probe into backdated tax payments of loan sharks if they refuse to become legalised lenders.

The ministry will start with a warning that loan sharks stop charging interest rates exceeding the legal limit and become legal lenders. If they refuse to comply with the law, the Revenue Department will look into their tax payment history, said Somchai Sujjapongse, permanent secretary for finance.
The government of Prime Minister Prayut Chan-o-cha has tried to uproot loan sharks by widening opportunities for those at the bottom of the economic ladder to access formal financial sources.
The state recently approved the establishment of nanofinance firms, while the Finance Ministry will soon issue licences for those applying to become picofinance lenders.
Two state-controlled banks -- Government Savings Bank and the Bank for Agriculture and Agricultural Cooperatives -- will lend a combined 50 billion baht for refinancing underground loans and rolling out picofinance.
The Finance Ministry will require picofinance operators to have registered capital of at least 5 million baht, far below the minimum 50 million baht required for nanofinance companies.
Nanofinance operators can lend only for occupational purposes, with a lending maximum of 100,000 baht per borrower and a ceiling interest rate of 36% a year.
Picofinance operators lend for general purposes and are limited to lending 50,000 baht per borrower at a maximum rate of 36% a year.
Mr Somchai said loan sharks can apply for picofinance licences from the ministry if they still want to run lending businesses. Ten picofinance applicants have submitted their requests to the Finance Ministry and four or five are expected to be given licences soon, he said.
To control underground lending, the government amended the law to impose stricter punishments against those who charge annual interest above 15%. Penalties are a maximum of two years in prison and a maximum 200,000 baht fine, up from one year and a 1,000 baht fine.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ธุรกิจค้นหาบริษัทและซัพพลายเออร์ธุรกิจ > การเงินวัดภาษีกระตุ้นฉลามยืมปากแข็ง23 2016 ธันวาคมเวลา 08:53 น.ผู้เขียน: วิชิต CHANTANUSORNSIRIFacebookTwitterGoogle + บรรทัดแผ่นพับโฆษณาเงินกู้ด่วนแนบกับตู้ ATM เพื่อล่อลูกค้า เจ้าหน้าที่กำลังคุกคามมาตรการเข้มงวดมากขึ้นเพื่อจัดการกับปลาฉลามเงินกู้ สมชัย Boonlourที่กระทรวงได้ขู่ที่จะเปิดการสอบสวนที่เป็นการชำระภาษีย้อนหลังของปลาฉลามเงินกู้ถ้าพวกเขาปฏิเสธที่จะ ให้กู้ legalised กระทรวงจะเริ่มต้น ด้วยคำเตือนว่า ปลาฉลามเงินกู้หยุดเรียกเก็บอัตราดอกเบี้ยเกินกฎหมายกำหนด และเป็น ผู้ให้กู้ตามกฎหมาย ถ้าพวกเขาปฏิเสธที่จะปฏิบัติตามกฎหมาย กรมสรรพากรจะตรวจสอบประวัติการชำระเงินภาษี สมชัยสัจจพงษ์ ปลัดการเงินกล่าวรัฐบาลของนายกรัฐมนตรี Prayut จัง-o-ชะอำได้พยายามที่จะถอนเงินกู้ฉลาม โดยขยับขยายโอกาสสำหรับผู้ที่ด้านล่างของบันไดทางเศรษฐกิจในการเข้าถึงแหล่งการเงินที่เป็นทางการรัฐอนุมัติการจัดตั้งบริษัท nanofinance เมื่อเร็ว ๆ นี้ในขณะที่กระทรวงจะออกใบอนุญาตสำหรับผู้ใช้เป็น ผู้ให้กู้ picofinance เร็ว ๆ นี้สองรัฐควบคุมธนาคาร -ธนาคารออมสินและธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร - จะยืมรวม 50 ล้านบาทสำหรับ refinancing เงินกู้ใต้ดิน และกลิ้งออก picofinanceที่กระทรวงจะต้องมีทุนจดทะเบียนตั้งแต่ 5 ล้านบาท กว่า 50 ล้านบาทต่ำสุดที่จำเป็นสำหรับบริษัท nanofinance ผู้ประกอบการ picofinanceตัวดำเนินการ Nanofinance สามารถยืมประสงค์อาชีว เพดานอัตราดอกเบี้ย 36% ต่อปีและสูงสุด 100,000 บาท ต่อผู้กู้ยืมผู้ประกอบการ Picofinance ยืมเพื่อวัตถุประสงค์ทั่วไป และจำกัดการให้กู้ยืม 50,000 บาท ผู้กู้ในอัตราสูงสุดถึง 36% ต่อปีนายสมชัยกล่าวว่า ปลาฉลามเงินกู้สามารถยื่นขอใบอนุญาต picofinance จากกระทรวงถ้าพวกเขายังต้องการดำเนินธุรกิจสินเชื่อ สิบ picofinance สมัครได้ส่งคำขอไปที่กระทรวงและสี่ หรือห้าคาดว่าจะได้รับใบอนุญาตเร็ว ๆ นี้ เขากล่าวว่าการควบคุมสินเชื่อใต้ดิน รัฐบาลแก้ไขกฎหมายกำหนดลงโทษเข้มงวดกับผู้ที่คิดอัตราดอกเบี้ยรายปีสูงกว่า 15% บทลงโทษไม่เกินสองปีในคุกและสูงสุด 200,000 บาท ดี ขึ้นจากหนึ่งปีและปรับ 1,000 บาท

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ธุรกิจ

หา บริษัท และซัพพลายเออร์
บิ> การเงิน
probes ภาษีกระตุ้นสำหรับปากแข็งฉลามเงินกู้
23 ธันวาคม 2016 ที่ 08:53
เขียน: วิชิต CHANTANUSORNSIRI
FacebookTwitterGoogle + สาย

เงินกู้ด่วนแผ่นพับโฆษณาที่แนบมากับตู้เอทีเอ็มเพื่อล่อลูกค้า เจ้าหน้าที่มีการขู่ว่ามาตรการที่เข้มงวดมากขึ้นในการจัดการกับปลาฉลามเงินกู้ สมชาย Boonlour
กระทรวงการคลังได้ขู่ว่าจะเปิดการสอบสวนลงในการชำระเงินภาษีย้อนหลังของปลาฉลามเงินกู้หากพวกเขาปฏิเสธที่จะกลายเป็นผู้ให้กู้ legalized

กระทรวงจะเริ่มต้นด้วยคำเตือนว่าฉลามเงินกู้หยุดการเรียกเก็บอัตราดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดและเป็นผู้ให้กู้ตามกฎหมาย หากพวกเขาปฏิเสธที่จะปฏิบัติตามกฎหมายกรมสรรพากรจะมีลักษณะเป็นประวัติการชำระเงินภาษีของพวกเขา, สมชัยสัจจพงษ์ปลัดกระทรวงการคลังกล่าวว่า
รัฐบาลของนายกรัฐมนตรีประยุทธ์จันทร์โอชาได้พยายามที่จะถอนเงินกู้โดยการขยับขยายโอกาสสำหรับผู้ที่ด้านล่างของบันไดทางเศรษฐกิจในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนอย่างเป็นทางการ
รัฐเมื่อเร็ว ๆ นี้ได้รับการอนุมัติการจัดตั้ง บริษัท nanofinance ในขณะที่กระทรวงการคลังเร็ว ๆ นี้จะออกใบอนุญาตสำหรับผู้ใช้ที่จะกลายเป็นผู้ให้กู้ picofinance
ทั้งสองธนาคารรัฐควบคุม - ธนาคารออมสินและธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร - จะให้ยืมรวม 50000000000 บาทสำหรับการรีไฟแนนซ์เงินกู้ยืมใต้ดินและกลิ้งออก picofinance
กระทรวงการคลังจะต้องมีผู้ประกอบการ picofinance จะมีทุนจดทะเบียนไม่น้อยกว่า 5 ล้านบาทต่ำกว่าขั้นต่ำ 50 ล้านบาทจำเป็นสำหรับ บริษัท nanofinance
ผู้ประกอบการ Nanofinance สามารถยืมเพียงเพื่อวัตถุประสงค์ในการประกอบอาชีพด้วยการให้กู้ยืมเงินสูงสุด 100,000 บาทต่อผู้กู้และอัตราดอกเบี้ยเพดาน 36% ต่อปี
ผู้ประกอบการ Picofinance ยืมเพื่อวัตถุประสงค์ทั่วไปและจะถูก จำกัด ให้กู้ยืมเงิน 50,000 บาทต่อผู้กู้ในอัตราสูงสุด 36% ต่อปี
นายสมชายกล่าวว่าฉลามเงินกู้สามารถยื่นขอใบอนุญาตจากกระทรวง picofinance ถ้าพวกเขายังคงต้องการที่จะดำเนินธุรกิจการให้กู้ยืมเงิน สิบสมัคร picofinance ได้ส่งคำขอของพวกเขาไปยังกระทรวงการคลังและสี่หรือห้าที่คาดว่าจะได้รับใบอนุญาตในเร็ว ๆ นี้เขากล่าวว่า
ในการควบคุมการปล่อยสินเชื่อใต้ดินรัฐบาลแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายที่จะกำหนดบทลงโทษที่เข้มงวดต่อบรรดาผู้ที่เรียกเก็บดอกเบี้ยรายปีกว่า 15% การปรับโทษสูงสุดสองปีในคุกและสูงสุด 200,000 บาทปรับเพิ่มขึ้นจากหนึ่งปีและปรับ 1,000 บาท

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ธุรกิจหา บริษัท และซัพพลายเออร์ธุรกิจ > การเงินภาษีและกระตุ้นสำหรับเงินกู้ที่ปากแข็ง23 ธ.ค. 2552 ที่ 08:53นักเขียน : วิชิต จันทนุสรณ์ศิริfacebooktwittergoogle + สายใบปลิวโฆษณาด่วนเงินกู้แนบกับตู้ ATM เพื่อล่อลูกค้า เจ้าหน้าที่มีมาตรการที่เข้มงวดมากขึ้นเพื่อจัดการกับการคุกคามเจ้าหนี้เงินกู้ สมชาย boonlourกระทรวงการคลังมีขู่ว่าจะเปิดการสอบสวนทำย้อนหลังไปชำระเงินภาษีของฉลามเงินกู้ถ้าพวกเขาปฏิเสธที่จะกลายเป็น legalized ตลอดจนกระทรวงจะเริ่มต้นด้วยคำเตือนว่าเงินกู้จะหยุดชาร์จอัตราดอกเบี้ยเกินที่กฏหมายกำหนด และกลายเป็น ตลอดจนกฎหมาย ถ้าพวกเขาปฏิเสธที่จะทำตามกฎหมาย กรมสรรพากรจะเข้าไปดูประวัติการชำระเงินภาษีของพวกเขา สมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลังรัฐบาลของนายกรัฐมนตรี ประยุทธ์ chan-o-cha ได้พยายามถอนเงินกู้โดยการขยับขยายโอกาสที่ด้านล่างของบันไดทางเศรษฐกิจในการเข้าถึงแหล่งทุน อย่างเป็นทางการรัฐเมื่อเร็ว ๆนี้ได้มีมติอนุมัติการจัดตั้งบริษัท nanofinance ขณะที่กระทรวงการคลังจะออกใบอนุญาตสำหรับผู้ที่สมัครเป็น picofinance ตลอดจนสองธนาคารรัฐ -- รัฐธนาคารออมสินและธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร จะให้ยืมรวม 50 ล้านบาท เพื่อรีไฟแนนซ์เงินกู้ใต้ดินและกลิ้งออก picofinance .กระทรวงการคลังจะต้องมีผู้ประกอบการ picofinance มีทุนจดทะเบียนไม่น้อยกว่า 5 ล้านบาท ต่ำกว่าขั้นต่ำ 50 ล้านบาท เป็นบริษัท nanofinance .ผู้ประกอบการ nanofinance สามารถยืมเพื่องานอาชีพ ด้วยการให้ยืมสูงสุด 100000 บาทต่อผู้กู้ และเพดานอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 36 ปีผู้ประกอบการ picofinance ให้ยืมเพื่อวัตถุประสงค์ทั่วไปและจะถูก จำกัด เพื่อการให้กู้ยืมเงิน 50 , 000 บาทต่อผู้กู้ในอัตราสูงสุด 36% ต่อปีนายสมชาย กล่าวว่า เงินกู้ที่สามารถใช้สำหรับ picofinance ใบอนุญาตจากกระทรวง ถ้าพวกเขายังต้องการเรียกใช้ธุรกิจการให้กู้ยืมเงิน 10 ผู้สมัคร picofinance ได้ส่งคำขอไปยังกระทรวงการคลังและสี่หรือห้าที่คาดว่าจะได้รับใบอนุญาตโดยเร็ว เขากล่าวว่าเพื่อควบคุมการให้กู้ยืมเงินใต้ดิน รัฐบาลแก้ไขกฎหมายกำหนดบทลงโทษที่เข้มงวดกับผู้ที่เรียกเก็บดอกเบี้ยรายปีสูงกว่า 15% บทลงโทษสูงสุดสองปีในคุกและสูงสุด 200000 บาท ปรับเพิ่มขึ้นจากหนึ่งปีและ 1 , 000 บาทค่ะ