The National Education Act 1999 and

The National Education Act 1999 and Amendments 2002 (Second National Education Act) had clearly
stipulated that teachers should organize subject content and learning activities in such a way as to suit the learners’
interest and aptitude, to provide them with the opportunity for training in thinking process and the management
skills, the skill to cope with existing situations and the skill to apply what they have learned for preventing as well as
for solving problems (Ministry of Education, 2003).

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ปี 1999 พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติและแก้ไข 2002 (สองชาติศึกษาพระราชบัญญัติ) ได้ชัดเจน
กำหนดว่า ครูควรจัดระเบียบเรื่องเนื้อหาและกิจกรรมในลักษณะเพื่อให้เหมาะสมกับผู้เรียนในการเรียนรู้
สนใจและความสามารถ มีโอกาสฝึกกระบวนการคิดและการจัดการ
ทักษะ ทักษะที่จะรับมือกับสถานการณ์ที่มีอยู่และทักษะการใช้สิ่งที่พวกเขาได้เรียนรู้ป้องกันเช่นเป็น
สำหรับการแก้ปัญหา (กระทรวงศึกษาธิการ 2003)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติปี 1999 และแก้ไข 2002 (สองพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ) ได้อย่างชัดเจน
ระบุว่าครูควรมีการจัดกิจกรรมและการเรียนรู้เนื้อหาเรื่องนี้ในลักษณะที่ให้เหมาะสมกับผู้เรียน
สนใจและความถนัดเพื่อให้พวกเขามีโอกาสสำหรับการฝึกอบรมในการคิด กระบวนการและการจัดการ
ทักษะความสามารถในการรับมือกับสถานการณ์ที่มีอยู่และทักษะที่จะใช้สิ่งที่พวกเขาได้เรียนรู้ในการป้องกันเช่นเดียวกับ
การแก้ปัญหา (กระทรวงศึกษาธิการ 2003)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ. 2545 พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ 2 ) มีกำหนดให้ครูชัด
ควรจัดเนื้อหาและกิจกรรมการเรียนรู้ในลักษณะที่สอดคล้องกับความสนใจและความถนัดของผู้เรียน '
, เพื่อให้พวกเขามีโอกาสฝึกทักษะกระบวนการคิด และทักษะการจัดการ
,ทักษะเพื่อรับมือกับสถานการณ์ที่มีอยู่และทักษะที่จะใช้สิ่งที่พวกเขาได้เรียนรู้เพื่อป้องกัน ตลอดจน
สำหรับการแก้ปัญหา ( กระทรวงศึกษาธิการ , 2546 )