Also attempting to clarify the focu

Also attempting to clarify the focus of research, Holtfreter (2005) suggests that fraud and
criminology researchers often confuse or intermingle white-collar crime committed by the
individual (occupational fraud or employee theft) and crime committed by the organization
(corporate crime). In her study, one of Holtfreter’s key findings is that corporate victims of
corruption tended to be large, often publicly traded, companies while corporate victims of asset
misappropriation and financial reporting fraud tended to be smaller, private organizations.
Accounting firms could use such characteristics to develop profiles of potential offenders and
corporations likely to be victimized by fraud. This focus could improve the overall effectiveness of
the fraud detection process

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ยัง พยายามชี้แจงความสำคัญของการวิจัย Holtfreter (2005) แนะนำว่า ฉ้อโกง และอาชญาวิทยานักวิจัยมักจะสับสน หรือ intermingle white-collar อาชญากรรมโดยการบุคคล (อาชีพทุจริตหรือพนักงานขโมย) และกระทำ โดยองค์กรอาชญากรรม(องค์กรอาชญากรรม) ศึกษา หนึ่งในประเด็นสำคัญของ Holtfreter เป็นองค์กรที่เหยื่อมีแนวโน้มที่จะ มีขนาดใหญ่ การทุจริตมักขายในที่สาธารณะ บริษัทขณะเหยื่อสินทรัพย์ขององค์กรฐานยักยอกทรัพย์และฉ้อโกงทางการเงินที่มีแนวโน้มที่จะ เป็นองค์กรขนาดเล็ก ส่วนตัวรายงานบริษัทบัญชีสามารถใช้ลักษณะดังกล่าวในการพัฒนาของผู้กระทำผิดที่อาจเกิดขึ้น และบริษัทมักจะตกเป็นเหยื่อ โดยทุจริต นี้สามารถปรับปรุงประสิทธิภาพโดยรวมของการตรวจสอบทุจริต

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

นอกจากนี้ยังมีความพยายามที่จะชี้แจงจุดเน้นของการวิจัยการ Holtfreter (2005)
แสดงให้เห็นว่าการทุจริตและนักวิจัยอาชญาวิทยามักจะสับสนหรือผสมอาชญากรรมปกขาวกระทำโดยบุคคลที่
(การทุจริตการประกอบอาชีพหรือการโจรกรรมพนักงาน) และอาชญากรรมที่กระทำโดยองค์กร
(องค์กรอาชญากรรม) ในการศึกษาของเธอซึ่งเป็นหนึ่งในการค้นพบที่สำคัญ Holtfreter
คือว่าผู้ที่ตกเป็นเหยื่อขององค์กรของการทุจริตมีแนวโน้มที่จะมีขนาดใหญ่มักจะซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์บริษัท ในขณะที่ผู้ที่ตกเป็นเหยื่อของ บริษัท
สินทรัพย์ยักยอกและฉ้อโกงการรายงานทางการเงินมีแนวโน้มที่จะมีขนาดเล็กองค์กรเอกชน.
บริษัท บัญชีสามารถใช้ลักษณะดังกล่าวไปยัง การพัฒนารูปแบบของผู้กระทำผิดที่มีศักยภาพและ
บริษัท มีแนวโน้มที่จะตกเป็นเหยื่อของการทุจริต
โฟกัสนี้จะเพิ่มประสิทธิภาพโดยรวมของขั้นตอนการตรวจสอบการทุจริต

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ยังพยายามที่จะชี้แจงความสำคัญของการวิจัย holtfreter ( 2005 ) แสดงให้เห็นว่า การทุจริตและ
นักวิจัยอาชญาวิทยามักจะสับสนหรือปะปนปกขาวอาชญากรรมโดย
บุคคล ( โกงอาชีพหรือพนักงานขโมย ) และอาชญากรรมที่กระทำโดย
องค์กร ( องค์กรอาชญากรรม ) ในการศึกษาของเธอ หนึ่งในกุญแจ holtfreter ค้นพบก็คือเหยื่อขององค์กร
การทุจริตมีแนวโน้มเป็นขนาดใหญ่มักจะซื้อขายสาธารณะ บริษัท ในขณะที่เหยื่อขององค์กรการรายงานทางการเงินทุจริตและยักยอกทรัพย์สิน
มีแนวโน้มที่จะมีขนาดเล็กลง องค์กรเอกชน บริษัท บัญชีสามารถใช้
ลักษณะดังกล่าวเพื่อพัฒนาศักยภาพและ
โปรไฟล์ของผู้กระทำผิด บริษัท มีแนวโน้มที่จะตกเป็นเหยื่อโดยการฉ้อโกง โฟกัสนี้สามารถปรับปรุงประสิทธิภาพโดยรวมของกระบวนการการตรวจสอบทุจริต