Feminist values seem to be portraye

Feminist values seem to be portrayed throughout the film, such as the empowerment of women and raising of awareness of issues that some women must face in real life on a regular basis. Then the film also seems to imply that trying to run away from your problems doesn’t make them go away. Instead, they follow you wherever you go and sometimes get to be much worse in the process. Another issue that was portrayed in the film, Thelma & Louise, was regarding how Thelma and Louise did not want to go to the cops since they didn’t think their story would be believed. I think this is a reflection of the time period in which the movie took place. The women felt they were hopeless if they went to the police; fearing that their story would not be believable since witnesses would be able to account for the intimate dancing between the rapist and Thelma.

This film is still relevant today because women still have to be careful of men with bad intentions. The movie shows how reacting in an irrational manner can lead to fate. Louise shouldn’t have shot the man despite that he was raping Thelma and disrespecting the women verbally.

The most important point the movie makes is that women should never settle for anything. The women, as mentioned before, were not in favor of turning to the law. They should never settle for mediocrity, unhappiness, or oppression. Naturally, Thelma and Louise took the concept of “not settling” to an extreme, but it was necessary to show their liberation. Once they decided to never settle, they became truly happy and free.

They men in the film represented extremes. The rapist represented the bad qualities of a man- deceitful, disrespectful, corrupt, and inconsiderate. On the other hand, Harvey Keitel is lone half-decent man in the entire film who has respect for ladies. These portrays were fair because the men of this time area probably didn’t treat women with respect. I wouldn’t change anything about the male characters in this movie because I think it is an accurate portrayal of how women were treated during this time.

Overall, I did enjoy this movie. The movie characterized the women as sweet and innocent, yet the ending proved to be very extreme and radical. I liked the movie because it was eventful, which helped to keep me stay interested in the movie.

This article discusses different perspectives which represent different ideas for how the oppression of women is upheld. While many feminists regard the oppression of women as an inherent biological trait of men, Marxism explains that the root of women’s oppression lies not in biology, but in social conditions. I think oppression is not an inherent trait of men, but I do agree with the Marxism belief- oppression is based around social conditions.

Oppression can be overcome by not constraining a women to particular roles that are traditionally male dominated positions. For example, more women should be hired as managers, referees, chefs, tech experts, politics, etc.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

สตรีค่าดูเหมือนจะเป็นเซ็กส์ตลอดฟิล์ม เช่นพัฒนาสตรีและการเพิ่มความตระหนักของปัญหาที่ผู้หญิงบางคนต้องเผชิญในชีวิตจริงอย่างสม่ำเสมอ แล้ว ฟิล์มยังดูเหมือนว่า นัยว่าพยายามจะหนีออกจากปัญหาของคุณไม่ได้ทำให้พวกเขาหายไป แทน พวกเขาทำตามคุณทุกที่คุณไป และบางครั้งได้รับจะแย่กว่าในกระบวนการ ปัญหาอื่นที่แสดงให้เห็นในฟิล์ม ฉำฉา & หลุยส์ แก้ไขเกี่ยวกับวิธีเทลมาและหลุยส์ไม่ต้องไปตำรวจเนื่องจากพวกเขาไม่ได้คิดว่า จะเชื่อเรื่องราวของพวกเขา ผมคิดว่า นี่คือการสะท้อนช่วงเวลาที่ภาพยนตร์ได้เกิด ผู้หญิงคนรู้สึกว่าสิ้นหวังถ้าพวกเขาไปตำรวจ กลัวว่า เรื่องราวของพวกเขาจะไม่เชื่อเนื่องจากพยานจะบัญชีสำหรับเต้นรำใกล้ชิดระหว่างผู้ข่มขืนและเทลมาภาพยนตร์เรื่องนี้ยังไม่ใช่วันนี้ เพราะผู้หญิงยังต้องระวังคนที่มีความตั้งใจดี ภาพยนตร์แสดงวิธีทำปฏิกิริยาในลักษณะไม่มีเหตุผลสามารถนำไปสู่ชะตากรรม หลุยส์ไม่ควรมีภาพคนแม้ว่า เขาค่าเทลมา และตัวผู้หญิงวาจาจุดสำคัญที่ทำให้ภาพยนตร์ที่ผู้หญิงไม่ควรชำระอะไรได้ ผู้หญิง ดังกล่าวก่อน ไม่ได้ในความโปรดปรานของการตามกฎหมาย นอกจากนี้พวกเขาไม่ควรชำระให้ธรรมดา ความทุกข์ หรือกดขี่ ธรรมชาติ ฉำฉาและหลุยส์เอาแนวคิดของการ "ไม่ชำระเงิน" ให้รุนแรง แต่ก็จำเป็นต้องแสดงการปลดปล่อย เมื่อพวกเขาตัดสินใจที่จะชำระไม่ พวกเขากลายเป็นความสุขอย่างแท้จริง และฟรีพวกเขาในภาพยนตร์เรื่องนี้แสดงสุดขั้ว ผู้ข่มขืนที่แสดงคุณภาพไม่ดีที่เป็นคนหลอกลวง ไม่สุภาพ เสียหาย และบริการ บนมืออื่น ๆ ฮาร์วีย์ Keitel เป็นคนครึ่งดีโดด ๆ ในฟิล์มที่มีความเคารพสำหรับผู้หญิง เหล่านี้ portrays นี้ได้เนื่องจากคนพื้นที่เวลานี้คงไม่ได้ปฏิบัติต่อผู้หญิง ด้วยความเคารพ ฉันจะไม่เปลี่ยนแปลงอะไรเกี่ยวกับตัวละครชายในหนังเรื่องนี้ เพราะผมคิดว่า มันเป็นการวาดภาพที่ถูกต้องของวิธีผู้หญิงได้รับการรักษาในช่วงเวลานี้โดยรวม ฉันไม่สนุกกับหนังเรื่องนี้ ภาพยนตร์ผู้หญิงมีลักษณะเป็นหวานและบริสุทธิ์ ยังสิ้นสุดพิสูจน์ให้รุนแรง และรุนแรงมาก ผมชอบหนัง เพราะมันเป็นเหตุการณ์สำคัญ ซึ่งช่วยให้ฉันเข้าพักที่สนใจในภาพยนตร์บทความนี้กล่าวถึงมุมมองที่แตกต่างกันซึ่งแสดงถึงแนวคิดสำหรับวิธีกดขี่ของผู้หญิงคือการยึดถือ ในขณะที่ทานหลายเรื่องกดขี่ของผู้หญิงเป็นการลักษณะทางชีวภาพโดยธรรมชาติของผู้ชาย ลัทธิมากซ์อธิบายว่า รากของการกดขี่ของผู้หญิงอยู่ ในชีววิทยาไม่ได้ แต่ ในสภาพสังคม ผมคิดว่า กดขี่ไม่ได้เป็นลักษณะโดยธรรมชาติของมนุษย์ แต่ผมเห็นด้วยกับลัทธิมากซ์เชื่อกดขี่เป็นตามสภาพสังคมกดขี่สามารถเอาชนะ โดยไม่ constraining ผู้หญิงกับบทบาทเฉพาะที่อยู่ในตำแหน่งดั้งเดิมชายครอบงำ ตัวอย่างเช่น ผู้หญิงควรจ้างผู้จัดการ ผู้ตัดสิน เชฟ ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคนิค การเมือง เป็นต้น

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ค่าสตรีดูเหมือนจะเป็นภาพในภาพยนตร์เช่นการเสริมสร้างศักยภาพของผู้หญิงและการสร้างความตระหนักของปัญหาที่ผู้หญิงบางคนจะต้องเผชิญในชีวิตจริงเป็นประจำ แล้วหนังเรื่องนี้ก็ดูเหมือนจะบ่งบอกว่าพยายามที่จะหนีออกจากปัญหาของคุณไม่ได้ทำให้พวกเขาหายไป แต่พวกเขาทำตามคุณทุกที่ที่คุณไปและบางครั้งได้รับที่จะเลวร้ายมากในกระบวนการ ปัญหาที่เป็นภาพในภาพยนตร์เทลและหลุยส์อีกได้เกี่ยวกับวิธีการเทลและหลุยส์ไม่ได้ต้องการที่จะไปตำรวจเนื่องจากพวกเขาไม่คิดว่าเรื่องราวของพวกเขาจะเชื่อ ผมคิดว่านี่เป็นภาพสะท้อนของระยะเวลาในการที่หนังเรื่องนี้เกิดขึ้น ผู้หญิงรู้สึกว่าพวกเขาเป็นความหวังว่าพวกเขาไปให้ตำรวจ; กลัวว่าเรื่องราวของพวกเขาจะไม่เชื่อตั้งแต่พยานจะสามารถบัญชีสำหรับการเต้นรำที่ใกล้ชิดระหว่างข่มขืนและเทลมา.

ภาพยนตร์เรื่องนี้ยังคงเป็นที่เกี่ยวข้องในวันนี้เพราะผู้หญิงยังคงต้องระวังคนที่มีความตั้งใจดี ภาพยนตร์เรื่องนี้แสดงให้เห็นว่าการตอบสนองในลักษณะที่ไม่ลงตัวสามารถนำไปสู่ชะตากรรม หลุยส์ไม่ควรได้ยิงคนที่แม้จะมีที่เขาถูกข่มขืนและเทลมา disrespecting ผู้หญิงด้วยวาจา.

จุดสำคัญที่สุดหนังเรื่องนี้ทำให้เป็นที่ผู้หญิงไม่ควรชำระสำหรับอะไร ผู้หญิงที่เป็นที่กล่าวถึงก่อนหน้านี้ไม่ได้อยู่ในความโปรดปรานของการเปลี่ยนกฎหมาย พวกเขาไม่ควรที่จะชำระสำหรับธรรมดาทุกข์หรือการกดขี่ ธรรมชาติเทลและหลุยส์เอาแนวคิดของ "ไม่ปักหลัก" ให้เป็นมาก แต่มันก็จำเป็นที่จะต้องแสดงให้เห็นการปลดปล่อยของพวกเขา เมื่อพวกเขาตัดสินใจที่จะไม่ชำระพวกเขากลายเป็นความสุขอย่างแท้จริงและฟรี.

คนพวกเขาในภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นตัวแทนของสุดขั้ว ข่มขืนเป็นตัวแทนของคุณภาพไม่ดีของมนุษย์หลอกลวงไม่สุภาพเสียหายและไม่เกรงใจ บนมืออื่น ๆ , ฮาร์วีย์ Keitel เป็นคนเดียวคนครึ่งที่ดีในภาพยนตร์เรื่องนี้ทั้งที่มีความเคารพสำหรับผู้หญิง รับบทเป็นเหล่านี้เป็นธรรมเพราะผู้ชายของพื้นที่ในครั้งนี้อาจจะไม่ได้ปฏิบัติต่อผู้หญิงด้วยความเคารพ ฉันจะไม่เปลี่ยนอะไรเกี่ยวกับตัวละครชายในหนังเรื่องนี้เพราะผมคิดว่ามันคือการวาดภาพที่ถูกต้องของวิธีการที่ผู้หญิงได้รับการรักษาในช่วงเวลานี้.

โดยรวม, ฉันไม่สนุกกับภาพยนตร์เรื่องนี้ ภาพยนตร์ที่โดดเด่นเป็นผู้หญิงหวานและบริสุทธิ์ แต่ตอนจบจะพิสูจน์ให้เห็นมากมากและรุนแรง ผมชอบหนังเรื่องนี้เพราะมันเป็นเหตุการณ์สำคัญซึ่งจะช่วยให้ฉันอยู่สนใจในภาพยนตร์.

บทความนี้กล่าวถึงมุมมองที่แตกต่างกันซึ่งเป็นตัวแทนของความคิดที่แตกต่างกันสำหรับวิธีการกดขี่ของผู้หญิงที่จะรักษา ในขณะที่สตรีหลายคนมองว่าการกดขี่ของผู้หญิงที่เป็นลักษณะทางชีวภาพโดยธรรมชาติของคนที่มาร์กซ์อธิบายว่ารากของการกดขี่ของผู้หญิงไม่ได้อยู่ในทางชีววิทยา แต่ในเงื่อนไขทางสังคม ผมคิดว่าการกดขี่ไม่ได้เป็นลักษณะโดยธรรมชาติของผู้ชาย แต่ฉันเห็นด้วยกับมาร์กซ์ belief- กดขี่เป็นไปตามรอบเงื่อนไขทางสังคม.

บีบคั้นสามารถเอาชนะโดยไม่ constraining ผู้หญิงที่จะมีบทบาทสำคัญโดยเฉพาะอย่างยิ่งที่มีตำแหน่งเด่นชายประเพณี ยกตัวอย่างเช่นผู้หญิงมากขึ้นควรจะได้รับการว่าจ้างเป็นผู้จัดการตัดสินเชฟผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี, การเมือง, ฯลฯ