Warehouse benchmarkingA way to meas

Warehouse benchmarking
A way to measure non-financial performance of warehouses is benchmarking, which identifies
warehouse inefficiencies of the critical resources such as labor, space, storage and handling
equipment. Benchmarking is defined as ‘’[…] continuous measurement and improvement of an
organization’s performance against the best in the industry to obtain information about newworking methods or practices (Kozak, p.1).’’ Benchmarking does not mean to adopt the methods
of the benchmarkee (the organization being benchmarked), but rather to compare the
performance, to look at the way the other companies are more efficient, to learn valuable lessons,
improve quality and customer satisfaction and by this, to gain superior performance (Kozak ;
Watson 1993; Johnson, Chen, and McGinns 2009).
Effective benchmarking requires a frame of reference from a wide group of best-practice
warehouses for the measurement of performance. The primary hindrance for the implementation
of this method is gathering sufficient data for characterizing the best performance since
companies are sensitive for data-sharing, especially for proprietary information about a firm’s
operations or financials. However, due to the development of Internet technology the problem of
collecting data can be solved by Internet performance measurement tools. An ongoing
collaboration between academia and the warehousing industry has laid the foundation of the
iDEAs-W tool for Internet benchmarking by which through online collection and maintenance of
data, firms could get both individual firm evaluation, and industry-level trends. This
benchmarking tool can provide efficiency estimates, gap analysis (pie charts describing the
connection between partial productivity analysis and the efficiency estimates), and practice and
attribute information for the efficient production processes identified as benchmarks (Johnson,
Chen, and McGinns 2009)

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

คลังสินค้าเปรียบเทียบวิธีการวัดประสิทธิภาพของเงินของคลังสินค้าคือการเปรียบเทียบ ซึ่งระบุใจสินค้าทรัพยากรสำคัญเช่นแรงงาน พื้นที่ การจัดเก็บ และการจัดการอุปกรณ์ เปรียบเทียบถูกกำหนดให้เป็น '' วัดต่อเนื่อง [...] และปรับปรุงการปฏิบัติงานขององค์กรกับดีสุดในอุตสาหกรรมเพื่อขอรับข้อมูลเกี่ยวกับ newworking วิธีหรือแนวทางปฏิบัติ (Kozak, p.1) .'' การเปรียบเทียบหมายถึง การนำวิธีการbenchmarkee (องค์กรที่ถูกตั้งค่ามาตรฐาน), แต่ ความเปรียบเทียบประสิทธิภาพ การดูวิธี บริษัทอื่น ๆ มีประสิทธิภาพมากขึ้น เรียนรู้บทเรียนอันมีค่าปรับปรุงคุณภาพและลูกค้าพึงพอใจและ โดยการ นี้ เพื่อประสิทธิภาพที่เหนือกว่า (KozakWatson 1993 จอห์นสัน เฉิน และ McGinns 2009)เปรียบเทียบประสิทธิภาพจำเป็นต้องมีกรอบของการอ้างอิงจากกลุ่มกว้างของปฏิบัติคลังสินค้าสำหรับการวัดประสิทธิภาพการทำงาน อุปสรรคหลักสำหรับการดำเนินการวิธีการนี้คือการรวบรวมข้อมูลศึกษาประสิทธิภาพที่ดีที่สุดตั้งแต่บริษัทมีความสำคัญสำหรับข้อมูลร่วมกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับข้อมูลเป็นกรรมสิทธิ์ของบริษัทการดำเนินงานหรือการเงิน อย่างไรก็ตาม เนื่องจากการพัฒนาของเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตปัญหาของรวบรวมข้อมูลจะสามารถแก้ไขได้ โดยเครื่องมือวัดประสิทธิภาพการทำงานของอินเทอร์เน็ต ตัวอย่างต่อเนื่องความร่วมมือระหว่างวิชาการและคลังสินค้าอุตสาหกรรมได้วางรากฐานของการไอเดีย-W มือสำหรับอินเทอร์เน็ตเปรียบเทียบซึ่งผ่านออนไลน์เก็บและการบำรุงรักษาข้อมูล บริษัทจะได้รับทั้งประเมินบริษัทที่แต่ละบุคคล และแนวโน้มอุตสาหกรรมระดับ นี้มือ benchmarking สามารถให้ประสิทธิภาพการประเมิน การวิเคราะห์ช่องว่าง (แผนภูมิวงกลมอธิบายการเชื่อมต่อระหว่างประสิทธิภาพและผลผลิตบางส่วนวิเคราะห์ประเมิน), และการปฏิบัติ และแอตทริบิวต์ข้อมูลสำหรับกระบวนการผลิตที่มีประสิทธิภาพที่เป็นมาตรฐาน (จอห์นสันเฉิน และ McGinns 2009)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

คลังสินค้าการเปรียบเทียบ
วิธีการวัดประสิทธิภาพการทำงานที่ไม่ใช่สถาบันการเงินของคลังสินค้าคือการเปรียบเทียบซึ่งระบุ
ความไร้ประสิทธิภาพคลังสินค้าของทรัพยากรที่สำคัญเช่นแรงงาน, พื้นที่, การจัดเก็บและการจัดการ
อุปกรณ์ Benchmarking ถูกกำหนดให้เป็น '' [ ... ] วัดอย่างต่อเนื่องและการพัฒนาของ
ผลการดำเนินงานขององค์กรกับที่ดีที่สุดในอุตสาหกรรมที่จะได้รับข้อมูลเกี่ยวกับ newworking วิธีการหรือการปฏิบัติ (Kozak, p.1). '' เปรียบเทียบไม่ได้หมายความว่าจะนำมาใช้วิธีการ
ของ benchmarkee (องค์การที่มีการวัดประสิทธิผล) แต่เพื่อเปรียบเทียบ
ประสิทธิภาพการทำงานที่จะดูที่วิธีการที่ บริษัท อื่น ๆ ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นในการเรียนรู้บทเรียนที่มีคุณค่า
ในการปรับปรุงคุณภาพและพึงพอใจของลูกค้าและจากนี้จะได้รับประสิทธิภาพที่เหนือกว่า (Kozak;
วัตสัน 1993. จอห์นสันเฉินและ McGinns 2009)
การเปรียบเทียบที่มีประสิทธิภาพต้องกรอบของการอ้างอิงจากกลุ่มที่กว้างของที่ดีที่สุดการปฏิบัติ
คลังสินค้าสำหรับการวัดประสิทธิภาพการทำงาน อุปสรรคหลักสำหรับการดำเนินการ
ของวิธีนี้คือการรวบรวมข้อมูลที่เพียงพอสำหรับการพัฒนาการประสิทธิภาพการทำงานที่ดีที่สุดตั้งแต่
บริษัท มีความสำคัญสำหรับการแชร์ข้อมูลโดยเฉพาะอย่างยิ่งเกี่ยวกับข้อมูลที่เป็นกรรมสิทธิ์ของ บริษัท
ดำเนินงานหรือการเงิน แต่เนื่องจากการพัฒนาของเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตปัญหาของ
การเก็บรวบรวมข้อมูลสามารถแก้ไขได้โดยเครื่องมือวัดประสิทธิภาพการทำงานของอินเทอร์เน็ต อย่างต่อเนื่อง
ความร่วมมือระหว่างสถาบันการศึกษาและอุตสาหกรรมคลังสินค้าได้วางรากฐานของ
เครื่องมือความคิด-W สำหรับการเปรียบเทียบอินเทอร์เน็ตโดยที่ผ่านการเก็บออนไลน์และการบำรุงรักษาของ
ข้อมูลที่ บริษัท จะได้รับทั้งการประเมินผลแต่ละ บริษัท และแนวโน้มในระดับอุตสาหกรรม นี้
เครื่องมือที่สามารถให้การเปรียบเทียบประมาณการประสิทธิภาพการวิเคราะห์ช่องว่าง (แผนภูมิวงกลมอธิบาย
การเชื่อมต่อระหว่างการวิเคราะห์การผลิตบางส่วนและประมาณการประสิทธิภาพ) และการปฏิบัติและ
ข้อมูลแอตทริบิวต์สำหรับกระบวนการผลิตที่มีประสิทธิภาพระบุว่าเป็นมาตรฐาน (จอห์นสัน
เฉินและ McGinns 2009)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

มาตรฐานคลังสินค้าวิธีการวัดประสิทธิภาพทางการเงินของคลังสินค้ามีการเทียบเคียงซึ่งระบุคลังสินค้าที่ไม่มีประสิทธิภาพของทรัพยากรที่สำคัญ เช่น พื้นที่การจัดเก็บและการจัดการแรงงานอุปกรณ์ การกำหนดเป็น " " [ . . . ] การวัดต่อเนื่องและปรับปรุงของประสิทธิภาพขององค์กรต่อที่ดีที่สุดในอุตสาหกรรมเพื่อให้ได้ข้อมูลเกี่ยวกับ newworking วิธีการหรือแนวทางปฏิบัติ ( Kozak ป. , ) " " ใช้ไม่ได้หมายความว่าให้ใช้วิธีของ benchmarkee ( องค์กรการตรวจสอบ ) แต่เพื่อเปรียบเทียบประสิทธิภาพ เพื่อดูวิธีที่ บริษัท อื่น ๆที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นเพื่อเรียนรู้บทเรียนที่มีคุณค่าปรับปรุงคุณภาพและความพึงพอใจของลูกค้า และตามนี้ เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพที่เหนือกว่า ( โค ;วัตสัน 1993 ; จอห์นสัน , เฉิน , และ mcginns 2009 )การเปรียบเทียบประสิทธิภาพต้องใช้กรอบอ้างอิงจากกลุ่มกว้างของการปฏิบัติที่ดีที่สุดคลังสินค้าสำหรับการวัดประสิทธิภาพ ซึ่งเป็นอุปสรรคหลักในการใช้ของวิธีนี้คือการรวบรวมข้อมูลที่เพียงพอเพื่อแสดงประสิทธิภาพที่ดีที่สุดตั้งแต่บริษัท มีความไวในการแบ่งปันข้อมูล โดยเฉพาะข้อมูลที่เป็นกรรมสิทธิ์ของ บริษัท เกี่ยวกับการดําเนินงานหรือการเงิน อย่างไรก็ตาม เนื่องจากการพัฒนาของเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ต ปัญหาของการเก็บรวบรวมข้อมูลจะสามารถแก้ไขได้โดยเครื่องมือวัดประสิทธิภาพของอินเทอร์เน็ต เป็นอย่างต่อเนื่องความร่วมมือระหว่างสถาบันการศึกษาและอุตสาหกรรมคลังสินค้าได้วางรากฐานของเครื่องมือสำหรับการ ideas-w อินเทอร์เน็ตโดยผ่านคอลเลกชันออนไลน์ และการบำรุงรักษาข้อมูล บริษัท จะได้รับทั้งบุคคลและ บริษัท ประเมิน แนวโน้มระดับอุตสาหกรรม นี้การเปรียบเทียบเครื่องมือที่สามารถให้ประมาณการประสิทธิภาพ ( พายแผนภูมิอธิบายการวิเคราะห์ช่องว่างความสัมพันธ์ระหว่างการวิเคราะห์ผลผลิตบางส่วนและประสิทธิภาพประมาณ ) และการปฏิบัติ และข้อมูลคุณลักษณะเพื่อการผลิตที่มีประสิทธิภาพกระบวนการที่ระบุเป็นมาตรฐาน ( จอห์นสันเฉิน และ mcginns 2009 )