Tord Boontje is a Dutch designer wh

Tord Boontje is a Dutch designer whose education at the Eindhoven Design Academy and the Royal College of Art London set the foundation for Studio Tord Boontje.
Established in 1996, the studio’s early projects involved creating studio produced low-cost or free products such as Transglass, Rough-and-Ready furniture and the Wednesday Collection. While his work was starting to be shown in exhibitions, institutions such as the British Council and the Design Museum recognised and supported his talent.

By 2002 the unique Garland light for Habitat was a widely recognised and distributed product and the articulate and beautiful Blossom chandelier for Swarovski was making waves; but it was an installation created in the Moroso showroom during the 2004 Milan Salone that sent the international media into a frenzy. Titled ‘Happy Ever After’, this was an installation full of texture, colour and imagery. This sensorial experience made the statement that design can be married with emotion. It established that the Studio’s work draws from a belief that modernism does not mean minimalism, that contemporary does not forsake tradition, and that technology does not abandon people and senses.

A high profile project with Target in 2005 saw Boontje on USA television in his own advert surrounded by animated animals and nature. In 2007 Rizzoli dedicated a book to describing the first 10 years of Studio Tord Boontje. The start of 2015 saw Sotheby’s London stage ORIGINALS, a selling exhibition of works by Boontje and sculptor Emma Woffenden. Spread across 3 gallery spaces, the exhibition showcased his most celebrated pieces including the monumental Fig Leaf wardrobe and unique chairs from the Happy Ever After installation.

Tord Boontje has worked with a range of international companies such as Shiseido, Yamaha, Hewlett Packard, Bisazza, Target, Philips, Kvadrat, Alexander McQueen, Perrier-Jouët, Nanimarquina, Artecnica, Authentics, Meta, Formani and has continued his work with Swarovski, Moroso, and Habitat. The range of products includes lighting, graphics, textiles, ceramics and furniture.

The work can be found in major collections such as the Victoria and Albert Museum, Design Museum and Tate Modern in London and MoMA and Cooper Hewitt in New York.

This extremely creative and prolific studio responds to and leads trends. An interest in social issues grew into working with artisans in developing countries and led to projects in Guatemala, Senegal, Rio de Janeiro and Columbia.

The studio has grown, evolved and travelled. They spent 5 years in rural France before Boontje decided to return to London in 2009 and engage with education, taking up the challenging appointment as Professor and Head of Design Products at the Royal College of Art, a position he held for 4 years.

An experiment to place the studio, workshop and his first retail outlet on one premises led to a move to Shoreditch in East London in 2012. From here the studio launches and makes new experimental collections of products. This independent and creative method of working also serves and inspires the still continuing long-term relationships with clients and initiates new ones.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

Tord Boontje เป็นนักออกแบบชาวดัตช์ที่มีการศึกษาที่สถาบันการออกแบบ Eindhoven และวิทยาลัยศิลปะลอนดอนตั้งรากฐานสำหรับสตูดิโอ Tord Boontje.
ก่อตั้งขึ้นในปี 1996 สตูดิโอโครงการต้นที่เกี่ยวข้องกับการสร้างสตูดิโอผลิตต้นทุนต่ำหรือผลิตภัณฑ์ฟรีเช่น Transglass, เฟอร์นิเจอร์หยาบและพร้อมและการเก็บพุธ ในขณะที่การทำงานของเขาก็เริ่มที่จะแสดงในการจัดนิทรรศการสถาบันเช่น British Council และพิพิธภัณฑ์การออกแบบได้รับการยอมรับและได้รับการสนับสนุนความสามารถของเขา. 2002 โดยแสงที่ไม่ซ้ำกันพวงมาลัยสำหรับที่อยู่อาศัยเป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางและการกระจายและปล้องและโคมระย้าดอกที่สวยงามสำหรับ สวารอฟสได้รับการทำให้คลื่น; แต่มันก็ติดตั้งสร้างขึ้นในโชว์รูม Moroso ในช่วงปี 2004 ที่มิลาน Salone ส่งสื่อต่างประเทศบ้าคลั่งหนึ่ง ชื่อ 'มีความสุขหลังจากที่เคย' นี่คือการติดตั้งเต็มรูปแบบของพื้นผิวสีและภาพ ประสบการณ์ความรู้สึกทำคำสั่งการออกแบบที่สามารถแต่งงานกับอารมณ์ความรู้สึก มันเป็นที่ยอมรับว่าการทำงานที่สตูดิโอดึงออกมาจากความเชื่อที่ว่าสมัยไม่ได้หมายความว่าศิลปะที่ร่วมสมัยไม่ละทิ้งประเพณีและเทคโนโลยีที่ไม่ละทิ้งผู้คนและความรู้สึก. โครงการรายละเอียดสูงที่มีเป้าหมายในปี 2005 เห็น Boontje บนจอโทรทัศน์ในสหรัฐอเมริกาของเขาเอง โฆษณาล้อมรอบไปด้วยสัตว์ที่เคลื่อนไหวและธรรมชาติ ในปี 2007 ริซโซลีทุ่มเทหนังสือเพื่ออธิบาย 10 ปีแรกของสตูดิโอ Tord Boontje จุดเริ่มต้นของ 2015 เห็นโซเธอบี้ค่าเดิมเวทีลอนดอนนิทรรศการการขายผลงานของ Boontje ประติมากรและเอ็มม่า Woffenden แผ่กระจายไปทั่ว 3 คันแกลเลอรี่นิทรรศการจัดแสดงชิ้นที่มีชื่อเสียงโด่งดังที่สุดของเขารวมทั้งตู้เสื้อผ้าอนุสาวรีย์รูปใบและเก้าอี้ที่ไม่ซ้ำกันจากความสุขหลังจากที่เคยติดตั้ง. Tord Boontje ได้ทำงานร่วมกับช่วงของ บริษัท ต่างประเทศเช่นชิเซโด้, ยามาฮ่า, Hewlett Packard, Bisazza, Target, ฟิลิปส์ Kvadrat, Alexander McQueen, Perrier Jouet-, Nanimarquina, Artecnica, Authentics, Meta, Formani และยังคงทำงานของเขากับสวารอฟส Moroso และที่อยู่อาศัย ช่วงของผลิตภัณฑ์รวมถึงแสง, กราฟิก, สิ่งทอ, เซรามิกและเฟอร์นิเจอร์. งานที่สามารถพบได้ในคอลเลกชันที่สำคัญเช่นพิพิธภัณฑ์ Victoria and Albert ออกแบบพิพิธภัณฑ์ Tate Modern ในกรุงลอนดอนและรูปภาพและคูเปอร์เฮวิตต์ในนิวยอร์ก. นี้ความคิดสร้างสรรค์มาก และสตูดิโอที่อุดมสมบูรณ์ตอบสนองต่อโอกาสในการขายและแนวโน้ม ความสนใจในประเด็นทางสังคมที่ขยายตัวในการทำงานร่วมกับช่างฝีมือในประเทศกำลังพัฒนาและนำไปสู่โครงการในกัวเตมาลาเซเนกัล Rio de Janeiro และโคลัมเบีย. สตูดิโอได้เติบโตพัฒนาและเดินทาง พวกเขาใช้เวลา 5 ปีในชนบทของฝรั่งเศสก่อน Boontje ตัดสินใจที่จะกลับไปยังกรุงลอนดอนในปี 2009 และมีส่วนร่วมกับการศึกษาการขึ้นแต่งตั้งท้าทายเป็นศาสตราจารย์และหัวหน้าฝ่ายออกแบบผลิตภัณฑ์ที่วิทยาลัยศิลปะตำแหน่งที่เขาจัดขึ้นเป็นเวลา 4 ปีที่ผ่านมา. การทดลอง ที่จะวางสตูดิโอ, การประชุมเชิงปฏิบัติการและร้านค้าปลีกครั้งแรกของเขาในหนึ่งสถานที่นำไปสู่การย้ายไปทช์ในอีสต์ลอนดอนในปี 2012 จากที่นี่เปิดตัวสตูดิโอและทำให้คอลเลกชันใหม่ของการทดลองผลิตภัณฑ์ วิธีนี้เป็นอิสระและความคิดสร้างสรรค์ในการทำงานยังทำหน้าที่เป็นแรงบันดาลใจและยังคงดำเนินการต่อไปความสัมพันธ์ระยะยาวกับลูกค้าและเริ่มต้นใหม่

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ทอดถั่วน้อยเป็นดัตช์นักออกแบบที่มีการศึกษาที่สถาบันการออกแบบ Eindhoven และวิทยาลัยศิลปะลอนดอนตั้งมูลนิธิสตูดิโอทอดถั่วน้อย
ก่อตั้งขึ้นในปี 1996 ของสตูดิโอก่อนโครงการที่เกี่ยวข้องการสร้างสตูดิโอผลิตสินค้าราคาถูกหรือฟรีเช่น transglass หยาบ และ เฟอร์นิเจอร์ พร้อม และ คอลเลกชัน วันพุธในขณะที่งานของเขาก็เริ่มที่จะแสดงในนิทรรศการ สถาบัน เช่น สภาอังกฤษและพิพิธภัณฑ์การออกแบบที่ได้รับการยอมรับและสนับสนุนความสามารถของเขา . . . . . .

โดย 2002 แสงมาลัยกันสำหรับที่อยู่อาศัยคือการยอมรับอย่างกว้างขวางและการกระจายสินค้า และปล้องและโคมระย้าดอกไม้ที่สวยงามสำหรับ Swarovski ทำให้คลื่น ;แต่มันคือการติดตั้งสร้างขึ้นใน moroso โชว์รูมในช่วงปี 2004 มิลาน ซาโลเน่ที่ส่งสื่อนานาชาติเข้าไปในความโกลาหล ซึ่งหลังจากที่มีความสุข ' นี้คือการติดตั้งเต็มรูปแบบของพื้นผิว สี และภาพ ประสบการณ์ต่อ นี้ ทำ ให้ ชี้แจงว่า การออกแบบสามารถแต่งงานกับอารมณ์มันขึ้นว่าของสตูดิโอ งานวาด จากความเชื่อที่ว่า สมัย ไม่ได้หมายความว่า ศิลปะ , ร่วมสมัยที่ไม่ละทิ้งประเพณี และ เทคโนโลยีที่ไม่ทิ้งประชาชนและสัมผัส

โครงการสูงโปรไฟล์กับเป้าหมายในปี 2005 เห็นถั่วน้อยบนโทรทัศน์ในสหรัฐอเมริกาเอง โฆษณา ล้อมรอบด้วยภาพเคลื่อนไหว สัตว์และธรรมชาติในปี 2007 ริซโซลีเฉพาะหนังสือที่อธิบายถึง 10 ปีแรกของสตูดิโอทอดตัวน้อย การเริ่มต้นของ Sotheby กรุงลอนดอนและเห็นเวทีดั้งเดิม นิทรรศการ งานขาย และ เอ็มม่า woffenden ถั่วน้อยประติมากร . กระจายทั่วเป็น 3 แกลเลอรี่นิทรรศการจัดแสดงของเขาชิ้นที่โด่งดังที่สุด ได้แก่ อนุสาวรีย์รูปใบต้น และเฉพาะเก้าอี้จากสุขเคยหลังจากติดตั้ง

ทอดตัวน้อยได้ทำงานกับช่วงของ บริษัท ต่างประเทศเช่น Shiseido , YAMAHA , Hewlett Packard , bisazza , เป้าหมาย , Philips , ซึ่ง อเล็กซานเดอร์ แม็คควีน Perrier วัน nanimarquina artecnica . T , , , Authentics แต่ ��� , เมื่อ ,formani และมีอย่างต่อเนื่องของเขาทำงานกับ Swarovski , moroso และถิ่นที่อยู่ ช่วงของผลิตภัณฑ์รวมถึงไฟ , กราฟิก , สิ่งทอ เซรามิก เฟอร์

งานนี้สามารถพบได้ในคอลเลกชันที่สำคัญเช่นพิพิธภัณฑ์วิคตอเรียและอัลเบิร์ต ออกแบบพิพิธภัณฑ์และเททในลอนดอนและนิวยอร์ก MoMA และ Cooper Hewitt ทันสมัย

นี้แสนอุดมสมบูรณ์สตูดิโอสร้างสรรค์ และตอบสนองต่อข้อมูลและแนวโน้ม