Bagasse can be regarded as a renewa

Bagasse can be regarded as a renewable material as it is the byproduct
of sugarcane stalks after crushing in order to extract juice.
There have been a number of researches [6–9] exploring the use of
bagasse renewable power or electricity generation sources, and for
the production of bio-based materials. It is often used in the manufacture
of pulp and paper articles as well as in building material
applications. Due to the high production of sugar, the volume of
bagasse has become large [10] and, at present, bagasse has been
adopted and used as a filler in cement and polymeric materials.
In cement applications, the use of the treated bagasse fibers has
potential to substitute cement for retarding the setting durability
time, obtaining thermal stability, decreasing water adsorption,
and improving the fiber–matrix interface stability, and thus creating
enhanced cement adhesion as compared to commercial cement
[11,12], and it has been found that bagasse fiber could improve the
flexural properties of the cement [13]. In polymer applications, bagasse
fibers have been used as reinforcing filler in order to enhance
mechanical properties, reduce product weight and enhance environmentally
friendly characteristics of a wide range of thermoplastics
and thermosetting matrices, such as polypropylene [14,15],
polyester composites [16], polyvinyl chloride and high density
polyethylene [17]. Moreover, bagasse fibers can be utilized as a
property enhancing filler in both natural and synthetic rubbers
[18]. The incorporation of bagasse filler in natural rubber composites
improved tensile strength and barrier properties and increased
the rate of degradation of the rubber in soil

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ชานอ้อยสามารถถือเป็นวัสดุทดแทนมันเป็นผลพลอยได้
ของก้านอ้อยหลังจากบดเพื่อสกัดน้ำผลไม้.
มีจำนวนงานวิจัย [6-9] การสำรวจการใช้
ชานอ้อยพลังงานทดแทนหรือไฟฟ้ารุ่นแหล่งที่มาและสำหรับ
การผลิตวัสดุชีวภาพ มันมักจะถูกนำมาใช้ในการผลิต
เยื่อกระดาษและบทความเช่นเดียวกับในการสร้างวัสดุ
การใช้งาน เนื่องจากการผลิตที่สูงของน้ำตาลปริมาณของ
ชานอ้อยได้กลายเป็นขนาดใหญ่ [10] และในปัจจุบันชานอ้อยที่ได้รับ
นำมาใช้และนำมาใช้เป็นสารตัวเติมในปูนซีเมนต์และวัสดุพอลิเม.
ในการใช้งานซีเมนต์ใช้เส้นใยชานอ้อยได้รับการรักษาได้
ที่มีศักยภาพเพื่อทดแทนปูนซีเมนต์ชะลอความทนทานการตั้งค่า
เวลาการได้รับเสถียรภาพทางความร้อนลดลงการดูดซับน้ำ
และการปรับปรุงเสถียรภาพอินเตอร์เฟซใยเมทริกซ์และทำให้การสร้าง
การยึดเกาะปูนซีเมนต์ที่เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปูนซีเมนต์พาณิชย์
[11,12] และได้รับการค้นพบ เส้นใยชานอ้อยที่สามารถปรับปรุง
คุณสมบัติดัดปูนซีเมนต์ [13] ในการใช้งานลิเมอร์ชานอ้อย
เส้นใยได้ถูกนำมาใช้เป็นสารเสริมแรงเพื่อเพิ่ม
สมบัติเชิงกลลดน้ำหนักของสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและเพิ่ม
ลักษณะที่เป็นมิตรของความหลากหลายของเทอร์โม
และเมทริกซ์เทอร์โมเช่นโพรพิลีน [14,15],
คอมโพสิตโพลีเอสเตอร์ [16 ] คลอไรด์โพลีไวนิลและความหนาแน่นสูง
เอทิลิน [17] นอกจากนี้เส้นใยชานอ้อยสามารถใช้เป็น
สถานที่ให้บริการการเสริมสร้างสารตัวเติมในยางทั้งธรรมชาติและสังเคราะห์
[18] การรวมตัวกันของสารตัวเติมชานอ้อยในยางธรรมชาติคอมโพสิต
ปรับตัวดีขึ้นความต้านทานแรงดึงและคุณสมบัติอุปสรรคและเพิ่ม
อัตราการย่อยสลายของยางในดิน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ชานอ้อยสามารถถือว่าเป็นวัสดุทดแทนเป็นผลพลอยได้
อ้อยต้นหลังจากบดเพื่อสกัดน้ำผลไม้
มีหลายงานวิจัย [ 6 – 9 ] การใช้พลังงานทดแทน หรือไฟฟ้า
กาก
แหล่งที่มาของการผลิตและการผลิตไบโอ ตามวัสดุ มันมักจะใช้ในการผลิต
บทความของกระดาษและเยื่อกระดาษ รวมทั้งการใช้วัสดุ
อาคาร เนื่องจากการผลิตน้ำตาลสูง , ปริมาณ
ชานอ้อยได้กลายเป็นขนาดใหญ่ [ 10 ] และปัจจุบันอ้อยมี
ยอมรับและใช้เป็นสารตัวเติมในซีเมนต์และวัสดุพอลิเมอร์ .
ในงานปูนซีเมนต์ , ใช้ในการรักษาชานอ้อยเส้นใยมีศักยภาพที่จะแทนที่ซีเมนต์

หน่วงเวลาความทนทาน การตั้งค่าได้รับความเสถียรต่อความร้อน ลดการดูดซับน้ำ , และการปรับปรุงเส้นใยเมทริกซ์
–การเชื่อมต่อเสถียรภาพและจึงสร้าง
เพิ่มซีเมนต์ยึดติดเมื่อเทียบกับโฆษณาปูนซีเมนต์
[ 11,12 ] และพบว่าเส้นใยชานอ้อยสามารถปรับปรุง
ดัดของซีเมนต์ [ 13 ] ในการประยุกต์ใช้พอลิเมอร์ เส้นใยจากชานอ้อย
ถูกใช้เป็นสารเสริมแรงเพื่อเพิ่ม
คุณสมบัติทางกลลดผลิตภัณฑ์ลดน้ำหนักและเพิ่มสิ่งแวดล้อม
เป็นกันเอง ลักษณะของช่วงกว้างของเทอร์โมพลาสติก และเทอร์โมเซ็ตติ้ง
เมทริกซ์ เช่นโพรพิลีน [ 14,15 ] ,
โพลีคอมโพสิต [ 16 ] , คลอไรด์โพลีไวนิลและความหนาแน่นสูง polyethylene
[ 17 ] นอกจากนี้ เส้นใยจากชานอ้อยสามารถใช้เป็นคุณสมบัติเพิ่มเติม
ทั้งในธรรมชาติและยางสังเคราะห์
[ 18 ]การรวมตัวของชานอ้อยบรรจุในคอมโพสิตยางธรรมชาติ
เพิ่มแรงดึงและคุณสมบัติของสิ่งกีดขวางและเพิ่มขึ้น
อัตราการย่อยสลายของยาง ในดิน