The paper begins by arguing that kn

The paper begins by arguing that knowledge-blindness in educational research represents a
serious obstacle to understanding knowledge-building. It then offers sociological concepts
from Legitimation Code Theory – ‘semantic gravity’ and ‘semantic density’ – that systematically
conceptualize one set of organizing principles underlying knowledge practices.
Brought together as ‘semantic profiles’, these allow changes in the context-dependence
and condensation of meaning of knowledge practices to be traced over time. These concepts
are used to analyze passages of classroom practice from secondary school lessons in
Biology and History. The analysis suggests that‘semantic waves’, where knowledge is transformed
between relatively decontextualized, condensed meanings and context-dependent,
simplified meanings, offer a means of enabling cumulative classroom practice. How these
concepts are being widely used to explore organizing principles of diverse practices in education
and beyond is discussed, revealing the widespread, complex and suggestive nature
of ‘semantic waves’ and their implications for cumulative knowledge-building.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

กระดาษเริ่มต้นด้วยการโต้เถียงที่ตาบอดความรู้ในการศึกษาวิจัยแสดงความอุปสรรคร้ายแรงเพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจ แล้วเสนอแนวคิดสังคมวิทยาจากทฤษฎีรหัส Legitimation – 'แรงโน้มถ่วงความหมาย' และ 'ความหนาแน่นความหมาย' – ที่เป็นระบบconceptualize จัดระเบียบหลักปฏิบัติความรู้ต้นแบบ 1 ชุดนำเข้าด้วยกันเป็น 'ความหมายโปรไฟล์' ช่วยให้การเปลี่ยนแปลงในการพึ่งพาบริบทและสรุปความหมายของความรู้ปฏิบัติเพื่อติดตามเวลา แนวคิดเหล่านี้ใช้ในการวิเคราะห์ทางเดินของห้องเรียนปฏิบัติจากบทเรียนมัธยมศึกษาชีววิทยาและประวัติศาสตร์ การวิเคราะห์แนะนำ that'semantic คลื่น ที่มีแปลงความรู้ระหว่างความหมายค่อนข้าง decontextualized บีบและเนื้อหาขึ้นอยู่กับความหมายง่าย มีวิธีการทำแบบฝึกหัดเรียนสะสม วิธีเหล่านี้แนวคิดการใช้การจัดการหลักการปฏิบัติที่หลากหลายในการศึกษาและนอกเหนือจากเป็น เปิดเผยธรรมชาติอย่างกว้างขวาง ซับซ้อน และชี้นำ'คลื่นความหมาย' และผลกระทบของพวกเขาสำหรับความรู้สะสมอาคาร

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

กระดาษเริ่มต้นด้วยการเถียงว่าความรู้การตาบอดในการวิจัยการศึกษาแสดงให้เห็นถึงอุปสรรคร้ายแรงในการทำความเข้าใจการสร้างความรู้ จากนั้นก็มีแนวความคิดทางสังคมวิทยาจากทฤษฎีชอบธรรมรหัส - 'แรงโน้มถ่วงความหมาย' และ 'ความหนาแน่นของความหมาย - ที่เป็นระบบ. กรอบความคิดหนึ่งชุดของหลักการการจัดระเบียบปฏิบัติที่มีความรู้พื้นฐานมาร่วมกันเป็น' โปรไฟล์ความหมาย 'เหล่านี้ช่วยให้การเปลี่ยนแปลงในการพึ่งพาอาศัยบริบทและการรวมตัวความหมายของการปฏิบัติความรู้ในการตรวจสอบอยู่ตลอดเวลา แนวคิดเหล่านี้ถูกนำมาใช้ในการวิเคราะห์ทางเดินของการปฏิบัติในห้องเรียนบทเรียนจากโรงเรียนมัธยมในชีววิทยาและประวัติศาสตร์ การวิเคราะห์แสดงให้เห็น that'semantic คลื่น 'ที่มีความรู้จะเปลี่ยนระหว่างค่อนข้างdecontextualized ความหมายและบริบทข้นขึ้นอยู่กับความหมายง่ายมีวิธีการที่ช่วยให้การปฏิบัติในห้องเรียนที่สะสม วิธีการเหล่านี้แนวความคิดที่มีการใช้กันอย่างแพร่หลายในการสำรวจการจัดระเบียบหลักการของการปฏิบัติที่มีความหลากหลายในการศึกษาและเกินจะกล่าวเผยให้เห็นอย่างกว้างขวางธรรมชาติที่ซับซ้อนและการชี้นำของคลื่นความหมายและความหมายของพวกเขาสำหรับการสะสมการสร้างความรู้

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

กระดาษเริ่มต้นโดยให้เหตุผลว่า ความรู้ ตาบอดในการศึกษาวิจัย แสดงถึงอุปสรรคที่ร้ายแรงที่จะสร้างความรู้ความเข้าใจ
. ก็เสนอแนวคิดและทฤษฎีทางสังคมวิทยาจาก
' รหัสถูกต้องตามกฎหมายความหมายแรงโน้มถ่วง ' และ ' ความหนาแน่น ' ความหมายที่คิดอย่างเป็นระบบ (
1 ชุดปฏิบัติการจัดหลักการพื้นฐานความรู้ .
มาร่วมกันเป็น ' โปรไฟล์ ' ความหมาย เหล่านี้อนุญาตให้เปลี่ยนแปลงในบริบทของการพึ่งพา
และการควบแน่นความหมายของความรู้ปฏิบัติเพื่อติดตามตลอดเวลา แนวคิดเหล่านี้
ใช้วิเคราะห์หัวข้อการปฏิบัติในห้องเรียนจากบทเรียนในโรงเรียนมัธยมศึกษา
ชีววิทยาและประวัติศาสตร์ การวิเคราะห์ชี้ให้เห็น that'semantic คลื่น ' ซึ่งความรู้ที่เปลี่ยนไประหว่างที่ค่อนข้าง decontextualized
,ความหมายย่อและบริบทขึ้นอยู่กับ
ง่าย ความหมาย เสนอวิธีการช่วยให้ฝึกเรียนแบบสะสม ว่าแนวคิดเหล่านี้จะถูกใช้อย่างกว้างขวางเพื่อสำรวจ
จัดหลักความหลากหลายของการปฏิบัติในการศึกษา
และเกินจะกล่าวถึง การเปิดเผยอย่างกว้างขวาง ความซับซ้อน และร่องรอยธรรมชาติ
' ความหมาย ' ความหมายของคลื่นและสร้างความรู้สะสม