Augustin Fresnel first developed the

Augustin Fresnel first developed the equations derived in the previous section. However, at the time he did not have the benefit of Maxwell’s equations, since he lived well before Maxwell’s time. Instead, Fresnel thought of light as transverse mechanical waves propagat- ing within materials. (We can see why Fresnel was a great proponent of the later-discredited luminiferous ether.) Instead of relating the parallel components of the electric and magnetic fields across the boundary between the materials, Fresnel used the principle that, as a trans- verse mechanical wave propagates from one material to the other, the two materials should not slip past each other at the interface. This “gluing” of the materials at the interface also forbids the possibility of the materials detaching from one another (creating gaps) or pass- ing through one another as they experience the wave vibration. This mechanical approach to light worked splendidly and explained polarization effects along with the variations in reflectance and transmittance as a function of the incident angle of the light. Fresnel wrote the relationships between the various plane waves depicted in Fig. 3.1 in terms of coefficients that compare the reflected and transmitted field amplitudes to those of the incident field. He then calculated the ratio of the reflected and transmitted

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

first โอกุ Fresnel พัฒนาสมการที่ได้มาในส่วนก่อนหน้า อย่างไรก็ตาม เมื่อ เขาไม่ได้ benefit ของสมการของแมกซ์เวลล์ เนื่องจากเขาอาศัยอยู่กันก่อนเวลาของแมกซ์เวลล์ แทน Fresnel คิดว่า แสงเป็นคลื่นกล transverse propagat กำลังภายในวัสดุ (เราสามารถดูทำไม Fresnel มี proponent ที่ดีของการต่อ discredited luminiferous อีเทอร์) แทนเกี่ยวกับส่วนประกอบของ fields ไฟฟ้า และแม่เหล็กขนานข้ามเขตแดนระหว่างวัสดุ Fresnel ใช้หลักว่า เป็นคลื่นกลข้อทรานส์แพร่กระจายจากวัสดุหนึ่งไปอื่น ๆ วัสดุสองควรไม่จัดส่งผ่านกันในอินเทอร์เฟซ นี้ "ติดกาว" วัสดุที่อินเทอร์เฟซยังห้ามปรามของวัสดุ detaching อื่น (สร้างช่องว่าง) หรือผ่านกำลังผ่านกัน ตามที่พวกเขาพบคลื่นสั่นสะเทือน วิธีนี้เครื่องจักรกลไฟทำงานตกแต่งอย่างสวยงาม และอธิบายโพลาไรซ์ effects พร้อมกับรูปแบบใน reflectance และ transmittance เป็นฟังก์ชันของมุมปัญหาของแสง Fresnel เขียนความสัมพันธ์ระหว่างคลื่นระนาบต่าง ๆ ที่แสดงใน Fig. 3.1 ใน coefficients ที่เปรียบเทียบ reflected และส่งช่วง field กับ field เหตุการณ์ เขาคำนวณอัตราส่วนของ reflected และส่งแล้ว

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

Augustin เฟรสจึงตัดสินใจเดินทางไปพัฒนาสมการในส่วนก่อนหน้า อย่างไรก็ตาม ในเวลาที่เขาไม่ได้ดีจึงไม่ของสมการของแมกซ์เวลล์ ตั้งแต่เขาอยู่ก่อนในเวลา แทน , Fresnel คิดว่าแสงเป็นคลื่นตามขวาง กล propagat - ing ภายในวัสดุ ( เราสามารถดูทำไมเฟรสเป็นผู้สนับสนุนที่ดีของต่อมาเสียชื่อเสียงเปล่งแสง อีเทอร์) แทนเกี่ยวกับส่วนประกอบของไฟฟ้าและแม่เหล็กขนานจึง elds ข้ามรอยต่อระหว่างวัสดุ เฟรส ใช้หลักการที่เป็น trans - กลอนกลคลื่นแพร่กระจายจากวัสดุอื่น ๆ , สองวัสดุที่ไม่ควรผ่านแต่ละอื่น ๆที่เชื่อมต่อ" กาว " ของวัสดุที่ติดต่อยังห้ามความเป็นไปได้ของวัสดุที่แยกจากกัน ( สร้างช่องว่าง ) หรือผ่าน - ing ผ่านอีกคนหนึ่งที่พวกเขาพบการสั่นสะเทือนของคลื่นเครื่องกลนี้วิธีการแสงทำงานสวยหรูและอธิบายเป็น E ffผลพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงในเรื่องfl ectance และการส่งผ่านที่เป็นฟังก์ชันของมุมของแสง Fresnel เขียนความสัมพันธ์ระหว่างระนาบคลื่นต่าง ๆที่ปรากฎในรูปที่ 3.1 ในแง่ของโคffi cients เปรียบเทียบอีกครั้งflประมวล และส่งแรงบิดจึงละมั่งที่เหตุการณ์จึงละมั่ง .จากนั้นเขาก็คำนวณอัตราส่วนของกำลังflประมวลและส่ง