In Italy, higher education reforms

In Italy, higher education reforms have been met with mixed reactions. In 2010 the government introduced a bill aiming to boost domestic competition by offering economic incentives to universities. The reform also initiated competitive and performance-based research funding, mergers between smaller institutions, and representation of the private sector on boards of directors. However, student protests in 2010 and 2011 hampered the government's plan to implement a full-scale overhaul of the university system.

Bureaucracy is the main problem. As Alessandro Monti points out in his book Investigation of the Decline of Italian Universities (2007), more than 1,000 laws and rules were introduced from 1990 to 2006. 'University barons' control hiring policies and resist reforms; one of the main goals of newly introduced legislation is to reduce their influence. In some cases universities are even family-run institutions. According to research by L'Espresso and La Repubblica, Italian universities are 10 times more likely than other employers in the country to hire members of the same family.

Italy's real problem, and a possible factor in its economic predicament, however, is the lack of connection between universities and the business world. In 2007, only 7% of Italian graduates had a degree in a STEM subject.

Unsurprisingly, the crisis has adversely affected public expenditure on higher education. In 2010, the government cut scholarships by 90% to €26m ($32m) for 2011 and €13m ($16m) for 2012. According to Andrea Lombardinilo, an Italian academic, former spokesman for the Ministry of Education, Universities and Research, and author of University: The Challenge of Change (2010), the recent reform will be incomplete without sufficient funding, especially for recruitment of young researchers and quality assurance. He points out that there has been a 7.2% reduction in resources allocated to universities through the state-run Fondo di Finanziamento Ordinario (FFO) since 2009, and the number of academic staff and researchers has decreased from 64,000 to 54,000, one of the smallest numbers in Europe as a percentage of the population.


The competent offices of the national health system diagnose SLDs and the pupil’s family submits the relevant documentation to the school.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ในอิตาลี ปฏิรูปการศึกษาได้ตรงตามกับปฏิกิริยาผสม ในปี 2553 รัฐบาลนำตั๋วที่มีเป้าหมายเพื่อเพิ่มการแข่งขันภายในประเทศ โดยเสนอสิ่งจูงใจทางเศรษฐกิจเพื่อมหาวิทยาลัย การปฏิรูปยังเริ่มต้นการแข่งขัน และ ยึดประสิทธิภาพการทำงานวิจัยทุน ครอบงำระหว่างสถาบันขนาดเล็ก และการแสดงของภาคเอกชนในบอร์ดกรรมการ อย่างไรก็ตาม นักเรียนประท้วงในปี 2553 และ 2554 ขัดขวางแผนการของรัฐบาลเพื่อดำเนินการยกเครื่องอย่างเต็มรูปแบบของมหาวิทยาลัยระบบ

อำมาตยาธิปไตยเป็นหลัก เป็นเอโอมอนตีชี้ให้เห็นในหนังสือของเขาตรวจสอบมหาวิทยาลัยปฏิเสธของอิตาลี (2007), กฎหมายและกฎมากกว่า 1000 ถูกแนะนำจาก 1990 2006 'ขุนนางครั้งมหาวิทยาลัย' ควบคุมนโยบายการจ้างงาน และการต่อต้านการปฏิรูป หนึ่งในเป้าหมายหลักของกฎหมายนำจะลดอิทธิพล ในบางกรณี มหาวิทยาลัยมีสถาบันครอบครัวได้ ตามงานวิจัย L'Espresso และ La Repubblica มหาวิทยาลัยในอิตาลีมี 10 ครั้งยิ่งกว่าอื่น ๆ นายจ้างในประเทศจ้างสมาชิกของเดียวครอบครัว

ปัญหาจริงของอิตาลี และสัดส่วนได้ในสภาพของเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตาม การขาดการเชื่อมต่อระหว่างมหาวิทยาลัยในโลกธุรกิจได้ ในปี 2007 เพียง 7% ของบัณฑิตอิตาลีมีตัวในเรื่องก้าน

ห้อง วิกฤตมีผลกระทบรายจ่ายสาธารณะอุดมศึกษา ใน 2010 รัฐบาลตัดทุน 90% ไป €26m ($32 เมตร) ในปี 2554 และ €13m ($16 เมตร) สำหรับ 2012 ตาม Andrea Lombardinilo วิชาการอิตาลี อดีตโฆษกกระทรวงศึกษาธิการ มหาวิทยาลัย และการวิจัย และผู้เขียนของมหาวิทยาลัย: ท้าทายของการเปลี่ยนแปลง (2010), การปฏิรูปที่ผ่านมาจะไม่สมบูรณ์ไม่เพียงพอจัดหาเงินทุน การสรรหาบุคลากรนักวิจัยและประกันคุณภาพโดยเฉพาะอย่างยิ่งการ เขาชี้ให้เห็นว่า มี 7 ตัวลด 2% ในทรัพยากรถูกปันส่วนมหาวิทยาลัยผ่านดิฟแวร์รัฐ Finanziamento Ordinario (FFO) ตั้งแต่ 2009 และจำนวนอาจารย์และนักวิจัยได้ลดลงจาก 64,000 เพื่อ 54,000 ตัวเลขที่น้อยที่สุดในยุโรปเป็นเปอร์เซ็นต์ของประชากร


สำนักงานอำนาจของระบบสุขภาพแห่งชาติวินิจฉัย SLDs และครอบครัวของนักเรียนส่งเอกสารที่เกี่ยวข้องกับโรงเรียน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ในอิตาลีที่สูงกว่าการปฏิรูปการศึกษาได้รับการพบกับปฏิกิริยา ในปี 2010 รัฐบาลแนะนำบิลเล็งที่จะเพิ่มการแข่งขันในประเทศโดยนำเสนอสิ่งจูงใจทางเศรษฐกิจไปยังมหาวิทยาลัย การปฏิรูปก็เริ่มการแข่งขันและประสิทธิภาพการทำงานที่ใช้เงินทุนวิจัยการควบรวมกิจการระหว่างสถาบันขนาดเล็กและการเป็นตัวแทนของภาคเอกชนในคณะกรรมการบริหาร อย่างไรก็ตามการประท้วงของนักศึกษาในปี 2010 และ 2011 ขัดขวางแผนของรัฐบาลที่จะดำเนินการตรวจสอบเต็มรูปแบบของระบบมหาวิทยาลัยราชการเป็นปัญหาหลัก เป็นเลสซานโดร Monti ชี้ให้เห็นในการตรวจสอบหนังสือของเขาแห่งความเสื่อมของมหาวิทยาลัยอิตาลี (2007) มากกว่า 1,000 กฎหมายและกฎระเบียบที่ได้รับการแนะนำจากปี 1990 เพื่อควบคุมนโยบายการจ้างงานปี 2006 มหาวิทยาลัยยักษ์ใหญ่ 'และต่อต้านการปฏิรูป; หนึ่งในเป้าหมายหลักของการออกกฎหมายใหม่แนะนำคือการลดอิทธิพลของพวกเขา ในบางกรณีมหาวิทยาลัยเป็นสถาบันแม้แต่ครอบครัว ตามการวิจัยโดย L'เอสเพรสโซ่และลาเรปูมหาวิทยาลัยอิตาเลียนเป็น 10 ครั้งมีแนวโน้มมากกว่าที่นายจ้างคนอื่น ๆ ในประเทศที่จะจ้างสมาชิกของครอบครัวเดียวกันปัญหาที่แท้จริงของอิตาลีและปัจจัยที่เป็นไปได้ในสถานการณ์ทางเศรษฐกิจที่ แต่คือการขาด ของการเชื่อมต่อระหว่างมหาวิทยาลัยและโลกธุรกิจ ในปี 2007 เพียง 7% ของผู้จบการศึกษาอิตาลีมีปริญญาในเรื่อง STEM แปลกใจวิกฤตได้ส่งผลกระทบต่อค่าใช้จ่ายของประชาชนเกี่ยวกับการศึกษาที่สูงขึ้น ในปี 2010 ทุนการศึกษาของรัฐบาลตัด 90% ถึง€ 26m ($ 32m) ในปี 2011 และ€ 13m ($ 16m) สำหรับ 2012 ตามที่แอนเดรี Lombardinilo, อิตาลีวิชาการอดีตโฆษกของกระทรวงศึกษาธิการมหาวิทยาลัยและการวิจัย และผู้เขียนมหาวิทยาลัย: ความท้าทายของการเปลี่ยนแปลง (2010), การปฏิรูปที่ผ่านมาจะไม่สมบูรณ์โดยไม่ต้องเงินทุนที่เพียงพอโดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับการรับสมัครของนักวิจัยหนุ่มและการประกันคุณภาพ เขาชี้ให้เห็นว่ามีการลดลง 7.2% ในทรัพยากรที่จัดสรรให้กับมหาวิทยาลัยผ่านรัฐใช้ฟอนโดดิ Finanziamento Ordinario (FFO) เมื่อปี 2009 และจำนวนของนักวิชาการและนักวิจัยที่มีการลดลงจาก 64,000 ถึง 54,000 ซึ่งเป็นหนึ่งในที่เล็กที่สุด ตัวเลขในยุโรปคิดเป็นร้อยละของประชากรที่สำนักงานมีอำนาจของระบบสุขภาพแห่งชาติวินิจฉัย SLDs และครอบครัวของนักเรียนส่งเอกสารที่เกี่ยวข้องไปยังโรงเรียน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ในอิตาลี , อุดมศึกษาปฏิรูปได้พบกับปฏิกิริยาผสม ในปี 2553 รัฐบาลแนะนำบิลเพื่อเพิ่มการแข่งขันในประเทศ โดยการเสนอสิ่งจูงใจทางเศรษฐกิจกับมหาวิทยาลัย การปฏิรูปยังได้ริเริ่มการแข่งขันและทุนวิจัยผลงานการควบรวมระหว่างสถานศึกษาขนาดเล็ก และเป็นตัวแทนของภาคส่วนบนของคณะกรรมการ อย่างไรก็ตามนักเรียนประท้วงใน 2010 และ 2011 ขัดขวางแผนการของรัฐบาลที่จะใช้เต็มรูปแบบของการยกเครื่องระบบมหาวิทยาลัย .

ระบบราชการเป็นหลัก ปัญหา โดย Alessandro Monti ชี้ให้เห็นในหนังสือของเขา การลดลงของมหาวิทยาลัยอิตาลี ( 2550 ) , มากกว่า 1000 กฎหมายและกฎระเบียบเพิ่มขึ้นจากปี 2549 ” บารอนควบคุมการเช่าและต่อต้านการปฏิรูปนโยบายมหาวิทยาลัย ;หนึ่งในเป้าหมายหลักของการใช้กฎหมายใหม่ เพื่อลดอิทธิพลของพวกเขา ในบางมหาวิทยาลัย กรณีสถาบันวิ่งแม้แต่ครอบครัว ตามการวิจัยโดย l'espresso La Repubblica อิตาลีและมหาวิทยาลัย เป็น 10 เท่า นายจ้างคนอื่น ๆในประเทศที่จะจ้างสมาชิกของครอบครัวเดียวกัน

อิตาลีของปัญหาที่แท้จริง และเป็นปัจจัยที่เป็นไปได้ในสถานการณ์ของเศรษฐกิจอย่างไรก็ตาม การขาดการเชื่อมต่อระหว่างมหาวิทยาลัยและโลกธุรกิจ ในปี 2007 เพียง 7% ของอิตาลีได้รับปริญญาบัณฑิตในวิชา

แปลกใจ , วิกฤตเศรษฐกิจได้ส่งผลกระทบต่อรายจ่ายสาธารณะการศึกษาในระดับอุดมศึกษา 2553 รัฐบาลตัดทุน 90% เพื่อปกป้อง 26m ( $ 32m ) 2011 และด้าน 13M ( $ 16 ล้าน ) สำหรับ 2012 ตาม lombardinilo อิตาเลียน Andrea , วิชาการอดีตโฆษกกระทรวงศึกษาธิการ , มหาวิทยาลัยและการวิจัย และผู้เขียนของมหาวิทยาลัย : ความท้าทายของการเปลี่ยนแปลง ( 2010 ) , การปฏิรูปเมื่อเร็ว ๆ นี้จะไม่สมบูรณ์โดยไม่ต้องระดมทุนเพียงพอ โดยเฉพาะการสรรหานักวิจัยหนุ่ม และประกันคุณภาพ เขาชี้ให้เห็นว่ามี 7ลด 2% ในทรัพยากรที่จัดสรรให้มหาวิทยาลัยผ่านใช้ฟอนโด ดิ finanziamento ordinario ( 75% ) ตั้งแต่ปี 2552 และจำนวนอาจารย์และนักวิจัยได้ลดลงจาก 64 ถึง 54000 , หนึ่งในตัวเลขที่เล็กที่สุดในยุโรป เป็นเปอร์เซ็นต์ของประชากร .

อำนาจสำนักงานของระบบสุขภาพแห่งชาติวินิจฉัย slds และครอบครัวของนักเรียนที่ส่งเอกสารที่เกี่ยวข้องกับโรงเรียน