Palazzo Farnese (Italian pronunciat

Palazzo Farnese (Italian pronunciation: [paˈlattso farˈneːze; -eːse]) is one of the most important High Renaissance palaces in Rome. Owned by the Italian Republic, it was given to the French government in 1936 for a period of 99 years, and currently serves as the French embassy in Italy.

First designed in 1517 for the Farnese family, the building expanded in size and conception when Alessandro Farnese became Pope Paul III in 1534, to designs by Antonio da Sangallo the Younger. Its building history involved some of the most prominent Italian architects of the 16th century, including Michelangelo, Jacopo Barozzi da Vignola and Giacomo della Porta.

At the end of the 16th century, the important fresco cycle of The Loves of the Gods in the Farnese Gallery was carried out by the Bolognese painter Annibale Carracci, marking the beginning of two divergent trends in painting during the 17th century, the Roman High Baroque and Classicism. The famous Farnese sculpture collection, now in the National Archeological Museum of Naples, as well as other Farnese collections, now mostly in Capodimonte Museum in Naples, were accommodated in the palace.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ฟาร์เนเซซโซ (อิตาลีออกเสียง: [paˈlattso farˈneːze; - eːse]) เป็นหนึ่งในพระราชวังเรอเนสซองซ์สูงสำคัญที่สุดในโรม เจ้าของสาธารณรัฐอิตาลี มันให้รัฐบาลฝรั่งเศสในค.ศ. 1936 เป็นระยะเวลา 99 ปี และปัจจุบันทำหน้าที่เป็นสถานทูตฝรั่งเศสในอิตาลีครั้งแรก มาใน 1517 ฟาร์เนเซ ครอบครัวขยายขนาดและความคิดเมื่อเอฟาร์เนเซได้กลายเป็น สมเด็จพระสันตะปาปา Paul III ใน 1534 การออกแบบโดย Antonio da Sangallo Younger อาคาร ประวัติอาคารที่เกี่ยวข้องของสถาปนิกอิตาเลียนโดดเด่นที่สุดของศตวรรษ 16, Michelangelo, Jacopo Barozzi da Vignola และปอ ตาเดลลาจาโกโมในปลายศตวรรษ 16 วงจรสำคัญกลางแจ้งของรักของพระเจ้าใน Gallery ฟาร์เนเซถูกดำเนิน โดยจิตรกรโบโลเนส Annibale Carracci ทำเครื่องหมายจุดเริ่มต้นของสองขันติธรรมแนวโน้มในจิตรกรรมในช่วงศตวรรษ 17 บาโรสูงโรมันและคคลา มีชื่อเสียงฟาร์เนเซประติมากรรมชุด ในชาติโบราณพิพิธภัณฑ์ของเนเปิลส์ รวมทั้งชุดอื่น ๆ ฟาร์เนเซ ตอนนี้ส่วนใหญ่อยู่ในพิพิธภัณฑ์ Capodimonte ในเนเปิลส์ มาพักในวัง

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

วังเซ่ (อิตาลีออกเสียง: [palattso farneːze; -eːse]) เป็นหนึ่งในสิ่งที่สำคัญที่สุดพระราชวังเรเนสซองสูงในกรุงโรม ที่เป็นเจ้าของโดยสาธารณรัฐอิตาลีก็ถูกมอบให้กับรัฐบาลฝรั่งเศสในปี 1936 เป็นระยะเวลา 99 ปีที่ผ่านมาและปัจจุบันทำหน้าที่เป็นสถานทูตฝรั่งเศสในอิตาลี. ได้รับการออกแบบเป็นครั้งแรกใน 1,517 ครอบครัวเซ่อาคารขยายตัวในขนาดและความคิดเมื่อเลสซานโดร Farnese กลายเป็นสมเด็จพระสันตะปาปาปอลที่สามใน 1534 เพื่อออกแบบโดยอันโตนิโอดา Sangallo น้อง ประวัติศาสตร์อาคารที่เกี่ยวข้องกับบางส่วนของสถาปนิกชาวอิตาลีที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดของศตวรรษที่ 16 รวมทั้งเกลันเจโลซานจาโกโป Barozzi ดา Vignola และจาโกโมเดลลาปอร์ตา. ในตอนท้ายของศตวรรษที่ 16, รอบปูนเปียกที่สำคัญของความรักของพระเจ้าในแกลเลอรีเซ่ ได้รับการดำเนินการโดยจิตรกรโบโลเบลล์ Carracci ลายจุดเริ่มต้นของสองแนวโน้มที่แตกต่างกันในการวาดภาพในช่วงศตวรรษที่ 17 พิสดารสูงโรมันและคลาสสิค คอลเลกชันที่มีชื่อเสียงประติมากรรมเซ่ตอนนี้อยู่ในพิพิธภัณฑ์โบราณคดีแห่งชาติของเนเปิลส์เช่นเดียวกับคอลเลกชันเซ่อื่น ๆ ในขณะนี้ส่วนใหญ่อยู่ใน Capodimonte พิพิธภัณฑ์ในเนเปิลส์ได้รับการรองรับในพระราชวัง

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ประชาไท ( อิตาลีการออกเสียง : [ PA ˈ lattso ไกลˈเน่ː ze ; - E ːเซ ] ) เป็นหนึ่งในที่สำคัญที่สุดสูง Renaissance พระราชวังในโรม ของอิตาลี เขาให้รัฐบาลฝรั่งเศสในปี 1936 เป็นระยะเวลา 99 ปี และในปัจจุบันทำหน้าที่เป็นสถานทูต ฝรั่งเศส อิตาลี

แรกออกแบบมาสำหรับตระกูลฟาร์เนเซ 1517 ,อาคารขยายขนาดและความคิดเมื่ออเมริกาโนกลายเป็นสมเด็จพระสันตะปาปาปอลที่ใน 1534 , การออกแบบโดยอันโตนิโอดาซานกาลโลน้อง ประวัติอาคารที่เกี่ยวข้องบางส่วนของอิตาลีสถาปนิกที่โดดเด่นที่สุดของศตวรรษที่ 16 รวมทั้ง Michelangelo , และจาโคโป บารอซซี ดา วิญญอลาจาโกโมเดลลาพอร์ต้า

ในปลายศตวรรษที่ 16ที่สำคัญบริเวณรอบของความรักของพระเจ้าในฟาร์เนเซ่กระทำโดย Bolognese จิตรกรอันนิบาเล Carracci , การทำเครื่องหมายจุดเริ่มต้นของแนวโน้มในการวาดภาพสองอย่างระหว่างศตวรรษที่ 17 , โรมันพิสดารสูงรีสอร์ท ประติมากรรมที่มีชื่อเสียง ฟาร์เนเซคอลเลกชัน , ขณะนี้อยู่ในพิพิธภัณฑ์โบราณคดีแห่งชาติเนเปิลส์เช่นเดียวกับคอลเลกชันฟาร์เนเซอื่น ๆตอนนี้ส่วนใหญ่ในพิพิธภัณฑ์ capodimonte ในเนเปิลส์ ได้อาศัยในพระราชวัง