The subprime crisis began with the

The subprime crisis began with the bursting of the housing bubble in the U.S. and high default rates on subprime and other adjustable rate mortgages(ARM) made to higher-risk borrowers. Loan incentives and trend of rising housing prices encouraged borrowers to assume mortgages, believing they would be able to refinance at more favorable terms later.
However, once housing prices started to drop in 2006-2007 , refinancing became more difficult. In addition, defaults and foreclosure activity increased while ARM interest rates reset higher. The mortgage lenders that retained the risk of payment default were the first to be affected, as borrowers became unable or unwilling to make payments

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

วิกฤตซับไพรม์เริ่มต้นด้วยการระเบิดของฟองที่อยู่อาศัยในตัวเรา และอัตราเริ่มต้นสูงในซับไพรม์และอื่น ๆ การจำนองอัตราการปรับ (แขน) ที่เกิดขึ้นกับผู้กู้มีความเสี่ยงสูง แรงจูงใจของสินเชื่อและแนวโน้มของการเพิ่มขึ้นของราคาที่อยู่อาศัยได้รับการสนับสนุนผู้กู้ที่จะถือว่าการจำนอง, เชื่อว่าพวกเขาจะสามารถที่จะรีไฟแนนซ์ที่แง่ดีมากขึ้นในภายหลัง.
แต่เมื่อราคาที่อยู่อาศัยเริ่มที่จะลดลงใน 2006-2007, การรีไฟแนนซ์กลายเป็นเรื่องที่ยากมาก นอกจากนี้ค่าเริ่มต้นของการยึดสังหาริมทรัพย์และกิจกรรมที่เพิ่มขึ้นในขณะที่อัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นแขนตั้งค่า ผู้ให้กู้จำนองที่ยังคงความเสี่ยงของการเริ่มต้นการชำระเงินเป็นคนแรกที่ได้รับผลกระทบเช่นเดียวกับผู้กู้ก็ไม่สามารถหรือไม่เต็มใจที่จะทำให้การชำระเงิน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

วิกฤตฤตเริ่มกับชีวิตชีวาของฟองที่อยู่อาศัยในสหรัฐอเมริกาและราคาเริ่มต้นสูง subprime และ mortgages(ARM) ปรับอัตราอื่น ๆ ทำให้ผู้กู้ความเสี่ยงสูง แรงจูงใจในการให้กู้ยืมและแนวโน้มของราคาที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้นสนับสนุนให้ผู้กู้ถือ mortgages เชื่อว่า พวกเขาจะสามารถที่จะ refinance ที่เงื่อนไขที่ดีในภายหลัง
อย่างไรก็ตาม เมื่ออยู่อาศัยราคาเริ่มต้นจะลดลงในปี 2006-2007 รีไฟแนนซ์เป็นเรื่องยากมากขึ้น ค่าเริ่มต้นและกิจกรรม foreclosure เพิ่มขึ้นในขณะที่อัตราดอกเบี้ยแขนตั้งสูง ผู้ให้กู้สินเชื่อบ้านที่คงความเสี่ยงจากการชำระเงินเริ่มต้นคนแรกที่ได้รับผลกระทบ เป็นผู้กู้ก็สามารถ หรือไม่ยอมชำระเงิน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

บรรยายเรื่องวิกฤติเศรษฐกิจที่เริ่มมีจำนวนมากของ ภาวะ ฟองสบู่ที่อยู่อาศัยในประเทศสหรัฐอเมริกาและอัตราค่าดีฟอลต์ที่สูงและเครื่องชี้จำนองอสังหาริมทรัพย์อื่นๆอัตราดอกเบี้ยปรับระดับได้(แขน)ทำให้ผู้กู้สูงขึ้นความเสี่ยง แนวโน้มและแรงจูงใจสินเชื่อของราคาที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้นการส่งเสริมให้ผู้กู้จะต้องเป็นผู้รับผิดชอบเรื่องจำนองทรัพย์สินเชื่อว่าจะสามารถ Refinance )ในเงื่อนไขเอื้อประโยชน์ต่อตนเองมากขึ้นใน ภายหลัง .
อย่างไรก็ตามเมื่อปรับราคาเริ่มที่จะลดลงใน 2006-2007 2006-2007 2006-2007 ไถ่ถอนได้กลายมาเป็นไปได้ยากยิ่งขึ้น ในการเพิ่มค่าดีฟอลต์และการทำกิจกรรมจำนองไว้เพิ่มขึ้นขณะที่อัตราดอกเบี้ยสูงขึ้นแขนรีเซ็ต นายทุนเงินกู้สินเชื่อที่อยู่อาศัยที่ถูกเก็บไว้ความเสี่ยงที่มีการผิดนัดการชำระเงินก็เป็นครั้งแรกที่จะได้รับผลกระทบเป็นผู้กู้ได้กลายมาเป็นไม่สามารถหรือไม่เต็มใจที่จะทำให้การชำระเงิน