Chapter 2 Government Control of Pri

Chapter 2 Government Control of Prices Do the Poor Benefit?

In 1987, working full-time in America can make you poor-poorer than col lecting welfare. Someone working full-time must earn $4.30 per hour to keep a family of three out of poverty. Unfortunately, the federal minimum wage requires that employers pay only $3.35 per hour. This means the income for 5 percent of all U.S. workers who earn the minimum wage or less is at the poverty level. Approximately another 5 percent, who earn slightly more than the minimum wage, are not much better off One rationale for the minimum-wage law, first established in 1938, was that a minimum wage prevented wages from falling so low that workers could not provide for their own subsistence; the minimum wage was to supply a ballast for our social principles, as well as for the earnings of orkers. Since 1938, working full-time at the minimum wage yielded a subsistence income (sometimes more) for a family of three. In 1987, how- ever, the minimum wage is just 78 percent of the poverty wage. This is the lowest percentage of the poverty wage that has existed in the United States since 1950-12 years before the War on Poverty was declared! The minimum wage does not just establish absolute standards. It also establishes the position of workers relative to one another, in that it in fluences the size of the gap between the lowest paid worker in society and the typical manufacturing worker. In 1950, minimum-wage workers earned approximately half of what manufacturing workers earned. In 1987, the minimum wage is 34 percent of the average manufacturing Thus, the wage ratio between the lowest paid worker and the factory worker went from 1:2 in 1950 to only 1:3 in 1987.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

บทที่ 2 รัฐบาลควบคุมราคาทำประโยชน์ไม่ดีในปี 1987 ทำงานเต็มเวลาในอเมริกาสามารถทำให้คุณยากจนด้อยกว่าคอลัมน์ lecting สวัสดิการ คนทำงานเต็มเวลาต้องหา $4.30 ต่อชั่วโมงเพื่อให้ครอบครัวของสามจากความยากจน อับ ค่าจ้างขั้นต่ำของรัฐบาลกลางต้องการที่นายจ้างจ่ายเพียง $3.35 ต่อชั่วโมง ซึ่งหมายความว่า รายได้ร้อยละ 5 ของคนงานสหรัฐอเมริกาทั้งหมดที่ได้รับค่าจ้างขั้นต่ำ หรือน้อยกว่าอยู่ในระดับความยากจน ประมาณอีก 5 เปอร์เซ็นต์ ที่ได้รับมากขึ้นเล็กน้อยกว่าค่าจ้างขั้นต่ำ จะไม่ค่อยปิดเหตุผลหนึ่งสำหรับกฎหมายค่าจ้างขั้นต่ำ ก่อตั้งขึ้นครั้งแรก ในปี 1938 ถูกที่เป็นค่าจ้างค่าจ้างขั้นต่ำทำให้ตกต่ำที่แรงงานไม่สามารถให้การดำรงชีวิตของตนเอง ค่าจ้างขั้นต่ำคือการ ใส่บัลลาสต์หลักเราสังคม ตลอดจนรายได้ของ orkers ตั้งแต่ปี 1938 ทำงานเต็มเวลาที่ค่าจ้างขั้นต่ำให้ผลรายได้ดำรงชีวิต (บางครั้งเพิ่มเติม) ของสาม ในปี 1987 วิธี - เคย ค่าจ้างขั้นต่ำเป็นเพียง 78 เปอร์เซ็นต์ของค่าจ้างความยากจน นี่คือเปอร์เซ็นต์ต่ำสุดของค่าจ้างความยากจนที่มีอยู่ในไทยตั้งแต่ปี 1950-12 ก่อนถูกประกาศสงครามกับความยากจน ค่าจ้างขั้นต่ำไม่เพียงสร้างมาตรฐานแน่นอน นอกจากนี้มันยังสร้างตำแหน่งของแรงงานสัมพันธ์กับคนอื่น ในที่ในได้อีกด้วยขนาดของช่องว่างระหว่างต่ำสุดจ่ายผู้ปฏิบัติงานในสังคมและผู้ปฏิบัติงานการผลิตทั่วไป ในปี 1950 ค่าจ้างขั้นต่ำแรงงานได้รับประมาณครึ่งหนึ่งของแรงงานการผลิตใดได้ ในปี 1987 ค่าจ้างขั้นต่ำเป็นร้อยละ 34 ของดังนั้นการผลิตเฉลี่ย อัตราค่าจ้างระหว่างผู้ปฏิบัติงานที่รับค่าจ้างต่ำสุดและผู้ปฏิบัติงานโรงงานไปจาก 1:2 ในปี 1950 เพียง 1:3 ในปี 1987

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

บทที่ 2 การควบคุมของรัฐบาลของราคาอย่ายากจนประโยชน์?

ในปี 1987 ทำงานเต็มเวลาในอเมริกาสามารถทำให้คุณยากจนด้อยกว่า Col lecting สวัสดิการ คนที่ทำงานเต็มเวลาจะต้องได้รับ $ 4.30 ต่อชั่วโมงเพื่อให้ครอบครัวของทั้งสามออกจากความยากจน แต่น่าเสียดายที่ค่าจ้างขั้นต่ำของรัฐบาลกลางต้องการให้นายจ้างจ่ายเพียง $ 3.35 ต่อชั่วโมง ซึ่งหมายความว่ารายได้ร้อยละ 5 ของแรงงานสหรัฐทุกคนที่ได้รับค่าจ้างขั้นต่ำหรือน้อยอยู่ที่ระดับความยากจน ประมาณอีกร้อยละ 5 ที่มีรายได้น้อยกว่าค่าจ้างขั้นต่ำจะไม่ดีกว่าหนึ่งเหตุผลสำหรับกฎหมายค่าจ้างขั้นต่ำที่จัดตั้งขึ้นครั้งแรกในปี 1938 คือการที่ค่าจ้างขั้นต่ำจะป้องกันไม่ให้ค่าจ้างจากการล้มต่ำเพื่อว่าคนงานไม่สามารถจัดให้มีการ การดำรงชีวิตของตัวเอง ค่าจ้างขั้นต่ำที่จะจัดหาบัลลาสต์สำหรับหลักการทางสังคมของเราเช่นเดียวกับผลประกอบการของ orkers ตั้งแต่ปี 1938 ทำงานเต็มเวลาที่ค่าจ้างขั้นต่ำส่งผลให้ผู้มีรายได้ยังชีพ (บางครั้งมากกว่า) สำหรับครอบครัวของทั้งสาม ในปี 1987 อย่างไรก็ตามการที่เคยค่าจ้างขั้นต่ำเป็นเพียงร้อยละ 78 ของค่าจ้างความยากจน นี้เป็นร้อยละต่ำสุดของค่าจ้างความยากจนที่มีอยู่ในประเทศสหรัฐอเมริกาตั้งแต่ปี 1950-1912 ปีก่อนที่สงครามกับความยากจนประกาศ! ค่าจ้างขั้นต่ำไม่เพียง แต่สร้างมาตรฐานที่แน่นอน นอกจากนี้ยังกำหนดตำแหน่งของแรงงานเมื่อเทียบกับอีกคนหนึ่งในการที่จะอยู่ใน fluences ขนาดของช่องว่างระหว่างคนงานจ่ายต่ำสุดในสังคมและคนงานในโรงงานทั่วไปที่ ในปี 1950 คนงานค่าจ้างขั้นต่ำที่ได้รับประมาณครึ่งหนึ่งของสิ่งที่คนงานได้รับการผลิต ในปี 1987 ค่าจ้างขั้นต่ำร้อยละ 34 ของการผลิตเฉลี่ยดังนั้นอัตราส่วนค่าจ้างระหว่างผู้ปฏิบัติงานจ่ายต่ำสุดและคนงานของโรงงานไปจากเดิม 1: 2 ในปี 1950 เพียง 1: 3 ในปี 1987

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การควบคุมของรัฐบทที่ 2 ของราคาทำประโยชน์ไม่ดี ?ในปี 1987 , ทํางานเต็มเวลาในอเมริกา สามารถทำให้คุณยากจน ยากจนกว่า Col lecting สวัสดิการ คนที่ทำงานเต็มเวลาจะได้รับ $ 30 ต่อชั่วโมงเพื่อให้ครอบครัวของทั้งสามออกจากความยากจน ขออภัย ค่าจ้างขั้นต่ำของรัฐบาลกลางต้องการให้นายจ้างจ่ายเพียง $ 15 ต่อชั่วโมง หมายถึง รายได้ที่ร้อยละ 5 ของทั้งหมดสหรัฐแรงงานที่ได้รับค่าจ้าง หรือน้อยกว่าระดับความยากจน ประมาณอีก 5 เปอร์เซ็นต์ ที่ได้รับเล็กน้อยกว่าค่าแรงขั้นต่ำ จะมากกว่าหนึ่งเหตุผลในกฎหมายค่าจ้างขั้นต่ำ ก่อตั้งขึ้นครั้งแรกในปี 1938 เป็นค่าจ้างขั้นต่ำได้ค่าจ้างจากการล้มต่ำมาก จนคนงานไม่สามารถให้ความเป็นอยู่ของตนเอง ค่าจ้างขั้นต่ำคือผลิตบัลลาสต์สำหรับหลักการทางสังคม ของเรา รวมทั้งรายได้ของ orkers . ตั้งแต่ 2481 ทำงานเต็มเวลาที่ค่าจ้างขั้นต่ำและทำให้เกิดรายได้ ( บางครั้งมากกว่า ) สำหรับครอบครัวของสาม ในปี 1987 , วิธีการ - เคย อัตราค่าจ้างขั้นต่ำอยู่ที่เพียงร้อยละ 78 ของความยากจน ค่าจ้าง นี่เป็นค่าต่ำสุดของความยากจนค่าจ้างที่มีอยู่ในสหรัฐอเมริกา ตั้งแต่ 1950-12 ปีก่อนสงครามความยากจนถูกประกาศ ! ค่าแรงขั้นต่ำไม่เพียงสร้างมาตรฐานสัมบูรณ์ นอกจากนี้ยังกำหนดตำแหน่งของแรงงานสัมพันธ์ต่อกันและกัน ในที่ใน fluences ขนาดช่องว่างระหว่างค่าจ่ายคนงานในสังคมและพนักงานผลิตทั่วไป ในปี 1950 ประมาณครึ่งหนึ่งของแรงงานการผลิตที่ได้รับได้รับ แรงงาน ค่าแรงขั้นต่ำ ในปี 1987 , อัตราค่าจ้างขั้นต่ำอยู่ที่ร้อยละ 34 ของจำนวนการผลิต ดังนั้น อัตราส่วนระหว่างค่าจ่ายค่าจ้างคนงานและคนงานโรงงาน ไป 1 : 2 ใน 1950 เพียง 1 : 3 ใน 1987