ชื่อพ้อง : พอลิเอทิลีน, High-density Polyethylene, Polyethylene high-density, PEHD
สูตรโครงสร้างทางเคมี :
พอลิเอทิลีนผลิตจากแก๊สเอทิลีนที่ผ่านกระบวนการเติมสารที่ทำให้สามารถจับตัวกันเป็นพอลิเมอร์ได้ภายใต้แรงดันขนาดต่าง ๆ ทำให้ได้พอลิเมอร์ที่มีขนาดตั้งแต่น้ำหนักโมเลกุลต่ำ (ลักษณะเป็นน้ำมัน หรือไขข้น) ไปจนถึงขนาดโมเลกุลสูง (ลักษณะเป็นของแข็งที่ยืดหยุ่นได้)
คุณสมบัติทางกายภาพ :
HDPE มีโครงสร้างทางเคมีที่เป็นกิ่งสาขา (branching) น้อย จึงมีแรงดึงดูดระหว่างโมเลกุลของพอลิเมอร์ค่อนข้างสูง มีความแข็งแรง เมื่อความหนาแน่นสูงขึ้นจะทำให้มีความแข็งและความเหนียวเพิ่มขึ้น แต่เมื่อความหนาแน่นลดลง จะทำให้ผิวแตกรานได้ง่าย ทนความร้อนได้ไม่มากนัก แต่ทนสารเคมีได้ดี โดยทนความร้อน (ทนอุณหภูมิสูงถึง 110°C และทนอุณหภูมิสูงถึง 120°C ได้ในช่วงสั้น ๆ) แต่ไม่สามารถทนอุณหภูมิสูงในหม้ออัดไอน้ำ (Autoclave) เท่าพลาสติกชนิด PP (Polypropylene, สัญลักษณ์เลข 5) และทนต่อสารเคมีมากกว่า LDPE (Low-density polyethylene, สัญลักษณ์เลข 4) ทนต่อสภาพอากาศได้ดีพอสมควร แต่อากาศสามารถซึมผ่านได้
HDPE มีสีขาวขุ่น โปร่งแสง มีความลื่นมันในตัว มีความเหนียวและยืดหยุ่น ไม่มีกลิ่น ไม่มีรส มีความหนาแน่นต่ำกว่าน้ำจึงลอยน้ำได้ สามารถผสมให้มีสีต่าง ๆ ได้
ความเป็นมา :
พอลิเอทิลีน (Polyethylene หรือ Polythene) ถูกค้นพบในปี 1933 โดย Reginald Gibson and Eric Fawcett แห่งบริษัท Imperial Chemical Industries (ICI) ในประเทศอังกฤษ วัสดุประเภทนี้มี 2 รูปแบบ คือ LDPE และ HDPE โดย LDPE ใช้ผลิตแผ่นฟิล์มและวัสดุสำหรับบรรจุหีบห่อ ส่วน HDPE มีความแข็งแรงกว่า ใช้ผลิตบรรจุภัณฑ์ ท่อน้ำ และอุปกรณ์ยานยนต์
HDPE เป็นวัสดุประเภท Polyethylene Thermoplastic (Thermoplastic คือพลาสติกที่สามารถนำกลับมาหลอมใช้ใหม่ได้) ที่ได้จากอุตสาหกรรมปิโตรเลียม จัดเป็นพลาสติกที่ได้รับสัญลักษณ์เลข 2 ซึ่งหมายถึง Resin Identification Code 2 เพื่อความสะดวกสำหรับการจำแนกชนิดของพลาสติกในการนำกลับไปเวียนทำใหม่ (recycled)
ในปี 1945 Earl Tupper แห่งบริษัท DuPont® สังเกตว่าพอลิเอทิลีนเป็นพอลิเมอร์สังเคราะห์ที่มีความเหนียว ทนทาน สามารถนำมาหล่อในแบบพิมพ์ให้มีขนาด รูปร่าง และผสมสีให้มีสีต่าง ๆ ได้ จึงเริ่มด้วยการผลิตแก้วน้ำพลาสติก และชามอ่าง ซึ่งได้รับความนิยมเนื่องจากมีน้ำหนักเบา สีสันน่าใช้ และต่อมาได้ผลิตภาชนะที่มีฝาปิดได้ด้วย ซึ่งเป็นที่มาของภาชนะบรรจุอาหารที่ได้รับความนิยมจากแม่บ้านในสมัยนั้น ในชื่อของทัปเปอร์แวร์ (Tupperware®) นั่นเอง
การใช้งาน :
HDPE ทนทานต่อสารเคมีและตัวทำละลายหลายชนิด มีความยืดหยุ่นต่อแรงกระทบกระแทก ไม่แตกร้าวง่าย สามารถนำมาใช้ประโยชน์ในงานต่าง ๆ โดยเฉพาะการผลิตภาชนะบรรจุที่เตรียมจากการเป่าจากแม่พิมพ์ (blow molding) เนื่องจากหดตัวในแม่พิมพ์ได้ดีมาก ไม่ติดแม่พิมพ์ ทำให้ถอดออกจากแม่พิมพ์ได้ง่าย ภาชนะที่ผลิตจาก HDPE เช่น ขวดบรรจุนมสด ขวดบรรจุน้ำยาซักผ้า ถังบรรจุน้ำมันในยานยนต์ ท่อประปา โต๊ะ-เก้าอี้พับได้ ถุงพลาสติก ฯลฯ นอกจากนี้ HDPE ยังใช้ในการบุพื้นบ่อฝังกลบขยะเพื่อป้องกันการรั่วซึมของสารเคมีลงสู่พื้นดินและแหล่งน้ำธรรมชาติ
ตัวอย่างผลิตภัณฑ์ที่ทำจาก HDPE
- ขวดน้ำดื่ม ขวดบรรจุนม ถาดทำน้ำแข็ง
- ภาชนะ กล่อง กระปุกบรรจุอาหาร กระปุกยาและวิตามิน
- ขวดใส่สารเคมี ขวดสบู่เหลว (ขวดปั๊ม) ขวดน้ำยาซักผ้า กระป๋องแป้ง
- ลังและกล่องบรรจุสินค้า ถุงใส่ของ
- เครื่องเล่นเด็ก
- ฉนวนไฟฟ้า
- โต๊ะ เก้าอี้
ชื่อพ้อง : พอลิเอทิลีน, High-density Polyethylene, Polyethylene high-density, PEHD
สูตรโครงสร้างทางเคมี :
พอลิเอทิลีนผลิตจากแก๊สเอทิลีนที่ผ่านกระบวนการเติมสารที่ทำให้สามารถจับตัวกันเป็นพอลิเมอร์ได้ภายใต้แรงดันขนาดต่าง ๆ ทำให้ได้พอลิเมอร์ที่มีขนาดตั้งแต่น้ำหนักโมเลกุลต่ำ (ลักษณะเป็นน้ำมัน หรือไขข้น) ไปจนถึงขนาดโมเลกุลสูง (ลักษณะเป็นของแข็งที่ยืดหยุ่นได้)
คุณสมบัติทางกายภาพ :
HDPE มีโครงสร้างทางเคมีที่เป็นกิ่งสาขา (branching) น้อย จึงมีแรงดึงดูดระหว่างโมเลกุลของพอลิเมอร์ค่อนข้างสูง มีความแข็งแรง เมื่อความหนาแน่นสูงขึ้นจะทำให้มีความแข็งและความเหนียวเพิ่มขึ้น แต่เมื่อความหนาแน่นลดลง จะทำให้ผิวแตกรานได้ง่าย ทนความร้อนได้ไม่มากนัก แต่ทนสารเคมีได้ดี โดยทนความร้อน (ทนอุณหภูมิสูงถึง 110°C และทนอุณหภูมิสูงถึง 120°C ได้ในช่วงสั้น ๆ) แต่ไม่สามารถทนอุณหภูมิสูงในหม้ออัดไอน้ำ (Autoclave) เท่าพลาสติกชนิด PP (Polypropylene, สัญลักษณ์เลข 5) และทนต่อสารเคมีมากกว่า LDPE (Low-density polyethylene, สัญลักษณ์เลข 4) ทนต่อสภาพอากาศได้ดีพอสมควร แต่อากาศสามารถซึมผ่านได้
HDPE มีสีขาวขุ่น โปร่งแสง มีความลื่นมันในตัว มีความเหนียวและยืดหยุ่น ไม่มีกลิ่น ไม่มีรส มีความหนาแน่นต่ำกว่าน้ำจึงลอยน้ำได้ สามารถผสมให้มีสีต่าง ๆ ได้
ความเป็นมา :
พอลิเอทิลีน (Polyethylene หรือ Polythene) ถูกค้นพบในปี 1933 โดย Reginald Gibson and Eric Fawcett แห่งบริษัท Imperial Chemical Industries (ICI) ในประเทศอังกฤษ วัสดุประเภทนี้มี 2 รูปแบบ คือ LDPE และ HDPE โดย LDPE ใช้ผลิตแผ่นฟิล์มและวัสดุสำหรับบรรจุหีบห่อ ส่วน HDPE มีความแข็งแรงกว่า ใช้ผลิตบรรจุภัณฑ์ ท่อน้ำ และอุปกรณ์ยานยนต์
HDPE เป็นวัสดุประเภท Polyethylene Thermoplastic (Thermoplastic คือพลาสติกที่สามารถนำกลับมาหลอมใช้ใหม่ได้) ที่ได้จากอุตสาหกรรมปิโตรเลียม จัดเป็นพลาสติกที่ได้รับสัญลักษณ์เลข 2 ซึ่งหมายถึง Resin Identification Code 2 เพื่อความสะดวกสำหรับการจำแนกชนิดของพลาสติกในการนำกลับไปเวียนทำใหม่ (recycled)
ในปี 1945 Earl Tupper แห่งบริษัท DuPont® สังเกตว่าพอลิเอทิลีนเป็นพอลิเมอร์สังเคราะห์ที่มีความเหนียว ทนทาน สามารถนำมาหล่อในแบบพิมพ์ให้มีขนาด รูปร่าง และผสมสีให้มีสีต่าง ๆ ได้ จึงเริ่มด้วยการผลิตแก้วน้ำพลาสติก และชามอ่าง ซึ่งได้รับความนิยมเนื่องจากมีน้ำหนักเบา สีสันน่าใช้ และต่อมาได้ผลิตภาชนะที่มีฝาปิดได้ด้วย ซึ่งเป็นที่มาของภาชนะบรรจุอาหารที่ได้รับความนิยมจากแม่บ้านในสมัยนั้น ในชื่อของทัปเปอร์แวร์ (Tupperware®) นั่นเอง
การใช้งาน :
HDPE ทนทานต่อสารเคมีและตัวทำละลายหลายชนิด มีความยืดหยุ่นต่อแรงกระทบกระแทก ไม่แตกร้าวง่าย สามารถนำมาใช้ประโยชน์ในงานต่าง ๆ โดยเฉพาะการผลิตภาชนะบรรจุที่เตรียมจากการเป่าจากแม่พิมพ์ (blow molding) เนื่องจากหดตัวในแม่พิมพ์ได้ดีมาก ไม่ติดแม่พิมพ์ ทำให้ถอดออกจากแม่พิมพ์ได้ง่าย ภาชนะที่ผลิตจาก HDPE เช่น ขวดบรรจุนมสด ขวดบรรจุน้ำยาซักผ้า ถังบรรจุน้ำมันในยานยนต์ ท่อประปา โต๊ะ-เก้
ชื่อพ้อง: พอลิเอทิลีน, เอทิลีนความหนาแน่นสูง, เอทิลีนความหนาแน่นสูง PEHD สูตรโครงสร้างทางเคมี ๆ (ลักษณะเป็นน้ำมันหรือไขข้น) ไปจนถึงขนาดโมเลกุลสูง : HDPE มีโครงสร้างทางเคมีที่เป็นกิ่งสาขา (แยก) น้อย มีความแข็งแรง แต่เมื่อความหนาแน่นลดลงจะทำให้ผิวแตกรานได้ง่ายทนความร้อนได้ไม่มากนัก แต่ทนสารเคมีได้ดีโดยทนความร้อน (ทนอุณหภูมิสูงถึง 110 องศาเซลเซียสและทนอุณหภูมิสูงถึง 120 องศาเซลเซียสได้ในช่วงสั้น ๆ ) (Autoclave) เท่าพลาสติกชนิด PP (Polypropylene, สัญลักษณ์เลข 5) และทนต่อสารเคมีมากกว่า LDPE (เอทิลีนความหนาแน่นต่ำ, สัญลักษณ์เลข 4) ทนต่อสภาพอากาศได้ดีพอสมควร แต่อากาศสามารถซึมผ่านได้ HDPE มีสีขาวขุ่น โปร่งแสงมีความลื่นมันในตัวมีความเหนียวและยืดหยุ่นไม่มีกลิ่นไม่มีรส สามารถผสมให้มีสีต่าง ๆ ได้ความเป็นมา: พอลิเอทิลีน (Polyethylene หรือ Polythene) ถูกค้นพบในปี 1933 โดยเรจินัลกิบสันและเอริค Fawcett แห่ง บริษัท อุตสาหกรรมเคมีอิมพีเรียล (ไอซีไอ) ในประเทศอังกฤษวัสดุประเภทนี้มี 2 รูปแบบคือ LDPE และ HDPE LDPE โดย ส่วน HDPE มีความแข็งแรงกว่าใช้ผลิตบรรจุภัณฑ์ท่อน้ำและอุปกรณ์ยานยนต์HDPE เป็นวัสดุประเภทเอทิลีนเทอร์โม (เทอร์โม ที่ได้จากอุตสาหกรรมปิโตรเลียม 2 ซึ่งหมายถึงการระบุเรซิ่นรหัส 2 (รีไซเคิล) ในปี 1945 ทัปเปอร์เอิร์ลแห่ง บริษัท DuPont® ทนทานสามารถนำมาหล่อในแบบพิมพ์ให้มีขนาดรูปร่างและผสมสีให้มีสีต่าง ๆ ได้จึงเริ่มด้วยการผลิตแก้วน้ำพลาสติกและชามอ่าง สีสันน่าใช้ ในชื่อของทัปเปอร์แวร์ (Tupperware®) นั่นเองหัวเรื่อง: การใช้งาน: HDPE มีความยืดหยุ่นต่อแรงกระทบกระแทกไม่แตกร้าวง่ายสามารถนำมาใช้ประโยชน์ในงานต่าง ๆ (แม่พิมพ์เป่า) เนื่องจากหดตัวในแม่พิมพ์ได้ดีมากไม่ติดแม่พิมพ์ทำให้ถอดออกจากแม่พิมพ์ได้ง่ายภาชนะที่ผลิตจากเม็ดพลาสติก HDPE เช่นขวดบรรจุนมสดขวดบรรจุน้ำยาซักผ้าถังบรรจุน้ำมันในยานยนต์ท่อประปาโต๊ะ - เก้าอี้พับได้ ถุงพลาสติก ฯลฯ นอกจากนี้ HDPE HDPE - ขวดน้ำดื่มขวดบรรจุนมถาดทำน้ำแข็ง- ภาชนะกล่องกระปุกบรรจุอาหารกระปุกยาและวิตามิน- ขวดใส่สารเคมีขวดสบู่เหลว (ขวดปั๊ม) ขวดน้ำยาซักผ้ากระป๋องแป้ง- ลังและกล่องบรรจุสินค้าถุงใส่ของ- เครื่องเล่น เด็ก- ฉนวนไฟฟ้า- เก้าอี้โต๊ะชื่อพ้อง: พอลิเอทิลีน, เอทิลีนความหนาแน่นสูง, เอทิลีนความหนาแน่นสูง PEHD สูตรโครงสร้างทางเคมี ๆ (ลักษณะเป็นน้ำมันหรือไขข้น) ไปจนถึงขนาดโมเลกุลสูง : HDPE มีโครงสร้างทางเคมีที่เป็นกิ่งสาขา (แยก) น้อย มีความแข็งแรง แต่เมื่อความหนาแน่นลดลงจะทำให้ผิวแตกรานได้ง่ายทนความร้อนได้ไม่มากนัก แต่ทนสารเคมีได้ดีโดยทนความร้อน (ทนอุณหภูมิสูงถึง 110 องศาเซลเซียสและทนอุณหภูมิสูงถึง 120 องศาเซลเซียสได้ในช่วงสั้น ๆ ) (Autoclave) เท่าพลาสติกชนิด PP (Polypropylene, สัญลักษณ์เลข 5) และทนต่อสารเคมีมากกว่า LDPE (เอทิลีนความหนาแน่นต่ำ, สัญลักษณ์เลข 4) ทนต่อสภาพอากาศได้ดีพอสมควร แต่อากาศสามารถซึมผ่านได้ HDPE มีสีขาวขุ่น โปร่งแสงมีความลื่นมันในตัวมีความเหนียวและยืดหยุ่นไม่มีกลิ่นไม่มีรส สามารถผสมให้มีสีต่าง ๆ ได้ความเป็นมา: พอลิเอทิลีน (Polyethylene หรือ Polythene) ถูกค้นพบในปี 1933 โดยเรจินัลกิบสันและเอริค Fawcett แห่ง บริษัท อุตสาหกรรมเคมีอิมพีเรียล (ไอซีไอ) ในประเทศอังกฤษวัสดุประเภทนี้มี 2 รูปแบบคือ LDPE และ HDPE LDPE โดย ส่วน HDPE มีความแข็งแรงกว่าใช้ผลิตบรรจุภัณฑ์ท่อน้ำและอุปกรณ์ยานยนต์HDPE เป็นวัสดุประเภทเอทิลีนเทอร์โม (เทอร์โม ที่ได้จากอุตสาหกรรมปิโตรเลียม 2 ซึ่งหมายถึงการระบุเรซิ่นรหัส 2 (รีไซเคิล) ในปี 1945 ทัปเปอร์เอิร์ลแห่ง บริษัท DuPont® ทนทานสามารถนำมาหล่อในแบบพิมพ์ให้มีขนาดรูปร่างและผสมสีให้มีสีต่าง ๆ ได้จึงเริ่มด้วยการผลิตแก้วน้ำพลาสติกและชามอ่าง สีสันน่าใช้ ในชื่อของทัปเปอร์แวร์ (Tupperware®) นั่นเองหัวเรื่อง: การใช้งาน: HDPE มีความยืดหยุ่นต่อแรงกระทบกระแทกไม่แตกร้าวง่ายสามารถนำมาใช้ประโยชน์ในงานต่าง ๆ (แม่พิมพ์เป่า) เนื่องจากหดตัวในแม่พิมพ์ได้ดีมากไม่ติดแม่พิมพ์ทำให้ถอดออกจากแม่พิมพ์ได้ง่ายภาชนะที่ผลิตจากเม็ดพลาสติก HDPE เช่นขวดบรรจุนมสดขวดบรรจุน้ำยาซักผ้าถังบรรจุน้ำมันในยานยนต์ท่อประปาโต๊ะ - เก้
การแปล กรุณารอสักครู่..

ชื่อพ้อง : พอลิเอทิลีนความหนาแน่นสูง polyethylene ความหนาแน่นสูง polyethylene , สูตรโครงสร้างทางเคมี :
pehdพอลิเอทิลีนผลิตจากแก๊สเอทิลีนที่ผ่านกระบวนการเติมสารที่ทำให้สามารถจับตัวกันเป็นพอลิเมอร์ได้ภายใต้แรงดันขนาดต่างจะทำให้ได้พอลิเมอร์ที่มีขนาดตั้งแต่น้ำหนักโมเลกุลต่ำ ( ลักษณะเป็นน้ำมันหรือไขข้น )( ลักษณะเป็นของแข็งที่ยืดหยุ่นได้ )
คุณสมบัติทางกายภาพ :
มีโครงสร้างทางเคมีที่เป็นกิ่งสาขา HDPE ( กิ่ง ) น้อยจึงมีแรงดึงดูดระหว่างโมเลกุลของพอลิเมอร์ค่อนข้างสูงมีความแข็งแรงเมื่อความหนาแน่นสูงขึ้นจะทำให้มีความแข็งและความเหนียวเพิ่มขึ้นแต่เมื่อความหนาแน่นลดลงทนความร้อนได้ไม่มากนักแต่ทนสารเคมีได้ดีโดยทนความร้อน ( ทนอุณหภูมิสูงถึง 110 ° C และทนอุณหภูมิสูงถึง 120 ° C จะได้ในช่วงสั้น ) แต่ไม่สามารถทนอุณหภูมิสูงในหม้ออัดไอน้ำ ( Autoclave ) เท่าพลาสติกชนิด PP ( Polypropylene ,สัญลักษณ์เลข 5 ) และทนต่อสารเคมีมากกว่า LDPE ( Low density polyethylene , สัญลักษณ์เลข 4 ) ทนต่อสภาพอากาศได้ดีพอสมควรแต่อากาศสามารถซึมผ่านได้
HDPE มีสีขาวขุ่นโปร่งแสงมีความลื่นมันในตัวมีความเหนียวและยืดหยุ่นไม่มีกลิ่นไม่มีรสมีความหนาแน่นต่ำกว่าน้ำจึงลอยน้ำได้สามารถผสมให้มีสีต่างจะได้
ความเป็นมา :พอลิเอทิลีน ( polyethylene ค็อค polythene ) ถูกค้นพบในปี 1933 โดยเรจินัลด์ กิ๊บสัน กับ อีริค ฟอว์เซตต์แห่งบริษัทอิมพีเรียล อุตสาหกรรมเคมี ( ICI ) ในประเทศอังกฤษวัสดุประเภทนี้มี 2 รูปแบบ LDPE HDPE LDPE ใช้ผลิตแผ่นฟิล์มและวัสดุสำหรับบรรจุหีบห่อความและโดยส่วน HDPEใช้ผลิตบรรจุภัณฑ์ท่อน้ำและอุปกรณ์ยานยนต์
เทอร์โมพลาสติก ( Thermoplastic คือพลาสติกที่สามารถนำกลับมาหลอมใช้ใหม่ได้พลาสติก HDPE เป็นวัสดุประเภท ) ที่ได้จากอุตสาหกรรมปิโตรเลียมจัดเป็นพลาสติกที่ได้รับสัญลักษณ์เลข 2 ซึ่งหมายถึงเรซินกำหนดรหัส 2( รีไซเคิล )
สามารถ 1945 ร์ลทัปเปอร์แห่งบริษัท Dupont ®สังเกตว่าพอลิเอทิลีนเป็นพอลิเมอร์สังเคราะห์ที่มีความเหนียวทนทานสามารถนำมาหล่อในแบบพิมพ์ให้มีขนาดรูปร่างและผสมสีให้มีสีต่างจะได้จึงเริ่มด้วยการผลิตแก้วน้ำพลาสติกซึ่งได้รับความนิยมเนื่องจากมีน้ำหนักเบาสีสันน่าใช้และต่อมาได้ผลิตภาชนะที่มีฝาปิดได้ด้วยซึ่งเป็นที่มาของภาชนะบรรจุอาหารที่ได้รับความนิยมจากแม่บ้านในสมัยนั้นในชื่อของทัปเปอร์แวร์ ( ทัพเพอร์แวร์® ) นั่นเอง
การใช้งาน :
HDPE ทนทานต่อสารเคมีและตัวทำละลายหลายชนิดมีความยืดหยุ่นต่อแรงกระทบกระแทกไม่แตกร้าวง่ายสามารถนำมาใช้ประโยชน์ในงานต่างจะโดยเฉพาะการผลิตภาชนะบรรจุที่เตรียมจากการเป่าจากแม่พิมพ์ ( เป่า )ไม่ติดแม่พิมพ์ทำให้ถอดออกจากแม่พิมพ์ได้ง่ายภาชนะที่ผลิตจาก HDPE เช่นขวดบรรจุนมสดขวดบรรจุน้ำยาซักผ้าถังบรรจุน้ำมันในยานยนต์ท่อประปาโต๊ะ - เก้าอี้พับได้ถุงพลาสติกฯลฯนอกจากนี้ HDPE
ตัวอย่างผลิตภัณฑ์ที่ทำจาก HDPE
- ขวดน้ำดื่มขวดบรรจุนมถาดทำน้ำแข็ง
- ภาชนะกล่องกระปุกบรรจุอาหารกระปุกยาและวิตามิน
- ขวดใส่สารเคมีขวดสบู่เหลว ( ขวดปั๊ม ) ขวดน้ำยาซักผ้ากระป๋องแป้ง
- ลังและกล่องบรรจุสินค้าถุงใส่ของ
-
-
- เครื่องเล่นเด็กฉนวนไฟฟ้าโต๊ะเก้าอี้
ชื่อพ้อง : พอลิเอทิลีนความหนาแน่นสูง polyethylene ความหนาแน่นสูง polyethylene , สูตรโครงสร้างทางเคมี :
pehdพอลิเอทิลีนผลิตจากแก๊สเอทิลีนที่ผ่านกระบวนการเติมสารที่ทำให้สามารถจับตัวกันเป็นพอลิเมอร์ได้ภายใต้แรงดันขนาดต่างจะทำให้ได้พอลิเมอร์ที่มีขนาดตั้งแต่น้ำหนักโมเลกุลต่ำ ( ลักษณะเป็นน้ำมันหรือไขข้น )( ลักษณะเป็นของแข็งที่ยืดหยุ่นได้ )
คุณสมบัติทางกายภาพ :
มีโครงสร้างทางเคมีที่เป็นกิ่งสาขา HDPE ( กิ่ง ) น้อยจึงมีแรงดึงดูดระหว่างโมเลกุลของพอลิเมอร์ค่อนข้างสูงมีความแข็งแรงเมื่อความหนาแน่นสูงขึ้นจะทำให้มีความแข็งและความเหนียวเพิ่มขึ้นแต่เมื่อความหนาแน่นลดลงทนความร้อนได้ไม่มากนักแต่ทนสารเคมีได้ดีโดยทนความร้อน ( ทนอุณหภูมิสูงถึง 110 ° C และทนอุณหภูมิสูงถึง 120 ° C จะได้ในช่วงสั้น ) แต่ไม่สามารถทนอุณหภูมิสูงในหม้ออัดไอน้ำ ( Autoclave ) เท่าพลาสติกชนิด PP ( Polypropylene ,สัญลักษณ์เลข 5 ) และทนต่อสารเคมีมากกว่า LDPE ( Low density polyethylene , สัญลักษณ์เลข 4 ) ทนต่อสภาพอากาศได้ดีพอสมควรแต่อากาศสามารถซึมผ่านได้
HDPE มีสีขาวขุ่นโปร่งแสงมีความลื่นมันในตัวมีความเหนียวและยืดหยุ่นไม่มีกลิ่นไม่มีรสมีความหนาแน่นต่ำกว่าน้ำจึงลอยน้ำได้สามารถผสมให้มีสีต่างจะได้
ความเป็นมา :พอลิเอทิลีน ( polyethylene ค็อค polythene ) ถูกค้นพบในปี 1933 โดยเรจินัลด์ กิ๊บสัน กับ อีริค ฟอว์เซตต์แห่งบริษัทอิมพีเรียล อุตสาหกรรมเคมี ( ICI ) ในประเทศอังกฤษวัสดุประเภทนี้มี 2 รูปแบบ LDPE HDPE LDPE ใช้ผลิตแผ่นฟิล์มและวัสดุสำหรับบรรจุหีบห่อความและโดยส่วน HDPEใช้ผลิตบรรจุภัณฑ์ท่อน้ำและอุปกรณ์ยานยนต์
เทอร์โมพลาสติก ( Thermoplastic คือพลาสติกที่สามารถนำกลับมาหลอมใช้ใหม่ได้พลาสติก HDPE เป็นวัสดุประเภท ) ที่ได้จากอุตสาหกรรมปิโตรเลียมจัดเป็นพลาสติกที่ได้รับสัญลักษณ์เลข 2 ซึ่งหมายถึงเรซินกำหนดรหัส 2( รีไซเคิล )
สามารถ 1945 ร์ลทัปเปอร์แห่งบริษัท Dupont ®สังเกตว่าพอลิเอทิลีนเป็นพอลิเมอร์สังเคราะห์ที่มีความเหนียวทนทานสามารถนำมาหล่อในแบบพิมพ์ให้มีขนาดรูปร่างและผสมสีให้มีสีต่างจะได้จึงเริ่มด้วยการผลิตแก้วน้ำพลาสติกซึ่งได้รับความนิยมเนื่องจากมีน้ำหนักเบาสีสันน่าใช้และต่อมาได้ผลิตภาชนะที่มีฝาปิดได้ด้วยซึ่งเป็นที่มาของภาชนะบรรจุอาหารที่ได้รับความนิยมจากแม่บ้านในสมัยนั้นในชื่อของทัปเปอร์แวร์ ( ทัพเพอร์แวร์® ) นั่นเอง
การใช้งาน :
HDPE ทนทานต่อสารเคมีและตัวทำละลายหลายชนิดมีความยืดหยุ่นต่อแรงกระทบกระแทกไม่แตกร้าวง่ายสามารถนำมาใช้ประโยชน์ในงานต่างจะโดยเฉพาะการผลิตภาชนะบรรจุที่เตรียมจากการเป่าจากแม่พิมพ์ ( เป่า )ไม่ติดแม่พิมพ์ทำให้ถอดออกจากแม่พิมพ์ได้ง่ายภาชนะที่ผลิตจาก HDPE เช่นขวดบรรจุนมสดขวดบรรจุน้ำยาซักผ้าถังบรรจุน้ำมันในยานยนต์ท่อประปาโต๊ะ - เก้
การแปล กรุณารอสักครู่..
